ซีเม็กซ์เผยยอดขายช่วงไตรมาส 3 พุ่ง 110%

มอนเทอร์รีย์, เม็กซิโก–(บิสิเนส ไวร์)–21 ต.ค.2548 บริษัทซีเม็กซ์, เอส.เอ. เดอ วี.ซี. (NYSE: CX) ประกาศว่า ยอดขายสุทธิรวมในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2548 พุ่งขึ้น 110% สู่ระดับ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 การเพิ่มขึ้นครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลของการรวมธุรกิจของ RMC ไว้ในผลประกอบการรวมของซีเม็กซ์

ผลการดำเนินงานและทางการเงินรวมในช่วงไตรมาส 3 ของซีเม็กซ์จะเน้นให้เห็นถึงประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
— ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดส่่วนใหญ่ของซีเม็กซ์ อันเนื่องมาจากปริมาณปูนซีเมนต์, ปูนซีเมนต์ผสมเสร็จ และปริมาณรวม การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยผลักดันสำคัญสำหรับความต้องการด้านซีเมนต์และซีเมนต์ผสมเสร็จทั่วทุกตลาดของซีเม็กซ์ ขณะที่การก่อสร้างที่พักอาศัยได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่จากบรรยากาศอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำทั่วโลก
— ปริมาณปูนซีเมนต์รวมของซีเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 27% ที่ 22 ล้านเมตริกตัน ขณะที่ปริมาณปูนซีเมนต์ผสมเสร็จรวมทะยานขึ้น 225% สู่ระดับ 20.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณรวมของบริษัทพุ่งขึ้น 289% เ้ป็น 48 ล้านเมตริกตันในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว
— รายได้จากการดำเนินงานสำหรับช่วงไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 56% สู่ระดับ 771 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
— กระแสเงินสดเสรีมีจำนวน 679 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เ้พิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับ 451 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2547
— EBITDA (รายได้จากการดำเนินงานบวกค่าเสื่อมราคาและการชำระคืนเงินกู้ (amortization)) เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 54% จากช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการซื้อกิจการของ RMC

เฮคเตอร์ เมดิน่า รองประธานบริหารฝ่ายวางแผนและการเงินกล่าวว่า “ธุรกิจของเราแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 เนื่องเรามียอดขายสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลประกอบการสำหรับไตรมาสดังกล่าวสะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดหลัก ๆ ของเรา รวมทั้งแรงหนุนจากการดำเนินงานของ RMC ที่มีการรวมกันในช่วงที่ผ่่านมา เรารู้สึุกยินดีที่ได้รายงานความสำเร็จของสัดส่วนหนี้สิินสุทธิต่อ EBITDA ที่ 2.6 เท่า ในช่วงเพียง 7 เดือน หลังจากเราได้เสร็จสิ้นการซื้อกิจการของ RMC ก่อนกำหนด 1 ไตรมาส”

ผลประกอบการรวมของบริษัท
ค่าใช้จ่ายด้านสินค้าที่ขายไปและการขาย, ทั่วไปและด้านบริหาร (SG&A) พุ่งขึ้น 117% และ 155% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการซื้อกิจการของ RMC

รายได้สุทธิส่วนใหญ่สำหรับช่วงไตรมาส 3 ปี 2548 เพิ่มขึ้น 87% ที่ 675 ล้านดอลลาร์ จาก 361 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2547 และได้พุ่งขึ้น 99% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 แตะระดับ 1,855 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หนี้สินสุทธิ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2548 อยู่ที่ 8.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลง 724 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว ขณะที่สัดส่วนหนี้ิสินสุทธิต่อ EBITDA ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.6 จาก 2.9 ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2548 ส่วนการครอบคลุมผลประโยชน์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 2 ของปี 2548 ที่ 6.5 ซึ่งลดลงจาก 6.7 ของปีก่อน

ในช่วงไตรมาสดังกล่าว กระแสเงินสดเสรีอยู่ที่ 679 ล้านดอลลาร์ ประกอบกับรายได้ 91.5 ล้่านดอลลาร์จากทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมทุนกับ Ready Mix USA นั้น ส่วนใหญ่ได้มีการนำมาใช้ในการลดภาระหนี้สินสุทธิลง 687 ล้านดอลลาร์ (เมื่อแสดงในรูปดอลลาร์สหรัฐ หนี้สินสุทธิจะลดลงอีก 37 ล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของยูโร, ปอนด์และเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสดัีงกล่าว) และสำหรับการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับช่วงหลังการควบรวมกิจการกับ RMC

