อเล็กซานเดรีย, เวอร์จิเนีย และ ตูริน, อิตาลี–(บิสิเนส ไวร์)–5 ต.ค. 2548 – บริษัท Audio MPEG, Inc. และบริษัท Sisvel, S.p.A. ประกาศว่าได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับบริษัท Thomson S.A. และบริษัทในเครือในสหรัฐและยุโรปฐานละเมิดสิทธิบัตร MPEG Audio หลายฉบับจากเครื่องเล่นเอ็มพี3 และอุปกรณ์เชื่อมต่อ (set-top box) ระบบดิจิตอล ซึ่งเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรแล้วตัวนี้ได้รับการพัฒนาและเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท France Telecom, TDF (Telediffusion De France), Philips และ IRT (Institut fur Rundfunktechnik GmbH) โดยสิทธิบัตรเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นต่อมาตรฐานการบีบอัดเสียง MPEG ที่ใช้ทั่วโลกกับเครื่องเล่นเอ็มพี3, อุปกรณ์เชื่อมต่อทีวี, การแพร่ภาพทางโทรทัศน์ระบบดิจิตอลและสินค้าเครื่องใช้อิเล็คทรอนิคส์จำนวนมากขึ้น
การฟ้องร้องครั้งนี้ดำเนินการโดยบริษัท Sisvel S.p.A. และบริษัท Audio MPEG, Inc. ซึ่งมีสิทธิในการออกสิทธิบัตร โดยการยื่นฟ้องบริษัท Thomson กรณีละเมิดสิทธิบัตรนั้นกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการและกำลังอยู่ในขั้นตอนในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย, เมืองแมนไฮม์ เยอรมนี, และมิลาน อิตาลี ซึ่งในขั้นตอนนี้ ผลิตภัณฑ์เอ็มพี3 ของ Thomson หลายพันชิ้นถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเยอรมนียึดไว้ และยังคงถูกศุลกากรยึดไว้ต่อไปหลังศาลเมืองแมนไฮม์ในเยอรมนีมีคำสั่งเบื้องต้นออกมา
คำฟ้องระบุว่า บริษัท Thomson ทำการตลาดและจำหน่ายเครื่องเล่นเอ็มพี3, อุปกรณ์เชื่อมต่อทีวี, เครื่องเล่นดีวีดีและเครื่องเล่นซีดีที่ใช้เทคโนโลยีการบีบอัดเสียง MPEG ซึ่งอยู่ในสิทธิบัตรของ France Telecom, TDF, Philips และ IRT โดยไม่มีใบอนุญาตปัจจุบันในการดำเนินการขายสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว ขณะที่บริษัทกว่า 250 แห่งได้รับอนุญาตภายใต้สิทธิบัตรเหล่านั้นและจ่ายค่ารอยัลตี้ (royalty) ซึ่งล่าสุด บริษัท Thomson ก็ได้รับการออกสิทธิบัตรเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ต่อสิทธิบัตรใหม่ในปี 2548
การฟ้องร้องคดีครั้งนี้จึงเรียกค่ารอยัลตี้สำหรับการละเมิดสิทธิบัตรที่ผ่านมา, ค่าสินไหมทดแทนเพื่อเป็นการลงโทษฐานทำการละเมิดโดยเจตนา, ค่าทนายและคำสั่งห้ามบริษัท Thomson มิให้จำหน่ายเครื่องเล่น MP3, อุปกรณ์เชื่อมต่อทีวี, เครื่องเล่นดีวีดีและเครื่องเล่นซีดีที่ใช้เทคโนโลยีการบีบอัดเสียง MPEG เป็นการถาวร
“เนื่องจากการไม่ยอมต่อใบอนุญาตใหม่ภายใต้สิทธิบัตร MPEG Audio บริษัท Thomson จึงละเลยหน้าที่ที่ต้องเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่ 3 ปัจจัยดังกล่าวจึงนำไปสู่การยึดสินค้าของเจ้าหน้าที่ศุลกากรและทำให้ต้องดำเนินคดีฟ้องร้องในสหรัฐและยุโรป” พล.อ.ริชาร์ด ไอ.นีล ประธานบริษัท Audio MPEG, Inc. กล่าว “การที่ Thomson ไม่ได้ขอใบอนุญาตไม่เป็นธรรมทั้งกับเจ้าของและผู้ประดิษฐ์สิทธิบัตรดังกล่าว ซึ่งความพยายามและการวิจัยของพวกเขาทำให้เทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ และไม่ยังไม่เป็นธรรมกับคู่แข่งกว่า 250 รายของ Thomson ที่กำลังทำตามหน้าที่ทางทรัพย์สินทางปัญญาในฐานะผู้ถือใบอนุญาตภายใต้สิทธิบัตรเหล่านี้ การดำเนินการของเราทั้งในสหรัฐและในต่างประเทศเป็นเรื่องของภาระรับผิดชอบและความรับผิดชอบ”
ด้านนายจอห์น พอล ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์บริษัท Finnegan, Henderson, Farabow, Garrett & Dunner, LLP ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายกล่าวว่า “การฟ้องร้องในสหรัฐต่อบริษัท Thomson กำลังอยู่ในชั้นศาลการพิจารณาคดีของรัฐบาลกลางที่ดำเนินการเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐ หรือที่รู้จักในชื่อ “rocket docket” การดำเนินคดีในสหรัฐมุ่งเน้นไปที่การทำให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเปิดเผยออกมาและขั้นตอนดังกล่าวก็ใช้เวลา, พลังงานและค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล ขณะที่การดำเนินคดีแบบ rocket docket ก็ใช้ทรัพยากรเหล่านี้สูงกว่ามาก เนื่องจากศาลกำหนดไว้ว่า การฟ้องร้องต้องดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์เร็วกว่าในศาลอื่นๆ”
มัลติมีเดีย ดูได้จาก: http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=4988837
ติดต่อ: Audio MPEG, Inc.
ริชาร์ด ไอ. นีล, 703-820-4530
richard.neal@audiompeg.com
หรือ
Sisvel, S.p.A.
เปาโล ดามาโต, +39-011-98-63-728
paolo.d_amato@sisvel.it
หรือ
Finnegan, Henderson, Farabow, Garrett & Dunner, LLP
จอห์น พอล, 202-408-4000
john.paul@finnegan.com
