นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยจะได้รับแรงหนุนสำคัญจากการส่งออก การกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ รวมทั้งรายได้จากดุลบริการ หลังจากครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ ในเรื่องการปรับเพิ่มของราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมาก
สำหรับในปี 2549 คาดว่า ภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ภาวะความเชื่อมั่นในเรื่องการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนมีมากขึ้น รวมทั้งมีแรงกระตุ้นจากเงินลงทุนโครงการเมกะโปรเจคของรัฐบาล และภาวะการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2549 จะเป็นผลมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก
อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มที่ดีในปี 2549 คือ ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อันเป็นผลมาจากโครงการของภาครัฐ อุตสาหกรรมยานยนต์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่การส่งออกยังขยายตัวดี อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และพลาสติก และธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเริ่มฟื้นตัว
ส่วนธุรกิจที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ภาคการเกษตร ที่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำและไข้หวัดนก อุตสาหกรรมเหล็ก ธุรกิจเช่าซื้อ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าเศรษฐกิจปี 2549 จะขยายตัวประมาณ 4.5-5.0% สำหรับอัตราดอกเบี้ยน่าจะขึ้นถึงจุดสูงสุดภายในกลางปี 2549 ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งเป้าปล่อยกู้ในปีหน้าเพิ่มขึ้นประมาณ 6-9% จากปีนี้ที่คาดว่าสินเชื่อธนาคารจะโตประมาณ 6%
ด้านนายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์สินเชื่อพาณิชยธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีอัตราการขยายตัวที่ชะลอลง แต่การขยายตัวของสินเชื่อยังสูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจขนาดใหญ่มีการขยายตัวสูง ได้ส่งผลดีต่อเนื่องมาถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทำให้ยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีสุทธิของธนาคารเพิ่มขึ้น 23,000 ล้านบาท หรือ 8.4% และแนวโน้มสินเชื่อมีการขยายตัวต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนในปี 2549 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่ม 13%
นอกจากบริการด้านสินเชื่อแล้ว ธนาคารกสิกรไทยจะเร่งขยายบริการด้านอื่นๆ อย่างครบวงจรให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอี อาทิ บริการจัดการด้านการเงิน (Cash Management) เพื่อช่วยด้านการบริหารเงินสดของเอสเอ็มอีให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด บริการด้านธุรกิจนำเข้าและส่งออก ซึ่งกลุ่มเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มที่มีธุรกรรมด้านการส่งออกและนำเข้าเติบโตสูงสุด พร้อมทั้งการจัดสัมมนาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้ความรู้ด้านการจัดการและเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีกลุ่มใหม่ๆ
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีนับเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของธนาคารกสิกรไทย โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 1.3 แสนราย มีวงเงินสินเชื่อเกือบ 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 55% ของสินเชื่อรวมของธนาคาร