การเสร็จสิ้นการเสนอขายหุ้นที่ไม่มีการปรับลด (Non-Dilutive Equity)
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2548 ซีเม็กซ์ได้ประกาศว่า มีการขายหุ้น ADS จำนวนทั้งสิ้น 30,993,340 หุ้นในการเสนอขายหุ้นที่ไม่มีการปรับลด ซึ่งรวมถึงการขายหุ้น ADS จำนวน 27,000,000 หุ้น บวกกับอีก 3,993,340 หุ้น เพื่อชดเชยการทำ over-allotment หุ้น ADS จำนวน 30,993,340 หุ้นได้มีการขายทั้งในรูปของ ADS และ CPO ซึ่งประกอบด้วย ADS จำนวน 22,943,340 หุ้น และ CPO จำนวน 80,500,000 หุ้น โดยหุ้น ADS 1 หุ้นแทน CPO จำนวน 10 หุ้น หุ้น ADS ได้มีการเสนอขายต่อสาธารณชนที่ราคาหุ้นละ 49.50 ดอลลาร์ และ CPO มีการเสนอขายที่หุ้นละ 53.89 เปโซเม็กซิโก รายได้รวมของการนำหุ้นออกเสนอขายดังกล่าว ซึ่งรวมถึงรายได้จากการใช้สิทธิอ็อปชั่่น over-allotment นั้น มีมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังการทำอันเดอร์ไรท์ส่วนลดและคอมมิชชั่น รายได้ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์จากจำนวนดังกล่าว ได้มีการนำไปใช้ในการระบายสัญญาฟอร์เวิร์ดระหว่างซีเม็กซ์และธนาคารบางแห่ง โดยจำนวนเงินที่เหลืออีกราว 200 ล้านดอลลาร์มีการจ่ายให้แก่ซีเม็กซ์เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2548 การทำธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้จำนวนการครองหุ้นเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

การร่วมทุนกับ Ready Mix USA
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2548 ซีเม็กซ์ประกาศการลงนามในข้อตกลงเพื่อที่จะขยายขอบเขตของบริษัทร่วมทุนที่เพิ่งมีการจัดตั้งขึ้นร่วมกับ Ready Mix USA ขณะที่ซีเม็กซ์ ในฐานะส่วนหนึ่งของการขยายการดำเนินงานบริษัทร่วมทุนดังกล่าวนั้น ได้ให้การสนับสนุนโรงงานปูนซีเมนต์ผสมเสร็จอีก 27 แห่งและโรงงานบล็อคคอนกรีตอีก 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอตแลนต้า เขตเทศบาลรัฐจอร์เจีย และดำเนินการภายใต้ชื่อ Allied Ready Mix โดยซีเม็กซ์จะได้รับเงินจากบริษัทร่วมทุนดังกล่าวราว 91.5 ล้านดอลลาร์เพื่อตอบแทนการสนับสนุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดังกล่าว

เหตุการณ์สำคัญในตลาดหลักในช่วงไตรมาส 3
ยอดขายสุทธิจากการดำเนินงานในเม็กซิโกของซีเม็กซ์เพิ่มขึ้น 10% ที่ 782 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 709 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2547 และ EBITDA ขยายตัว 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณซีเมนต์ในเม็กซิโกเพิ่มขึ้น 1% ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 ขณะที่ปริมาณซีเมนต์ผสมเสร็จเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนอุปสงค์ในตลาดซีเมนต์ของเม็กซิโกยังคงอยู่ที่ภาคการก่อสร้างที่พักอาศัยและภาคสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ยอดขายสุทธิในสหรัฐในช่วงไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 116% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 ขณะที่ EBITDA พุ่งขึ้น 121% สู่ระัดบ 329 ล้านดอลลาร์ ปริมาณซีเมนต์ที่ใช้ดำเนินงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณปูนซีเมนต์ผสมเสร็จทะยานขึ้น 212 % ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการควบรวมกิจการกับ RMC ความต้องการซีเมนต์ยังคงได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่จากภาคสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างถนนและทางหลวง รวมทั้งภาคการพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่กำลังมีการขยายตัว และภาคที่พักอาศัียที่แข็งแกร่ง

การดำเนินงานของซีเม็กซ์ในสเปนมียอดขายสุทธิ 376 ล้่านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2548 เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547 ขณะที่ EBITDA บวกขึ้น 10% ที่ 107 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว ปริมาณซีเมนต์ภายในประเทศลดลง 2% จากช่วงไตรมาส 3 ของปี 2547, ปริมาณซีเมนต์ผสมเสร็จพุ่งขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณซีเมนต์และซีเมนต์ผสมเสร็จ เพิ่มขึ้น 5% และ 56% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 ปัจจัยสำคัญที่หนุนอุปสงค์ซีเมนต์และซีเมนต์ผสมเสร้๗ยังคงอยู่ที่การใช้จ่ายในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการก่อสร้างที่พักอาศัย แต่การขยายตัวอยู่ที่ระดับปานกลางเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ยอดขายสุทธิและ EBITDA ของการดำเนินงานของบริษัทในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 480 ล้านดอลลาร์และ 50 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ยอดขายซีเมนต์ในสหราชอาณาจักรลดลง 4% ในช่วงไตรมาส 3 และปริมาณซีเมนต์ผสมเสร็จลดลง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 ภาคสาธารณะ, ภาคการเคหะ, อุตสาหกรรมและพาณิชย์ยังคงเป็นปัจจัยผลักดันการขยายตัวที่สำคัญในสหราชอาณาจักร แม้ว่ากำลังมีการชะลอตัวลงมากขึ้น อันเนื่องมาจากการใช้จ่ายที่ลดลงในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและอุปสงค์ที่ลดลงจากภาคการซ่อมแซม บำรุงรักษา และการปรับปรุง

