บรัสเซลส์, เบลเยียม–(บิสิเนส ไวร์)— มาตรฐานใหม่ช่วยในการเก็บรวบรวมและการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพของข้อมูล EPC ทำให้สามารถมองเห็นและติดตามซัพพลายเชนได้แบบเรียลไทม์ นับเป็นการเปิดประตูไปสู่ความแพร่หลายของซอฟท์แวร์ที่ได้มาตรฐาน
อีพีซีโกลบอล อิงค์ ในเครือ GS1 ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานที่ไม่แสวงหาผลกำไรด้วยหน้าที่หลักในการผลักดันให้อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกหันมาใช้เทคโนโลยีรหัสสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ (Electronic Product Code : EPC) และเครือข่ายอีพีซีโกลบอล (EPCglobal Network) ได้ประกาศการให้สัตยาบันมาตรฐานใหม่สำหรับซอฟท์แวร์ เพื่อการใช้เทคโนโลยี EPC ในซัพพลายเชน
มาตรฐานดังกล่าวที่รู้จักกันในชื่อ Application Level Events หรือ ALE คือมาตรฐานแรกที่สร้างสรรค์โดยบริษัทด้านซอฟท์แวร์ที่เป็นสมาชิกของอีพีซีโกลบอล ALE ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทชั้นนำมากกว่า 100 แห่งภายในกลุ่ม EPCglobal Software Action Group และกำหนดแนวทางให้ผลิตภัณฑ์ประเภทซอฟท์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี EPC รวมการจัดเก็บ การจัดการ และการกำหนดเส้นทางของข้อมูลในซัพพลายเชน
“ชุมชนของเรากำลังจะทำให้เทคโนโลยี RFID และ EPC เป็นการพาณิชย์อย่างรวดเร็ว” คริส แอดค็อก ประธานอีพีซี โกลบอล อิงค์ กล่าว “มาตรฐานซอฟท์แวร์ที่ไม่เสียค่ารอยัลตี้นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างสรรค์แนวทางออกมาตรฐานสำหรับการกรองและเก็บรวบรวมข้อมูล EPC ภายในองค์กรที่ใช้เทคโนโลยี EPC ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาระบบต่างๆให้บรรลุมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
การประกาศให้สัตยาบันมาตรฐานในวันนี้มีขึ้นหลังจากความสำเร็จของการทดสอบด้านการทำงานข้ามระบบของซอฟท์แวร์ต้นแบบจากผู้ให้บริการเทคโนโลยีหลายราย ซึ่งรวมถึง แอคซิส, คอนเนคเทอร์ร่า, โกล๊บเรนเจอร์, ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM), โพรเกรส ซอฟท์แวร์ (NASDAQ: PRGS), และเรวา ซิสเต็มส์ การทดสอบดังกล่าวรับรองว่าการส่งเสริมการใช้มาตรฐานจะทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต และบริษัทที่เป็นผู้ใช้ขั้นปลาย ซึ่งดำเนินงานในอุตสาหกรรมต่างๆที่หลากหลาย
มาตรฐานต่างๆที่พัฒนาโดยอีพีซีโกลบอลเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการเดินหน้าเครือข่ายอีพีซีโกลบอล ซึ่งรวมเทคโนโลยี RFID ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีอยู่ และเทคโนโลยี EPC เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยด้านการมองเห็นที่ถูกต้องแม่นยำและคุ้มทุนสำหรับข้อมูลของผลิตภัณฑ์ทั่วทั้งซัพพลายเชน
มาตรฐานที่ไม่เก็บคิดค่ารอยัลตี้ เป็นเป้าหมายแรกของอีพีซีโกลบอล และจะช่วยในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ทำงานข้ามระบบได้ตามมาตรฐาน และการใช้เทคโนโลยี EPC อย่างแพร่หลาย
มาตรฐานใหม่นี้ ร่วมกับมาตรฐานอื่นๆของอีพีซีโกลบอล ซึ่งรวมถึง UHF Generation 2 ซึ่งมีการให้สัตยาบันในเดือนธ.ค. 2547
มาตรฐานอีพีซีโกลบอลรับรองการทำงานข้ามระบบและกำหนดความคาดหวังด้านปฏิบัติการขั้นต่ำสำหรับส่วนประกอบที่หลากหลายในเครือข่ายอีพีซีโกลบอล ซึ่งรวมถึงส่วนประกอบซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์
อีพีซีโกลบอล อิงค์ ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนระหว่าง GS1 (EAN International ในอดีต) และ GS1 US (the Uniform Code Council ในอดีต) GS1 เป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกที่อุทิศตัวให้กับการออกแบบและการใช้มาตรฐานและโซลูชั่นระดับโลกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความชัดเจนในห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทาน ขณะที่ GS1 US เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของ GS1 ซึ่งทุ่มเทในการพัฒนาและใช้โซลูชั่นห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่ได้มาตรฐาน
