สถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันและเกิดน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ยังประสบปัญหาน้ำทะเลหนุน ซึ่งยิ่งซ้ำเติมให้หลายพื้นที่ใน 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง ตรัง ยะลา และสตูล ประสบภัยน้ำท่วมหนัก สำหรับอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างนั้น ประสบภัยน้ำท่วมเข้าเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เมื่อเช้ามืดวันที่ 18 ธันวาคม 2548 โดยมีน้ำปริมาณมากไหลจากอำเภอสะเดาลงสู่คลองอู่ตะเภาจนล้นทะลักเข้าท่วมย่านชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่โดยรวมได้คลี่คลายลงในวันที่ 19 ธันวาคม 2548 โดยทางการได้ระดมกำลังสร้างประตูกักน้ำจากอำเภอสะเดา และจากพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาล รวมทั้งเร่งระดมสูบน้ำออกจากเขตเศรษฐกิจชั้นในระบายออกสู่รอบนอก จึงยังคงมีพื้นที่บางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของคลองอู่ตะเภา ที่ยังมีระดับน้ำสูง 1-2 เมตร รวมทั้งถนนสายเศรษฐกิจสำคัญในตัวเมืองหาดใหญ่ ได้แก่ บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 1,2 และ 3 รวมทั้งตลาดสันติสุข กิมหยง และตลาดสดพลาซ่า ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 20-30 ซม. บรรดาร้านค้าและแผงขายของส่วนใหญ่ต่างปิดร้าน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากน้ำท่วมในระยะนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนเรื่องพายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยในวันที่ 20-21 ธันวาคม 2548 พายุนี้จะมีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของภาคใต้ในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2548
เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ แม้ว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบรรดาธุรกิจต่างๆและประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ไม่มากนัก เพราะทางการได้ประกาศเตือนประชาชนและมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและรุนแรงเมื่อปลายปี 2543 ประกอบกับเป็นช่วงวันอาทิตย์ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ต่างทยอยเดินทางกลับ คงมีบรรดาห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และแผงขายของในตลาดต่างๆที่ได้รับผลกระทบโดยตรงที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว เพราะต้องทยอยขนของหนีน้ำและพนักงานเดินทางมาทำงานไม่ได้เพราะน้ำท่วม ทำให้สูญเสียรายได้ในช่วงสั้นๆแต่ก็เป็นช่วงที่ยอดขายสูงเพราะใกล้สิ้นปีซึ่งผู้คนต่างจับจ่ายซื้อสินค้ากันจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากเส้นทางการคมนาคมทางรถยนต์และรถไฟบางเส้นทางจากอำเภอหาดใหญ่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีน้ำท่วม บางช่วงก็ชำรุดเสียหายจากน้ำท่วม จึงต้องหยุดการใช้เส้นทางชั่วคราว ทำให้การเดินทางทางบกด้วยรถยนต์และรถไฟจากหาดใหญ่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ชะงักไป
เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวหลักของหาดใหญ่พอสมควร เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างหวั่นเกรงว่าจะเกิดอุทกภัยร้ายแรงเช่นเมื่อปลายปี 2543 ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่อยู่แล้วในช่วงก่อนน้ำท่วมต่างรีบเดินทางกลับโดยเร็ว ส่วนนักท่องเที่ยวที่ซื้อโปรแกรมนำเที่ยวมายังหาดใหญ่อีกจำนวนหลายพันคน ต่างยกเลิกการเดินทางและการจองห้องพัก เมื่อทราบประกาศเตือนภัยน้ำท่วมของเทศบาลนครหาดใหญ่
สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ที่ยังอาจได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นในช่วง 2-3 วันนี้ และภาวะน้ำท่วมรุนแรงในหลายอำเภอของจังหวัดสงขลา รวมทั้งเส้นทางการคมนาคมทางรถยนต์และรถไฟจากชายแดนมายังหาดใหญ่ที่ยังชะงักอยู่ และข่าวที่เริ่มมีกลุ่มมิจฉาชีพออกตะเวนลักโขมยทรัพย์สินจากบ้านเรือนและร้านค้า เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของปี 2548 ที่เดิมบรรยากาศค่อนข้างคึกคักต่อเนื่องมาจากเทศกาลลอยกระทงที่มีการจัดงานโคมไฟนานาชาติ โดยในปีนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเตรียมจัดงาน “ไนต์พาราไดส์ หาดใหญ่ เคาต์ดาวน์ 2006” เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2549 โดยคาดว่า เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้จะส่งผลกระทบทำให้ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของปี 2548 ชะลอตัวลงทั้งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ
เมื่อพิจารณาจากตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ที่สำรวจโดยททท.ในช่วงระหว่างปี 2540-2547 พบว่า การท่องเที่ยวหาดใหญ่ที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่องในอัตราที่ไม่สูงนัก คือ เฉลี่ยร้อยละ 2 ต่อปีในช่วงปี 2540-2542 มีแนวโน้มถดถอยลงในปี 2543 เนื่องจากเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่หาดใหญ่ในช่วงวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2543 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่ธุรกิจท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ และต้องใช้เวลาในการบูรณะฟื้นฟูเมืองครั้งใหญ่หลังน้ำลด