ตลาดยุโรปอื่น ๆ
ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2548 ยอดขายสุทธิในตลาดยุโรปอื่น ๆ อยู่ที่ 855 ล้านดอลลาีฺร์ และ EBITDA อยู่ที่ 128 ล้านดอลลาร์

ในฝรั่งเศส ปริมาณซีเมนต์ผสมเสร็จเพิ่มขึ้น 8% ในช่วงไตรมาส 3 โดยการเพิ่มขึ้นของความต้องการซีเมนต์ผสมเสร็จส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาคการเคหะที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ระัดับต่ำและแรงจูงใจด้านภาษีที่มุ่งเน้นที่การส่งเสริมการก่อสร้างที่พักอาศัย

ในเยอรมนี บรรยากาศทางเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากอัตราว่างงานที่ระดับสูง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ระดับต่ำ และบรรยากาศทางธุรกิจโดยรวมที่อ่อนแอ การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งยังคงย่ำแย่จากหนี้สินภาคสาธารณะที่ระัดับสูงและการลงทุนที่จำกัดนั้น ได้ชดเชยกับภาคที่ไม่ใช้ที่พักอาศัย ซึ่งมีการขยายตัวเล็กน้อย อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของการก่อสร้า่งอาคารพาณิชย์ ปริมาณยอดขายซีเมนต์สำหรับไตรมาสดังกล่าวลดลง 13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปึ 2547

อเมริกาใต้/กลางและแคริบเบียน
การดำเนินงานของซีเม็กซ์ในอเมริกาใต้/กลางและทะเลแคริบเบียนรายงานยอดขายสุทธิที่ 358 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปี 2548 เพิ่มขึ้น 16% เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2547 ขณะที่ EBITDA ลดลง 16% สู่ 103 ล้านดอลลาร์ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในประเทศในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น 16% ในไตรมาสนี้เทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2547

เศรษฐกิจเวเนซุเอลายังคงฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นได้แก่ภาคที่อยู่อาศัย (ทั้งการก่อสร้างด้วยตนเองและที่อยู่อาศัยที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล) และภาคสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากน้ำมัน โดยในไตรมาสนี้ ปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในเวเนซูเอลาเพิ่มขึ้น 38% เทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2547

ในโคลัมเบีย ปริมาณการขายปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น 30% ในไตรมาสนี้อันมีสาเหตุหลักจากความต้องการสูงในกา่รก่อสร้างด้วยตนเองและการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน

แอฟริกาและตะวันออกกลาง
ยอดขายสุทธิในไตรมาส 3 ของแอฟริกาและตะวันออกกลางอยู่ที่ 155 ล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 200% เทียบกับไตรมาสเดียวของปีที่แล้ว ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้น 69% สู่ 43 ล้านดอลลาร์ และกิจกรรมการก่อสร้างในตะวันออกกลางยังคงอยู่ที่ระดับสูง โดยความต้องการที่อยู่อาศัยและรายได้จากน้ำมันผลักดันการลงทุนของภาครัฐและเอกชน

เอเชีย
การดำเนินงานในเอเชียรายงานว่า ยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 53% เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2547 หรือ 76 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 13 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณการขายปูนซีเมนต์ในภูมิภาคนี้ลดลง 3% ในไตรมาส 3 ปีนี้

ซีเม็กซ์เป็นบริษัทผลิตวัสดุก่อสร้างระดับโลกที่กำลังขยายตัว โดยบริษัทจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพสูงต่อเนื่องและให้บริการที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้าและประชาคมต่างๆในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก บริษัททำให้ผลการดำเนินงานของลูกค้าดีขึ้นผ่านการให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องกับการปรับปรุงและความพยายามอย่างสม่ำเสมอเพื่อส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ www.cemex.com

ติดต่อ: ซีเม็กซ์, เอส.เอ. เดอ ซี. วี.
ฝ่ายสื่อสัมพันธ์
จอร์จ เปเรซ, (52 81) 8888-4334
หรือ
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
อับราฮัม โรดริเกซ,(52 81) 8888-4262
หรือ
ฝ่ายนักวิเคราะห์สัมพันธ์
ริคาร์โด ซาเลส, (212) 317-6008