เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงสดใสอย่างต่อเนื่อง เมื่อตลาดเงินเชื่อว่าธนาคารกลางอเมริกันมีนโยบายการเงินเข้มงวดต่อไป เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ขณะเดียวกัน เงินยูโรมีค่ากระเตื้องขึ้นเพียงชั่วขณะ หลังจากที่การจัดตั้งรัฐบาลของประเทศเยอรมนีมีแนวโน้มประนีประนอมกันเรียบร้อย ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น ไม่สามารถขยับสูงขึ้นพ้นแนวต้าน 114 เยน/ดอลลาร์ แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกในตลาดเงินและตลาดหุ้นโตเกียวก็ตาม สำหรับเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าตกต่ำในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เป็นผลจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยอังกฤษอยู่ในช่วงขาลง แตกต่างจากสหรัฐฯ ทางด้านราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ค่อนข้างผันผวน โดยมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเฉียดระดับเฉลี่ย 480 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนที่จะลดต่ำลงในเวลาต่อมาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 470 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเข้มแข็งเมื่อเทียบกับเงินตราสกุลต่างๆ สาเหตุสำคัญมาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดสหรัฐฯอยู่ในเกณฑ์สูงขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯในครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่าที่ประชุมส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าธนาคารควรป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ด้วยการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วไปของสหรัฐฯในระยะนี้ก็มิได้รับผลกระทบกระเทือนจากวิกฤตการณ์น้ำมันแพงหรือภัยธรรมชาติมากมายดังที่หวาดวิตกเท่าใดนัก ทำให้รายงานด้านตลาดแรงงานยังคงน่าพอใจอยู่บ้าง จึงมีแรงซื้อเงินดอลลาร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในทางตรงกันข้าม เงินยูโร กลับไม่ค่อยได้รับแรงสนับสนุนเท่าที่ควร ทั้งๆที่มีรายงานข่าวว่าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมของพรรคการเมืองสำคัญๆของเยอรมันได้ข้อยุติลงเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เยอรมันมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เงินยูโรมีค่าขยับสูงขึ้นชั่วขณะ เมื่อมีข่าวว่าเยอรมันจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยนาง Angel Merkel วัย 51 ปี ได้แสดงจุดยืนในช่วงหาเสียงว่าจะปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็งอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินยอมรับข่าวดีไม่นาน และกลับซบเซาในเวลาต่อมา เพราะนักลงทุนวิตกว่าการจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจทำให้การบริหารเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูเยอรมันอย่างจริงจัง อาจต้องเชื่องช้าออกไป จึงทำให้มีการเทขายเงินยูโรออกมา
นอกจากนี้ เงินเยนญี่ปุ่น ก็ดูเหมือนจะเมินปัจจัยบวกต่างๆ เพราะค่าเงินเยนยังคงตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในตลาดเงินจะมีข่าวดีต่อเงินเยน อาทิ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 8.2% จากเดือนก่อน ส่งผลให้ตลาดหุ้นโตเกียวคึกคัก รวมถึงข่าวที่ว่าสหรัฐฯเรียกร้องให้จีนปรับเพิ่มค่าเงินหยวนอีก ซึ่งน่าจะทำให้ค่าเงินเยนเข้มแข็งขึ้น แต่น่าเสียดายที่กระแสข่าวเหล่านี้กลับไม่ได้ช่วยให้ค่าเงินเยนญี่ปุ่นกระเตื้องขึ้นแต่ประการใด
ในช่วงกลางสัปดาห์ เงินดอลลาร์สะดุดลงเล็กน้อย เป็นผลจากนักลงทุนบางส่วนขายเพื่อฟันกำไร ก่อนที่จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯประกาศในช่วงท้ายของสัปดาห์ ประกอบกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่การเงินระดับสูงของธนาคารสหรัฐฯไม่ได้มีผลขับเคลื่อนตลาดมากนัก จึงทำให้การซื้อขายเงินดอลลาร์อ่อนแรงลง อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีค่าขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากรายงานยอดขาดดุลการค้าเดือนสิงหาคมต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ โดยขาดดุลเป็นมูลค่า 95 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ตลาดเงินคลายวิตกกังวลไประดับหนึ่ง และปล่อยให้ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายอยู่ในอัตราเฉลี่ยราว 1.20 ดอลลาร์/ยูโร
เงินปอนด์อังกฤษ ยังตกอยู่ในอาการซึมเซา เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคงให้ภาพสับสน โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับระดับราคาสินค้าและราคาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าอังกฤษจะดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยไปในทิศทางใด แต่การที่อังกฤษได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบแรกไปแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้หวั่นเกรงว่าอังกฤษอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและอัตราเงินเฟ้อไม่น่าหวาดกลัวอย่างที่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์ฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเขาไม่ได้มีนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งจะต้องรอผลการพิจารณาร่วมกันของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินก่อนในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินปอนด์ตกอยู่ในสภาพหวั่นไหว ทั้งนี้ เพราะความเข้มแข็งของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ทองคำในตลาดต่างประเทศ ยังได้รับความสนใจจากบรรดากองทุนต่างๆ ส่งผลให้ราคาทองถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก และพยายามทดสอบแนวต้าน 480 ดอลลาร์/ออนซ์ แรงจูงใจที่ทำให้ปริมาณการซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ความหวาดกลัวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ เหตุการณ์รุนแรงจากภัยธรรมชาติ และภัยก่อการร้ายในภูมิภาคต่างๆ ล้วนโน้มน้าวให้นักลงทุนหันมาถือทองคำเป็นหลักทรัพย์มั่นคงในระยะนี้ ประกอบกับเทศกาลแต่งงานของชาวอินเดียกำลังเริ่มต้นกันแล้ว จึงเป็นอีกแรงหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการซื้อทองคำและราคาทองคำแพงขึ้น แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะเข้มแข็งก็ตาม
อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2548 เทียบกับวันที่ 13 ตุลาคม 2548 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2069 ดอลลาร์/ยูโร (1.2031 ดอลลาร์/ยูโร) 114.12 เยน (114.36 เยน) และ 1.7568 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.7557 ดอลลาร์/ปอนด์)
ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2548 เท่ากับ 474.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 470.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2548


