ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ : โอกาสทอง…ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ถือว่าเป็นสินค้ายอดนิยมในช่วงเทศกาลฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ของทุกปีจึงนับว่าเป็นช่วงโอกาสทองของธุรกิจที่ในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ 2549 นี้ตลาดผลิตภัณฑ์เบเกอรี่โดยรวมน่าจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ยอดนิยมในช่วงเทศกาลปลายปียังคงเป็นเค็ก และคุกกี้ ซึ่งคาดว่าในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ยอดขายของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จะมากกว่ายอดขายในช่วงปกติเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ตามธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ยังเผชิญปัญหาในเรื่องการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากคู่แข่งสินค้าประเภทเดียวกันในตลาด และคู่แข่งทางอ้อมโดยเฉพาะขนมหวานแบบไทยๆ และสินค้าเพื่อสุขภาพอื่นๆที่มีผู้บริโภคบางส่วนหันไปซื้อให้กันในช่วงเทศกาลปลายปีแทนการซื้อผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ซึ่งผู้ประกอบการก็จะต้องนำกลยุทธ์ใหม่ๆมาทำตลาดในภาวะการแข่งขันที่รุนแรงนี้

ตลาดเบเกอรี่ปี’49…มูลค่า 6,500 ล้านบาท

คาดว่าตลาดเบเกอรี่ในปี 2549 มีมูลค่าสูงถึง 6,500 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวในแต่ละปีร้อยละ 10 โดยแบ่งออกเป็นเบเกอรี่ตลาดล่างมูลค่า 3,700 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.1 และเบเกอรี่ตลาดบนมูลค่า 2,800 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.9 ซึ่งเบเกอรี่ตลาดบนนี้การแข่งขันค่อนข่างรุนแรงทั้งจากตรายี่ห้อในประเทศ และตรายี่ห้อที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของตลาดเบเกอรี่ระดับบนนับว่าอยู่ในเกณฑ์สูงกว่า ทั้งมีการนำกลยุทธ์รูปแบบต่างๆ มาใช้โดยเฉพาะการเปิดร้านแฟรนไชส์โดยอิงกับห้างสรรพสินค้าที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ การบริการจัดส่งถึงที่ การรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ตลอดจนการใช้กลยุทธ์การตลาดพิเศษโดยเฉพาะการรับสมัครสมาชิกเพื่อต้องการกลุ่มลูกค้าประจำ ธุรกิจเบเกอรี่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคจะหันมาทานเบเกอรี่เป็นอาหารหลักมากขึ้น เนื่องจากต้องทำงานแข่งกับเวลา ทำให้ไลฟ์สไตล์ในการบริโภคอาหารย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเฉพาะอาหารตะวันตกอย่างเบเกอรี่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้น

ตลาดเบเกอรี่สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ

– ร้านเบเกอรี่ในโรงแรม นับว่าตลาดเบเกอรี่ระดับบนเช่นกัน โดยเน้นไว้บริการลูกค้าของโรงแรมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เข้าพัก ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจัดเลี้ยง หรือสัมมนา แต่ด้วยความเอร็ดอร่อยจนขึ้นชื่อทำให้ร้านเบเกอรี่ในโรงแรมเป็นที่นิยมของลูกค้าขาจรด้วย ซึ่งบางครั้งลูกค้าบางรายตั้งใจเข้าไปในโรงแรมเพื่อซื้อเบเกอรี่โดยเฉพาะ

– ร้านเบเกอรี่ระดับบน หรือที่เรียกกันว่าตลาดเบเกอรี่ค้าปลีก ซึ่งปัจจุบันตลาดเบเกอรี่นี้นับว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์สูง มีนักลงทุนรายใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศทยอยเข้าตลาด และส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ ดังนั้นการแข่งขันในตลาดนี้น่าจะเข้มข้นชวนติดตามมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการนำเอากลยุทธ์ต่างๆมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการบริการจัดส่งถึงสถานที่ รับจัดงานเลี้ยง ตลอดจนกลยุทธ์พิเศษอย่างเช่นการรับสมัครสมาชิก ทั้งนี้เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำ กลยุทธ์การตลาดต่างๆ นี้มักจะมีการนำมาใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่สินค้าประเภทเบเกอรี่ขายดิบขายดี โดยเฉพาะสินค้าประเภทเค็กจะมียอดขายในช่วงนี้ถึงร้อยละ 50

