Eric MacDonald ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ เอส เอ พี (ไทยแลนด์)

MacDonald เดินหน้านำความสำเร็จสู่ศูนย์กลางธุรกิจ (Growing Hub) ของ เอส เอ พี ประกอบด้วย ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ปากีสถาน บลูไน ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

เมื่อเร็วๆนี้ เอส เอ พี เอเชีย แปซิฟิก ประกาศการแต่งตั้ง Eric MacDonald เป็นประธาน Southeast Asia ซึ่งประกอบด้วย เอส เอ พี ประเทศไทย มาเลเชีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ที่สิงคโปร์ และมาเลเชีย รวมถึง ปากีสถาน และบลูไน ล่าสุดได้รับแต่งตั้งเป็น กรรมการผู้จัดการ เอส เอ พี (ไทยแลนด์) และบริหารงานด้านการขาย ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยการประกาศแต่งตั้งนี้ เอส เอ พี แปซิฟิก จะประกอบด้วยศูนย์กลางธุรกิจ (business hub) 5 แห่งหลักๆ กล่าวคือ อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เอเชียเหนือ และญี่ปุ่น

“ผมมีความมั่นใจ ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพของ เอส เอ พี (ไทยแลนด์) ในการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จให้องค์กร พร้อมวางกลยุทธ์ที่แตกต่าง และสามารถปรับตามตลาดซอฟต์แวร์ไทยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” Mr. MacDonald กล่าว

เพื่อรองรับอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของ เอส เอ พี ในภาคพื้น เอเชีย แปซิฟิก และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าในภาคพื้นดังกล่าว ได้ดีมากยิ่งขึ้นนั้น SAP Executive Board ได้ประกาศให้ เอส เอ พี เอเชีย แปซิฟิก มีศูนย์กลางธุรกิจ (hub) 4 แห่ง เมื่อครั้งต้นปี 2548 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน ได้เพิ่มเป็น 5 แห่ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดซอฟต์แวร์ของ เอส เอ พี ในขณะที่ การมุ่งเน้นการวาง positioning องค์กรที่ชัดเจนและดียิ่งกว่า จะช่วยสร้างความแตกต่างให้เป็นที่ประจักษ์แก่ลูกค้าในทุกมุมโลก ตามแนวคิดที่ว่า “SAP’s accelerating growth”

“ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ เอส เอ พี สิงคโปร์ และมาเลเชีย เกิดขึ้นด้วยการนำของ Eric” Hans-Peter Klaey, president and CEO เอส เอ พี เอเชีย แปซิฟิก กล่าว “การรวม เอส เอ พี ไทยแลนด์ มาเลเชีย สิงคโปร์ อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ เป็นศูนย์กลาง Southeast Asia hub ภายใต้การบริหารงานของ Eric ทำให้เราสามารถพัฒนาความกลมเกลียวของตลาดซอฟต์แวร์ในแต่ละประเทศ ทั้งยังช่วยสร้างสรรค์ best practices เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้ดียิ่งขึ้น”
หลังจากดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เอส เอ พี มาเลเชีย เพียงช่วงระยะหนึ่ง Mr. MacDonald ก็ได้รับหน้าที่การบริหาร เอส เอ พี สิงคโปร์ เมื่อเดือนมกราคม 2548 และล่าสุด เอส เอ พี (ไทยแลนด์) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2549

ทั้งนี้ Mr. MacDonald ร่วมงานกับ เอส เอ พี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มากมาย อาทิ SAP senior vice president of education and general counsel สำหรับภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก โดยในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว Mr. MacDonald ได้นำความสำเร็จและพัฒนาธุรกิจ SAP Education business ใน 12 ประเทศ ทั้งสร้างปรากฎการณ์ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างเห็นได้ชัด สำหรับบทบาทการทำงานด้าน general counsel นั้น ได้รับผิดชอบในการบริหารทีม regional legal ของ เอส เอ พี เอเชีย แปซิฟิก เพื่อนำร่องการพัฒนาความโปร่งใส

เกี่ยวกับ เอส เอ พี
เอส เอ พี เอจี (NYSE: SAP) เป็นผู้จัดหาซอฟท์แวร์โซลูชั่นทางด้านธุรกิจชั้นนำระดับโลก โซลูชั่นของเอส เอ พีได้ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรทุกขนาด – ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไปจนถึงองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพร้ซ์ โซลูชั่น mySAP? Business Suite – ได้รับการพัฒนาบน SAP NetWeaver? ซึ่งเป็นโครงสร้างระบบที่รองรับแอพพลิเคชั่นและการเชื่อมโยงแบบเปิด ช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนทางธุรกิจ เสริมอานุภาพในการปฏิรูปองค์กร และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถปรับปรุงสัมพันธภาพของลูกค้าตลอดจนพันธมิตรให้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับระบบซัพพลายเชนและการดำเนินธุรกิจทั้งระบบ นอกจากนี้ เอส เอ พี ยังมีโซลูชั่นที่รองรับความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะด้านถึงกว่า 25 ประเภท ตั้งแต่ อุตสาหกรรมการบินไปจนถึงธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีแกนหลักในการดำเนินงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ปัจจุบันเอส เอ พีมีลูกค้ากว่า 29,800 ราย กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ถึง 120 ประเทศทั่วโลกซึ่งได้รับการติดตั้งซอฟท์แวร์ของเอส เอ พีแล้วกว่า 100,600 แห่ง นอกจากนี้เอส เอ พี มีสาขาอยู่ใน 50 ประเทศทั่วโลก และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง ทั้งที่แฟรงเฟิร์ท และ NYSE ภายใต้สัญลักษณ์ “SAP” (สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก http://www.sap.com