ซุปเปอร์บล๊อกบุกต่างประเทศตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดนอกโต50%

นายจอมทรัพย์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า จากภาวะการณ์แข่งขันในธุรกิจอิฐมวลเบาภายในประเทศที่ค่อนข้างสูงทำให้บริษัทฯทำการขยายตลาดอิฐมวลเบาไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่ส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยขณะนี้บริษัทฯได้เปิดตลาดใหม่ไปยังประเทศแคนนาดา ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา บรูไน เวียดนาม และสิงคโปร์

นอกจากนั้น ตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศอินเดีย แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐมัลดีฟ ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตลาดอิฐมวลเบาภายใต้เครื่องหมายการค้าซุปเปอร์บล๊อกต่อไป โดยคาดว่าการทำการขยายตลาดไปยังต่างประเทศจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดในตลาดต่างประเทศมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 ในสิ้นปีนี้

“ล่าสุดสถานทูตสิงคโปร์ ในกรุงพนมเปญได้สั่งซื้ออิฐมวลเบาของซุปเปอร์บล๊อกประมาณ 10,000 ตารางเมตร เพื่อใช้ก่อสร้างอาคารสถานทูตสิงคโปร์ เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพอิฐมวลเบาของซุปเปอร์บล๊อกที่เคยใช้ก่อสร้างสถานทูตสิงคโปร์ในประเทศไทยมาแล้ว โดยจะมีการส่งมอบงานกันภายในเร็ววันนี้”นายจอมทรัพย์กล่าว

อย่างไรก็ดี จากการที่บริษัทฯใช้กลยุทธ์ขยายตลาดด้วยการเปิดตัวอิฐมวลเบารุ่นใหม่ขนาด 7 เซนติเมตร ซึ่งมีราคาต่ำ และทนแรงอัดได้มากกว่าอิฐมวลเบารุ่น 7.5 เซนติเมตรยี่ห้ออื่นในระดับ G2 ถึง 40% ส่งผลให้อิฐมวลเบาภายใต้เครื่องหมายการค้าซุปเปอร์บล๊อกเป็นที่รู้จักมากขึ้น

“การที่บริษัทฯทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปลายปีที่ฤดูการก่อสร้างกลับมาคึกคักอีกครั้ง เชื่อว่าผู้ประกอบการ และผู้รับเหมาก่อสร้างจะใช้อิฐมวลเบาภายใต้เครื่องหมายการค้าซุปเปอร์บล๊อกในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น หลังจากทดสอบตลาดอิฐมวลเบารุ่น 7 ซ.ม. และลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการก่อสร้างตึก 8 ชั้น และการสร้างที่อยู่ประเภทบ้านเดี่ยวที่นิยมเลือกใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้าง”

ทั้งนี้ ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่องที่ต้องการคุณภาพ และมาตรฐานสูง ซึ่งซุปเปอร์บล๊อกได้ผลิตอิฐมวลเบาคุณภาพ ระดับ 4 (G4) อยู่แล้ว ทั้งอิฐมวลเบาทนแรงอัดได้ดี และยังช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงานได้ด้วย

นายจอมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ยืนยันกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทได้เป็นอย่างดี คือผลประกอบการงวด 6 เดือน ปี 2548 ที่ผ่านมา ที่มีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 65.08 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ว่าบริษัทสามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตของบริษัทไว้ได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน

อนึ่ง บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด(มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 25437 ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท เพื่อดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบา เกรด 4 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบา ซึ่งประกอบด้วย บล๊อกก่อผนัง แผ่นผนังสำเร็จรูป พื้นสำเร็จรูป แผ่นหลังคา และเสาเอนทับหลัง 2.ผลิตภัณฑ์ปูนสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบา และ 3.เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาโดยเฉพาะ ได้แก่ เกรียงปูนก่อ / เหล็กเซาะร่อง เลื่อยมือ และสว่านกวนปูน