ตลาดเบเกอรี่ระดับบนที่น่าจับตามองอีกตลาดหนึ่ง คือ ตลาดเค็กแช่แข็ง ซึ่งเดิมการแข่งขันในตลาดนี้ไม่รุนแรงมากนัก เพราะมีคู่แข่งขันน้อยราย แต่ในปัจจุบันคู่แข่งที่น่ากลัวเริ่มเข้ามาในตลาด คือ เค็กแช่แข็งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แม้ว่าจะมีราคาอยู่ในเกณฑ์สูง แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากรสชาติ และชื่อเสียงของตรายี่ห้อนั้นในต่างประเทศ ดังนั้นการแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้นเช่นกัน

– เบเกอรี่รับสั่งทำตามบ้าน จำนวนร้านเบเกอรี่ประเภทนี้ยังไม่เคยมีการสำรวจที่แน่นอน แต่คาดหมายได้ว่าน่าจะมีจำนวนมากราย จุดเด่นของเบเกอรี่ประเภทนี้ คือ การทำตามคำสั่งซื้อ ดังนั้นจึงรับประกันได้ถึงความใหม่และสดของสินค้า ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเอาแนวความคิดของเบเกอรี่ประเภทรับสั่งทำตามบ้านนี้มาเปิดเป็นร้านที่เน้นทำตามคำสั่งซื้อแล้ว โดยอาศัยจุดเด่น คือ ผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ การเลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สามารถเลือกหาซื้อได้ง่าย สินค้ามีความหลากหลาย ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ และสินค้าที่มีรสชาติถูกปากกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย

– ร้านเบเกอรี่ทั่วๆ ไป เนื่องจากร้านเบเกอรี่ประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่มีตรายี่ห้อ จึงต้องอาศัยจุดเด่นตรงการเลือกทำเลที่ตั้งที่ต้องอยู่ในย่านชุมชน ราคาถูก ต้องอาศัยการขายในปริมาณมาก ในช่วงระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีการนำเอากลยุทธ์ที่ให้ลูกค้าเห็นกรรมวิธีการทำเบเกอรี่ โดยเฉพาะเบเกอรี่ประเภทขนมปัง เท่ากับเป็นหลักประกันให้กับลูกค้าได้ถึงความใหม่ สด และสะอาด ซึ่งนับได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และมีการนำเอาไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย นอกจากนี้เริ่มมีการพัฒนานำเอาเบเกอรี่ใส่รถเข็นเร่ขายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด

เทศกาลปลายปี…โอกาสทองของธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่

ช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาลปลายปีผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์เบเกอรี่สูง เนื่องจากเค็กและคุกกี้เป็นของกำนัลคนถูกใจและคนใกล้ชิด ตลอดจนเป็นขนมยอดนิยมในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในสำนักงาน โรงแรม และในครอบครัว สำหรับเค็กมีจุดเด่นที่ความสวยงามในการตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ตามแต่จินตนาการของผู้ให้ รวมทั้งยังสามารถเขียนถ้อยคำที่ต้องการได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย ทั้งยังมีรสชาติให้เลือกได้หลายรูปแบบเช่นเดียวกับการแต่งหน้าเค็ก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าในแต่ละปียอดจำหน่ายเค็กในช่วงเทศกาลปลายปีจะสูงกว่าช่วงปกติประมาณ 10 เท่าตัว ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่แต่ละค่ายต้องหันมาเตรียมรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเทศกาล โดยขนาดเค็กที่เป็นที่นิยมของลูกค้าแบ่งตามลักษณะของลูกค้า

กล่าวคือ ถ้าเป็นลูกค้ารายย่อยขนาดเค็กที่เป็นที่นิยมอยู่ระหว่าง 2-3 ปอนด์ และถ้าเป็นลูกค้าบริษัทขนาดจะอยู่ระหว่าง 4-5 ปอนด์ ส่วนสินค้าเบเกอรี่ประเภทอื่นๆก็มียอดจำหน่ายสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากมีเทศกาลงานเลี้ยงในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผู้บริโภคเน้นประหยัดนั้น ผู้ประกอบการต่างลดกำลังการผลิตตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงมาก และหันไปเน้นการส่งเสริมการขายที่ราคาเป็นหลัก โดยการให้ส่วนลดกับลูกค้าซึ่งจะสอดคล้องกับสภาพการณ์ตลาดในขณะนั้นมากที่สุด เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับราคา ผู้ประกอบการจึงต้องทำเค็กที่ราคาไม่แพงรองรับตลาด รวมทั้งการปรับขนาดเค็กให้เล็กลง เพื่อที่จะสามารถวางจำหน่ายได้ในราคาที่ต่ำลงด้วย

