ศูนย์การค้าระดับโลก “สยามพารากอน” รังสรรค์ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการระดับชาติ บนพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร ชั้น 5 ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ให้เป็น “ดิ อัลติเมท เวนู” (The Ultimate Venue) ที่หรูหราสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย และครบครันด้วยอุปกรณ์แสง สี เสียง สุดไฮเทค เพื่อรองรับการจัดงานระดับ World Class ตอบสนองนโยบายภาครัฐ ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการประชุมและสัมมนา หรืออุตสาหกรรมไมซ์ (MICE – Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นาย ชาญชัย จารุวัสตร์ ประธานกรรมการ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท บริษัทได้สร้างให้ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” เป็นสุดยอดศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการระดับชาติ เป็นแมกเนต (magnet) สำคัญของโครงการสยามพารากอน เพื่อรองรับการจัดงานระดับ World Class อาทิ การจัดนิทรรศการ, การจัดประชุม สัมมนา และกิจกรรมพิเศษต่างๆ ทั้งการเปิดตัวสินค้า, การแสดง และ เทรดแฟร์ (Trade Fairs) เป็นต้น พร้อมตอบสนองเจตนารมย์ของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของตลาดไมซ์ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแข่งขันกับประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง”
อุตสาหกรรมไมซ์มีส่วนสำคัญต่อการ เสริมสร้างเศรษฐกิจของชาติแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเป็นศูนย์รวมการติดต่อระหว่างผู้ผลิต ผู้ซื้อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำธุรกรรมการค้าได้อย่างครบวงจร อีกทั้งกระจายรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนักท่องเที่ยวในกลุ่มสัมมนาระดับนานาชาติ มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อครั้งมากกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 3 เท่าตัว โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณ 10,000 บาทต่อวัน ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปที่ใช้จ่ายประมาณคนละ 3,700 บาทต่อวัน
ในปัจจุบัน อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยสถิติของมูลค่าตลาดการประชุมสัมมนาในประเทศไทยเติบโตขึ้นจาก 3.3 แสนล้านบาทในปี 2547 เป็นกว่า 4 แสนล้านบาทในปี 2548 โดยคาดว่าในปีนี้ จะมีมูลค่ามากกว่า 5 แสนล้านบาท ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์ก็เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2548 มีจำนวนประมาณ 5 แสนคน และในปี 2549 นี้ ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวไมซ์จะเข้ามาประมาณ 7.8 แสนรายหรือเพิ่มขึ้นถึง 30%
• ที่ตั้งทำเลทองโดดเด่น
ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งกลางใจเมืองของ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” บนสี่แยกปทุมวันซึ่ง เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางธุรกิจของประเทศ และด้านหน้าโครงการสยามพารากอนยังเป็นที่ตั้งของสถานีใหญ่รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรคับคั่ง และที่สำคัญยิ่ง คือ การตั้งอยู่ในสยามพารากอน ศูนย์รวมสรรพสิ่งและความบันเทิงระดับโลก จะช่วยเอื้อให้ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” โดดเด่นด้วยการบริการแบบครบวงจร หรือ one-stop service ซึ่งยังไม่เคยปรากฏที่ใดในเมืองไทยมาก่อน
• พื้นที่และโครงสร้างของ “รอยัล พารากอน ฮอลล์”
นาย อรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รอยัล พารากอน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ได้รับการออกแบบตกแต่งภายในอย่างพิถีพิถันและจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมอันหลากหลาย ด้วยพื้นที่รวมทั้งสิ้น 12,000 ตารางเมตร บนชั้น 5 ของศูนย์การค้าสยามพารากอน ประกอบด้วย
• พารากอน ฮอลล์ 1, 2 และ 3 เหมาะสำหรับการจัดงานหลากหลายประเภทตามจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด ได้แก่ คอนเสิร์ต, นิทรรศการ, งานจัดเลี้ยง, การเปิดตัวสินค้าต่างๆ และงานออกร้าน เป็นต้น
พารากอน ฮอลล์ 1 ออกแบบอย่างหรูหราเป็นรูปเหลี่ยมของเพชร ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า
“พารากอน” บนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร และจุคนได้กว่า 2,000 คน พร้อมเพดานสูง 8 เมตร ภายใน ผนังทั้ง 3 ด้านล้อมรอบด้วยกระจกใส ทำให้แสงจากภายนอกผ่านเข้ามาในฮอลล์ได้อย่างเต็มที่ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติภายนอก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
พารากอน ฮอลล์ 2 และ 3 มีพื้นที่รวม 5,100 ตารางเมตร สามารถแบ่งเป็น 2 ฮอลล์ได้ด้วยผนังเลื่อนเก็บเสียง (partitions) ความสูง 12.5 เมตร สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะงานคอนเสิร์ต ที่สามารถจุคนได้มากกว่า 5,000 คน พร้อมด้วยจุดยึดแขวนรับน้ำหนักได้ 500 กิโลกรัมต่อจุด สำหรับแขวนป้ายตกแต่ง หรืออุปกรณ์แสง สี เสียง ได้ตามความต้องการ
