“ชาญอิสสระ” 6 เดือนแรก รับรู้รายได้ 394 ล้านบาท

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 ว่า มียอดรายได้เพิ่มขึ้น 248 ล้านบาท จาก 111 ล้านบาท ในปี 2547 อย่างไรก็ตามเมื่อรวมครึ่งปีแรกมีรายได้เพิ่มขึ้น 394 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นจากปี 2547 เท่ากับ 186% หรือเกือบ 2 เท่า และมีกำไรสุทธิ รวม 124 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 47 %

โดยจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 จำนวน 54 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 18 – 30 ล้าน ซึ่งขณะนี้ยอดขายเป็นที่น่าพอใจโดยมียอดขายไปแล้วกว่า 65 % ด้านงานก่อสร้างก็แล้วเสร็จไปกว่า 80% และได้มีลูกค้าเข้ามาอยู่ในโครงการแล้วหลายหลัง

ส่วนโครงการศรีพันวา ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศระดับ Hi – End มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 – 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ยอดขายก็เป็นที่น่าพอใจโดยสามารถปิดการขายในส่วนของบ้านหลังใหญ่ (Residences) เฟสแรก จำนวน 10 หลัง ด้านโครงการบ้านเพลินทะเล ซึ่งเป็นคอนโดนิเนียม Low – Rise มูลค่าโครงการ520 ล้านบาท จำนวน 114 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4 – 15 ล้านบาท ล่าสุดก็สามารถขายได้แล้ว 100%

นายสงกรานต์ อิสสระ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ได้ในครึ่งปีหลังทางบริษัทฯ ได้เตรียมขยายโครงการศรีพันวา ภูเก็ต ในส่วนของบ้านหลังใหญ่ (Residences) เฟส 2 เพิ่มอีก 10 หลัง และ Pool Villa อีก 22 หลัง นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมซึ่งมีมูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท โดยมีราคา 40,000 บาทต่อห้องต่อคืน

ด้านโครงการบ้านเพลินทะเล ชะอำ จะขยายโครงการเพิ่มอีก 80 – 100 ยูนิต โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 200 – 300 ล้านบาท โดยการขยายโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนจากกระแสเงินสดของบริษัท

“ขณะนี้บริษัทฯมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับ 1.1:1 เท่า และ Book Value อยู่ที่ 6.1 บาท / หุ้น ซึ่งยังคงสามารถกู้เงินได้อีกหากต้องการนำไปลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทฯ จะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับดังกล่าว” นายสงกรานต์กล่าว

นายสงกรานต์ อิสสระ กล่าวว่า การพัฒนาโครงการใหม่หรือการขยายแต่ละโครงการให้ใหญ่ขึ้นนั้น เนื่องจากเล็งเห็นว่ายังคงมีความต้องการของลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยในย่านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้โดยดูได้จากจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมและการจองโครงการทีมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามลูกค้าหลักของโครงการจะเป็นกลุ่มของชาวต่างประเทศ ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือพักผ่อนในเมืองไทย