ในช่วงปลายปี 2548 ต่อเนื่องไปสู่ต้นปี 2549 ผู้ประกอบการยังคงปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยยังใช้กลยุทธ์ในเรื่องราคาเป็นตัวชูโรงเช่นเดิม กลยุทธ์โดยรวมของผู้ประกอบการในธุรกิจเค็กในปีนี้ คือ การลดราคาในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้าร้าน รวมทั้งมีการเสนอเค็กหลายรูปแบบ และเค็กพรีเมี่ยมไว้บริการลูกค้าที่ยังมีกำลังซื้อสูง เท่ากับว่าผู้ประกอบธุรกิจนั้นยอมตัดกำไรส่วนหนึ่งเพื่อพยุงธุรกิจให้อยู่รอด เนื่องจากการขึ้นราคาจะมีผลอย่างมากต่อยอดขายในภาวะที่กำลังซื้อโดยรวมของผู้บริโภคยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก รวมทั้งยังพยายามหาทางเจาะตลาดให้สามารถรองรับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าแต่ละกลุ่มให้เหมาะสมตรงจุดถูกใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากทุกค่ายจะมีบริการส่งเค็กนอกสถานที่ด้วย และการรับสั่งเค็กผ่านทางอินเตอร์เน็ต นับว่าเป็นกลยุทธ์ในการรุกถึงตัวลูกค้ามากกว่าการรอให้ลูกค้าเข้ามาในร้านเท่านั้น

ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปีนี้จะมีการแจกแผ่นพับแนะนำธุรกิจเค็กรายย่อยๆมากขึ้น โดยแต่ละรายนั้นเดิมเป็นร้านเล็กๆ หรือไม่ก็เป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในธุรกิจ มีขายในลักษณะทำตามคำสั่งซื้อมากกว่าการเปิดร้านขายเค็กเป็นหลัก ทำให้เป็นที่รู้จักในวงจำกัด แต่ในปีนี้เริ่มขยายธุรกิจมากขึ้น โดยรับคำสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต อาศัยสิ่งจูงใจลูกค้าโดยใช้กลยุทธ์ส่วนลดเมื่อสั่งชิ้นต่อไป หรือให้ส่วนลดมากถึงร้อยละ 30 ทำให้คาดหมายได้ว่าการแข่งขันในธุรกิจเค็กนั้นจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ก็จะเป็นเฉพาะในกลุ่มของธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ระดับกลางลงมาเท่านั้น ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่พรีเมี่ยมนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว และรสชาติ คุณภาพ รวมทั้งยี่ห้อเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยอมรับแล้ว

ส่วนคุกกี้และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่อื่นๆนั้นก็ได้รับความนิยมในการให้เป็นของขวัญและของกำนัลในช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาสและปีใหม่เช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยหันมานิยมรับประทานผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ต่างๆมากขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการมีการปรับกลยุทธ์ทั้งในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ นับว่าเป็นการเพิ่มยอดจำหน่ายในช่วงเทศกาล เนื่องจากผู้บริโภคหันมาเลือกผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ต่างๆเป็นของขวัญกันมากขึ้น