• ห้องประชุมจำนวน 5 ห้อง เหมาะสำหรับการจัดประชุมระดับผู้บริหาร โดยสามารถจัดเป็นที่นั่งรูปแบบ
ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ 20 – 50 ที่นั่ง โดยห้องประชุมสามารถเปิดเชื่อมถึงกันได้ เพื่อเพิ่มขนาดให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
พร้อมกันนี้ ยังเสริมความหรูหราโอ่อ่าด้วยพื้นที่โถงต้อนรับโถงหน้าทำด้วยหินอ่อนสำหรับรับรองแขก, ห้องอเนกประสงค์, ห้องวีไอพีและศูนย์บริการธุรกิจ (Business Center) เพื่อรองรับความต้องการของผู้จัดงานอย่าง
ครบวงจร
นอกจากนี้ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีอันทันสมัย อาทิ
• ระบบเสียงดิจิตอลซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Sound Wave Blu 80) ติดตั้งภายในรอยัล พารากอน ฮอลล์ 2 และ ฮอลล์ 3 ทำจากใยแก้วที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ (Acoustic Panel) เพื่อช่วยดูดซับและควบคุมความก้องของเสียง ทำให้เสียงที่ถ่ายทอดออกมาชัดเจนและลดเสียงสะท้อน
• ระบบไฟพิเศษ ( Moving Head) เป็นอุปกรณ์ประกอบสำหรับการจัดแสดงงาน เหมาะสำหรับการจัดคอนเสิร์ต หรืองานที่เน้นแสง สี เสียง เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา
• ระบบ Down Light สามารถปรับระดับของความสว่างได้ ตามความเหมาะสมของแต่ละอีเวนต์
• เครื่องตรวจจับควัน (Beam Detector) ใช้ระบบแสงเลเซอร์ตรวจจับสัญญาณควันไฟ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยเครื่องจะส่งสัญญาณไปยังห้องควบคุมทันที ทำให้สามารถป้องกันและควบคุมอัคคีภัยได้อย่างทันท่วงที
• ไอพีโฟน (IP Phone) สุดยอดนวัตกรรมที่สามารถใช้โทรศัพท์และใช้อินเตอร์เนตได้ในขณะเดียวกัน มีความไวสูงและมีเสถียรภาพที่ดีมาก โดยได้จับมือกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น “รอยัล พารากอน ฮอลล์” นับเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกในประเทศที่ติดตั้งระบบนี้
• ระบบอินเตอร์เนตไร้สาย (Wi-Fi Internet) และอินเตอร์เนตความเร็วสูง (High-speed Internet) สามารถจัดการประชุมผ่านจอภาพ (VDO Conference) หรือการรับชมการถ่ายทอดสด (Live Broadcast)
• แผนงานการตลาดและกิจกรรมพิเศษต่างๆ
สำหรับนโยบายทางการตลาดในปี 2549 “รอยัล พารากอน ฮอลล์” เน้นกลุ่มตลาดในประเทศ 80% และตลาดต่างประเทศ 20% รูปแบบการจัดงานประเภทนิทรรศการหรืองานแสดงสินค้า 50% และ Special Events 50% ก่อนเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล อาทิ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (Thailand Convention and Exhibition Bureau หรือ TCEB) สมาคมการแสดงสินค้าไทย (Trade Exhibition Association (Thai) หรือ TEA) และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติไทย (Thailand Incentive and Convention Association หรือ TICA) จัดโรดโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ยังประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรปและเอเชีย พร้อมจัดสรรงบประมาณในการลงสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ทั้งสื่อต่างประเทศและในประเทศที่เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์
นับตั้งแต่เปิดดำเนินการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ได้รับความสนใจจากบริษัท
เจ้าของผลิตภัณฑ์, ออร์แกไนเซอร์และองค์กรต่างๆ เลือกใช้เป็นสถานที่จ้ดงานสำคัญระดับชาติมากมาย อาทิ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2549 Bangkok International Film Festival 2006,งานเทศกาลของเล่นนานาชาติ International Toys Show 2006, งานประกาศผลรางวัล MTV Asia Award, งานเปิดตัวเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส ณ กรุงเทพฯ La Fete “French cultural Festival in Bangkok และงานอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่ง
ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีงานนิทรรศการและการสัมมนาเชิงวิชาการทางด้านอุตสาหกรรมเหล็กกล้า Bangkok Steel Exhibition & Conference 2006, งานแสดงสุดยอดเทคโนโลยีแสงและเสียงระดับโลกและการวางระบบติดตั้งที่ทันสมัย PALA 2006 & Install Asia 2006 in Bangkok, งานนิทรรศการการออกแบบตกแต่งภายใน Interior In Trend 2006 และงานนิทรรศการการออกแบบตกแต่งภายใน DESIGNEX 2006 รวบรวมบรรดาผู้นำในแวดวงอินทีเรียชั้นนำของโลก ล้วนแต่เป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำการตลาดของทีมงานที่พยายามเลือกสรรงานที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับสถานที่ ที่ได้ชื่อว่า “The Ultimate Venue in the Prestigious Location”
ด้วยปณิธานแน่วแน่ของความภาคภูมิแห่งสยามประเทศ “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการระดับชาติ พร้อมสนองนโยบายรัฐบาล และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ ประดุจเพชรน้ำงามอีกหนึ่งเม็ดที่จะเจิดจรัสไปทั่วทั้งประเทศ
