กรุงเทพฯ (29 ธันวาคม 2548) – การประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 (ISPA 2006 Thailand International Spa & Wellness Conference and Exhibition) ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวความคิด “ความเลิศล้ำ… แห่งโลกตะวันออก” (The Best of the East) โดยสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.) สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ สมาพันธ์สปาไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมธุรกิจสปาไทยให้ก้าวสู่สปาระดับสากล พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านสปาในภูมิภาคเอเชีย อันสืบเนื่องมาจากปัจจัยความพร้อม ตลอดจนชื่อเสียงด้านบริการในสปาของประเทศไทยที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไมตรีจิต การประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะการแพทย์แผนไทย การนวดแผนไทย และสมุนไพรไทย
ในปัจจุบันธุรกิจสปาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสปานานาชาติในประเทศไทยครั้งนี้ จึงได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นและผลักดันให้ธุรกิจสปาไทย ได้รับการยอมรับและก้าวไปสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสปา (Spa operators) ที่เล็งเห็นถึงประโยชน์ อันคุ้มค่าที่จะได้รับจากการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การจัดงานในครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดียิ่งของผู้ประกอบการสปาไทยที่จะผลักดันตนเองไปสู่ระดับสากล
ดร.ไพบูลย์ ปิลันธน์โอวาท กรรมการผู้จัดการ อโรมาเวร่า สปา ที่ปรึกษาด้านธุรกิจสปา ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา ภายใต้ชื่อ “อโรมาเวร่า” เป็นผู้ที่คร่ำหวอดในธุรกิจสปามานานกว่า 9 ปี ให้ความเห็นเกี่ยวกับการจัดการประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 (ISPA 2006 Thailand International Spa & Wellness Conference and Exhibition) ในประเทศไทยว่า “นับเป็นเรื่องน่ายินดี รัฐบาลไทยมี
นโยบายที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย หรือเมดิคอล ฮับ ออฟ เอเชีย (Madical Hub of Asia) ซึ่งไทยเองก็ได้รับการยกย่องว่ามีความเป็นเลิศด้านสปาจากนานาประเทศอยู่แล้ว งานการประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 เป็นการรวมของกลุ่มคนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านสปาจากทั่วทุกมุมโลกได้มาศึกษาและเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมสปาซึ่งกันและกัน จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับไทยเราที่จะได้นำเสนอภูมิปัญญาและความรู้เกี่ยวกับสปาไทยให้แก่ชาวโลกได้รับรู้”
“การที่รัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและผลักดันธุรกิจสปาอย่างเต็มที่ยิ่งทำให้ต่างชาติได้รู้ว่า เราให้ความสำคัญกับธุรกิจนี้จริงๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี” ดร.ไพบูลย์ กล่าวเสริม
อนันดาสปาเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจสปาที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ โดยมีที่มาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่า ความกลมกลืนในกาย จิต และวิญญาณ ในบรรยากาศแบบสปารีสอร์ทในย่านธุรกิจบนถนนสุขุมวิท
มร. เดอร์ริก เอ. กู๊ช ผู้อำนวยการ อนันดา สปา กล่าวว่า “เราตัดสินใจเข้าร่วมแสดงนิทรรศการในงานการประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่เราแสวงหาและรอคอยมาตลอด เป็นลู่ทางที่ทำให้เรามีโอกาสได้พบผู้คนและผู้เชี่ยวชาญในวงการเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็เป็นลู่ทางให้คนจากที่ต่างทั่วโลกได้รู้จักชื่อเสียงของเราอีกด้วย”
“สิ่งที่โดดเด่นและทำให้อนันดาเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปนั้นคือ การผสมผสานการใช้ผลิตภัณฑ์ของทางโลกตะวันออก มาสร้างประสบการณ์ความรู้สึกสงบ การได้พักผ่อนและเกิดความกระปรี้กระเปร่า สดชื่น อนันดาสปาเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านสปาขนาดกลาง เรามีความภาคภูมิใจในพนักงานชาวไทยและพนักงานทุกคนที่ทุ่มเททำงานเพื่อความเติบโตและก้าวหน้าของเรา” มร. กู๊ช กล่าวเสริม
ในมุมมองของผู้ประกอบการสปา ธุรกิจสปาไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ทั้งนี้เพราะประเทศไทยมีศักยภาพสูงและมีปัจจัยด้านความพร้อม กอปรกับชื่อเสียงด้านการบริการที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรไมตรี การประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ดังนั้น การจัดการประชุมสปานานาชาติ ISPA 2006 จึงนับเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้พัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นและยกระดับมาตรฐานสปาไทยให้ทัดเทียมสากล ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียในอนาคตอันใกล้
ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถหารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานประชุมสปานานาชาติในประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ www.ispa2006-thailand.com