หลังจากปี 2543 การท่องเที่ยวหาดใหญ่เติบโตต่อเนื่องมาในปี 2544 และปี 2545 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้โครงสร้างตลาดท่องเที่ยวของหาดใหญ่ปรับเปลี่ยนไป โดยมีการพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด พิจารณาจากสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยร้อยละ 37 ของตลาดนักท่องเที่ยวโดยรวมของหาดใหญ่ในช่วงระหว่างปี 2540-2543 เป็นเฉลี่ยร้อยละ 45 ในช่วงปี 2544-2545
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวหาดใหญ่มีแนวโน้มซบเซาลงตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติถดถอยลงตามลำดับ โดยในปี 2546 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 4.4 ทั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวตามแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมของไทยที่ถดถอยลง เนื่องจากเกิดสงครามสหรัฐอเมริกาและอิรัก รวมทั้งเกิดวิกฤตโรคซาร์สในช่วงครึ่งแรกของปี 2546 ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยขยายตัวร้อยละ 3.2 ทำให้ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่โดยรวมถดถอยลงเพียงเล็กน้อย โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 0.4
ในปี 2547 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งผลกระทบทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 18.4 ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยขยายตัวร้อยละ 16.6 ทำให้ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่โดยรวมขยายตัวเพียงเล็กน้อย โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้การท่องเที่ยวหาดใหญ่กลับมาพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยมากขึ้น โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยเพิ่มขึ้นมาจากเฉลี่ยร้อยละ 55 ในช่วงปี 2544-2546 เป็นเฉลี่ยร้อยละ 64 ในปี 2547 นอกจากนี้ รายได้ด้านการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ที่เคยมีมูลค่าสูงถึง 19,038 ล้านบาทในปี 2542 มีแนวโน้มถดถอยลงมาทรงตัวอยู่ในระดับเฉลี่ยปีละ 14,000 ล้านบาทในช่วงระหว่างปี 2545-2547
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของหาดใหญ่ยังมีแนวโน้มถดถอยลงต่อเนื่องมาในปี 2548 จากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่คลี่คลายลง และยังลุกลามมาถึงจังหวัดสงขลา โดยในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์เพียงไม่กี่วันได้เกิดเหตุวางระเบิดพร้อมกัน 3 จุดในอำเภอหาดใหญ่และตัวเมืองสงขลา อย่างไรก็ตาม จากความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ โดยเฉพาะการจัดงานโคมไฟนานาชาติในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่สร้างสีสันงานรื่นเริงให้เมืองหาดใหญ่ ทำให้ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่มีแนวโน้มคึกคักต่อเนื่องมาในช่วงปลายปี ที่จะมีการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่
ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งล่าสุด บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด จึงคาดการณ์ว่า โดยรวมตลอดทั้งปี 2548 ตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้โดยได้แรงหนุนจากตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยที่ยังขยายตัวต่อเนื่องแม้ในอัตราไม่สูงนัก คือ ประมาณร้อยละ 10 เทียบกับร้อยละ 16.6 ในปี 2547 เพราะมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันและค่าครองชีพมาบั่นทอน โดยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.6 ล้านคน
ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นส่วนใหญ่ คือ เกือบร้อยละ 70 ยังมีแนวโน้มถดถอยลงต่อเนื่องมาในปี 2548 แต่ในอัตราไม่สูงเท่าปี 2547 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่รวมทั้งสิ้นประมาณ 770,000 คนลดลงร้อยละ 9.6 เทียบกับปี 2547 ที่ลดลงร้อยละ 18.4
โดยรวมจึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.37 ล้านคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากปี 2547 และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวสะพัดในพื้นที่หาดใหญ่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปี 2547
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ซึ่งใกล้ช่วงสิ้นปี 2548 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของปี 2548 ที่ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประมาณการในเบื้องต้นว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่เกือบ 1 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณ 6 หมื่นคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณเกือบ 3 หมื่นคน ก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่หาดใหญ่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท
สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดท่องเที่ยวทำให้ต้องสูญเสียเม็ดเงินดังกล่าวไปมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญดังนี้
– ความรุนแรงของภาวะน้ำท่วมในอำเภอเมืองหาดใหญ่
– ระยะเวลาที่จะคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ
– การเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างทั่วถึงและรวดเร็วแก่บริษัทนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เพื่อความมั่นใจด้านความปลอดภัยที่จะเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงสิ้นปี 2548


