ธนาคารกสิกรไทยขยายการทำธุรกิจในจีน จับมือธนาคารหมินเซิง ปล่อยกู้เอสเอ็มอีวงเงินรวมกว่า 4 พันล้านบาท ใน 5 ปี หวังใช้ความชำนาญการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในไทยปูทางสู่ตลาดจีน หากสำเร็จมีแผนขยายธุรกิจและเปิดสาขาในจีนเพิ่ม
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายการทำธุรกิจในจีนเพิ่มมากขึ้น โดยได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารหมินเซิง (China Minsheng Banking Corp.) ในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีในจีน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีระยะเวลา 5 ปี เป็นเงินรวม ทั้งสิ้น 800 ล้านหยวนหรือประมาณ 4 พันล้านบาท โดยจะร่วมลงทุนฝ่ายละ 50%
การปล่อยสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีในประเทศจีนครั้งนี้ จะเป็นลักษณะการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อผสานความเชี่ยวชาญของธนาคารทั้งสองแห่งในการทำธุรกิจร่วมกัน โดยธนาคารหมินเซิงจะชำนาญการตลาดในจีน ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยเข้าใจและเข้าถึงข้อมูลด้านตลาดและการทำธุรกิจในจีนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทยมีความเชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในไทย ก็สามารถนำเทคโนโลยีและรูปแบบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ทันสมัยของธนาคารกสิกรไทยไปประยุกต์ใช้ ทั้งในกระบวนการบริหาร อนุมัติสินเชื่อ การจัดทำฐานข้อมูลลูกค้าเอสเอ็มอีในจีน ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารความเสี่ยงและมีต้นทุนดำเนินการที่ต่ำ
ปัจจุบันในประเทศจีนมีผู้ประกอบการที่เป็นเอสเอ็มอีจำนวนมาก แต่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากสถาบันการเงินในจีนที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีโดยตรงยังมีน้อย อีกทั้งธนาคารต่างๆ ในจีนยังไม่มีกลไกในการกำหนดราคาตามระดับความเสี่ยง ธนาคารส่วนใหญ่จึงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอี ส่งผลให้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอีในจีนยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร
นายบัณฑูร กล่าวว่า ความร่วมมือกับธนาคารหมินเซิงในการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีในจีนครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเข้าสู่ตลาดการเงินของจีนอย่างแท้จริง และหากการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีประสบผลสำเร็จยังมีแนวโน้มที่ธนาคารกสิกรไทยจะขยายธุรกิจ รวมทั้งพิจารณาเปิดสาขาในจีนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ธนาคารหมินเซิง เป็นธนาคารท้องถิ่นของจีนที่มีศักยภาพในการบริหารและมีแผนในการขยายตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ประมาณ 5 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท มีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 4 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท และมีกำไรประมาณ 2 พันล้านหยวนหรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในขณะที่มี NPL ต่ำกว่า 2% ซึ่งถือเป็นธนาคารที่มี NPL ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
