เอชพีเตรียมความพร้อมลุยตลาดงานพิมพ์ คาดแชร์ส่วนแบ่งตลาด AIO Inkjet 50%

เอชพีเสริมกลยุทธ์เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ สร้าง ความเป็นหนึ่งในธุรกิจงานพิมพ์ ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำทางด้าน “Digital Photography” ด้วยเครื่องพิมพ์ครบทุกเซ็กเมนต์ ตอบสนองความต้องการการใช้งานทุกประเภทด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยีล่าสุด เผยตลาดพริ้นเตอร์ของเอชพีมีอัตราการเติบโต 15% ของตลาดรวม คาดเอชพีจะเติบโตเป็น 25 % ภายในสิ้นปีนี้

นายกฤษณ์ กิตติทัตต์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์- แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องพิมพ์ในปัจจุบันนั้นมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เอชพีในฐานะที่เป็นผู้นำในตลาด จึงต้องทำการปรับกลยุทธ์การตลาดอยู่เสมอเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันและรักษาความเป็นผู้นำ ทั้งนี้ กลยุทธ์ล่าสุดที่เอชพีนำมาใช้ในการเพิ่มความได้เปรียบคือการตอกย้ำซับแบรนด์ในแต่ละเซ็กเม้นต์ให้แข็งแกร่งและจดจำง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการการใช้งานของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน

“สิ่งที่เอชพีเน้นย้ำมาโดยตลอดคือ การสร้างประสบการณ์ด้าน Digital Photography แก่ผู้บริโภคในเรื่องของการพิมพ์ ซึ่งที่ผ่านมาเอชพีได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ที่ตอบสนองการทำงานของผู้บริโภคได้หลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ทางเอชพีเล็งเห็นคือการที่เครื่องพิมพ์ในแต่ละรุ่นนั้นจะมีฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะยากต่อการตัดสินใจเลือกรุ่นที่ตอบสนอง ความต้องการจริงๆ สำหรับผู้บริโภคบางกลุ่มที่มีความต้องการใช้งานเฉพาะด้าน เอชพีจึงได้มีการแบ่งเซ็กเม้นต์ของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนขึ้นตามการใช้งานรวมทั้งยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งแก่ซับแบรนด์ของเครื่องพิมพ์เอชพีด้วย นอกจากนี้ เอชพียังมองว่าการแบ่งเซ็กเม้นต์ในลักษณะนี้จะทำให้การดำเนินกิจกรรมการตลาดและการขายสำหรับผู้แทนจำหน่ายง่ายขึ้น โดยผู้แทนจำหน่ายสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้บริโภคในการเลือกเครื่องพิมพ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และยังทำให้การขยายฐานตลาดไปยังผู้บริโภคเป้าหมายในแต่ละเซ็กเม้นต์นั้นสามารถทำได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน” นายกฤษณ์ กิตติทัตต์ กล่าว

รายละเอียดของการแบ่งเซ็กเม้นต์เพื่อแยกประเภทการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นนั้น ได้แก่ Deskjet AIO, Photosmart, Officejet โดย Deskjet AIO และ Deskjet Printer เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานเริ่มต้น และผู้ใช้ทั่วไป Photosmart AIO และ Photosmart Printer เจาะกลุ่มผู้ใช้เครื่องพิมพ์เพื่อพิมพ์งานทั่วไป และพิมพ์รูปภาพ และ Officejet AIO และ Officejet Printer เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ Professional ที่พิมพ์จำนวนมาก ซึ่งการแบ่ง segment นี้ จะเพิ่มความได้เปรียบทางการตลาดให้แก่เอชพี เพราะจะทำให้ผู้บริโภคจดจำรุ่นผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น และทำให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดความซ้ำซ้อนอีกด้วย

ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์รุ่นล่าสุดของเอชพีที่จะวางตลาดในเดือนกรกฎาคมนี้ คือ
Deskjet AIO : รุ่น F370 และ F380
Deskjet Printer : รุ่น D2360 และ D4160
Photosmart AIO : รุ่น C3180 และ C4180

“จุดแข็งอีกประการหนึ่งของเอชพีคือ ความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่าย เนื่องจากเอชพีมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมในทุกเซ็กเม้นต์ตลาดตั้งแต่ตลาดองค์กรจนถึงตลาดคอนซูเมอร์ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์ของช่องทางจัดจำหน่ายในลักษณะส่งเสริมกันและกันได้อย่างเต็มที่ และการแบ่ง segment ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเอชพีจะครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพิมพ์อย่างต่อเนื่องแน่นอน และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ เราจะมีส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่ม AIO Printer ถึง 50% และกลุ่ม Single Function Printer 25%” นายกฤษณ์ กล่าวปิดท้าย

เกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นผู้นำในการใหับริการด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี และโซลูชั่นครบวงจรแก่ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และหน่วยงานทั่วโลกดยครอบคลุมการให้บริการด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานภายในบ้านและสำนักงานธุรกิจตลอดจนธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ สำหรับผลประกอบการของบริษัทประจำปีงบประมาณ ณ วันที่ 30 เมษายน 2549 เอชพีมีรายได้รวมทั้งสิ้น 88.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ข้อมูลเพิ่มเติม www.hp.com