หลากปัญหาและอุปสรรค…ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด

ในธุรกิจเบเกอรี่ถือเป็นตลาดปราบเซียน เนื่องจากการเข้ามาในธุรกิจนี้ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก แต่การที่ธุรกิจจะอยู่รอดได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการว่ามีความแตกต่างจากคู่แข่งขันมากน้อยเพียงใด หรือหมายถึงการจับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสินค้า เพราะถ้าสินค้าไม่มีความแตกต่างกันในสายตาของผู้บริโภค โอกาสจะอยู่รอดในธุรกิจนี้เป็นไปได้ยาก ฉะนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ต้องมีผลิตภัณฑ์เด่นในสายตาผู้บริโภค เพราะถ้าผู้บริโภคติดใจซื้อสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง โอกาสที่จะขายผลิตภัณฑ์อื่นๆ นับว่าเป็นไปได้ค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ยังเผชิญอุปสรรรค คือ ภาวะการแข่งขันในธุรกิจเบเกอรี่มีสูงขึ้นจากการที่มีผู้ประกอบรายใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้นทั้งผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ต้องเร่งสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เบเกอรี่เพื่อสุขภาพที่เกาะกระแสให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น คิดเมนูใหม่ๆ ที่กินได้ง่าย กินได้บ่อย เพื่อทำให้ยอดจำหน่ายมีต่อเนื่องตลอดทั้งปี การลดขนาดของเบเกอรี่ และจำหน่ายในราคาที่ถูกลง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคและเพื่อความเหมาะสมต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีน้อยลง การเพิ่มยอดขายด้านอื่นๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม ซึ่งกลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ที่เปิดจำหน่ายเป็นร้านที่มีที่นั่งให้รับประทานในร้านด้วย เป็นต้น นอกจากนี้การเพิ่มช่องทางธุรกิจก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะธุรกิจจัดเลี้ยงนอกสถานที่หรือธุรกิจแคเทอริ่ง เช่น งานแถลงข่าว งานประชุมสัมมนา งานเลี้ยงฉลองต่างๆ บริษัทนำเที่ยว งานศพ ฯลฯ นอกจากนี้ บริการใหม่ที่น่าสนใจ คือการให้บริการจัดงานเลี้ยงส่วนตัว เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่นิยมจัดงานเลี้ยงส่วนตัวกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก ปัจจุบันยังถือเป็นช่องว่างในตลาดที่ยังไม่มีค่ายไหนลงไปรุกในตลาดนี้มากนัก ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวม 200 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมกับการจัดเลี้ยงของโรงแรมต่างๆ คาดว่าในปีนี้ธุรกิจจัดเลี้ยงนอกสถานที่จะมีมีอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 20 ซึ่งนับว่าสูงกว่าในช่วงระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ที่มีอัตราเติบโตร้อยละ 10-15

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ยังเผชิญปัญหาในเรื่องต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าแก็ส ไฟฟ้า น้ำประปา นมข้นจืด แป้ง เนยไข่ไก่ กาแฟ ช็อคโกแล็ต น้ำตาลทรายและน้ำตาลทรายแดง นอกจากนี้กระแสนิยมไทย และกระแสสินค้าสุขภาพเริ่มมาแรงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว คนไทยจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสำคัญและนิยมซื้อขนมหวานไทยๆ หรือจัดกระเช้าสินค้าสุขภาพเพื่อมอบเป็นของขวัญจากที่เคยนิยมซื้อเค็กหรือของกำนัลจากต่างประเทศ ซึ่งกระเช้าสินค้าสุขภาพที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดกระเช้าในรูปแบบต่างๆ เช่น กระเช้าผัก-ผลไม้ปลอดสารพิษ กระเช้าอาหารเพื่อสุขภาพ กระเช้าไข่ กระเช้าขนมแบบไทยทั้งขนมสด-แห้ง กระเช้าผลิตภัณฑ์สมุนไพร กระเช้าข้าวปลอดสารพิษ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้าที่ปลอดภัยจากสารพิษ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชน หรือเกษตรกรรายย่อยอีกด้วย ส่วนในด้านราคานั้นก็ยังใกล้เคียงกันกับราคาผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่นิยมมอบให้แก่กันในช่วงเทศกาลต่างๆ อีกทั้งยังสอดรับกับกระแสการรักษาสุขภาพที่มาแรงในช่วงนี้อีกด้วย

บทสรุป

ในเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงปลายปีนับว่าเป็นโอกาสทองของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เนื่องจากในช่วงนี้ยอดขายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จะเพิ่มขึ้นกว่าในช่วงปกติเกือบเท่าตัว ตลาดผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ในปัจจุบันนับว่าเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เนื่องจากในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ได้รับการยอมรับจากคนไทยมากขึ้น และรูปแบบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่มีการพัฒนาเช่นเดียวกับตลาดอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ ซึ่งทำให้มูลค่าของตลาดผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการนำเอากลยุทธ์การตลาดในรูปแบบต่างๆ มาใช้เพื่อขยายฐานการตลาด ด้วยมูลค่าตลาดที่อยู่ในเกณฑ์สูงจูงใจให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศทยอยเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าอนาคตของตลาดนี้ยังคงเติบโตต่อไปได้อีกมาก เพราะยังคงมีช่องว่างทางการตลาดให้เข้ามาลงทุน เนื่องจากการแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตามตลาดผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ยังต้องเผชิญปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการในธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อประคองตัวให้อยู่รอดในธุรกิจนี้