ซันนี่เวล, แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนส ไวร์)
บริษัทเอเอ็มดี (NYSE:AMD) ประกาศในวันนี้ว่า อุตสาหกรรมซอฟท์แวร์โดยรวมให้การสนับสนุนโพรเซสเซอร์ในตระกูล Next-Generation AMD Opteron(TM) ที่กำลังจะมีการเปิดตัวออกมา ซึ่งจะทำให้ผู้จำหน่ายซอฟท์แวร์อิสระ (ISV) และกลุ่มประชาคมพัฒนาซอฟท์แวร์แบบโอเพ่น ซอร์ส (open source) ได้รับความสนับสนุนด้านฮาร์ดแวร์สำหรับการพัฒนาวิวัฒนาการลำดับต่อไปของแอพพลิเคชั่นภาคองค์กรประเภทธุรกิจ
“ในขณะที่ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ของเรายังคงเติบโตในแต่ละปี และเรามีสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดได้มากกว่า 30% กลุ่มพัฒนาซอฟท์แวร์จึงกำลังฉวยโอกาสดังกล่าวเพื่อสนับสนุนและเติบโตไปพร้อมกับเอเอ็มดี” นายมาร์ตี้ เซเยอร์ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ บริษัทเอเอ็มดีกล่าว “นับตั้งแต่การเปิดตัวชุดคำ สั่ง AMD64 และสถาปัตยกรรมเชื่อมต่อโดยตรงในปี 2546 เอเอ็มดี ก็ได้ทำงานร่วมกับหุ้นส่วนด้านซอฟท์แวร์ของเราและกลุ่มซอฟท์แวร์แบบโอเพ่น ซอร์สเพื่อรับรองว่า แอพพลิเคชั่นแบบทำงานหลายๆงานพร้อมกัน (multi-threaded) และแบบ 64 บิทควบคุมศักยภาพของเทคโนโลยี AMD64 ระบบอีโคซิสเต็มของหุ้นส่วนซอฟท์แวร์ของเราจะยังขยายตัวต่อไปอันเนื่องมาจากประโยชน์ที่มีอยู่แล้วซึ่งนักพัฒนาซอฟท์แวร์สามารถประสบผลสำเร็จได้ด้วยโพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่มีเสถียรภาพ สามารถอัพเกรดได้และผ่านการพิสูจน์แล้ว, การผนวกรวมชิ้นงานและทรัพยากรที่ยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพการทำงานที่มั่นคงเมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นที่มีความต้องการใช้สูงสุดในโลก”
เนื่องจากอุตสาหกรรมกำลังประสบกับความต้องการมากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถสร้างการรวมทรัพยากรศูนย์ข้อมูลและลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของโดยรวม (TOC) โพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron จึงได้รับการออกแบบให้นำเสนอทางเลือกที่ชาญฉลาดขึ้นด้วยการแนะนำเทคโนโลยี AMD Virtualization(TM) และวิธีการอัพเกรดได้อย่างราบรื่นจากการประมวลผลแบบ dual-core ไปเป็นแบบ quad-core นอกจากนี้ โพรเซสเซอร์ AMD Opteron ที่มีสถาปัตยกรรมเชื่อมต่อโดยตรงยังลดหรือขจัดปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น ซอฟท์แวร์จึงสามารถใช้เทคโนโลยี AMD64 แบบ dual-core และระเบียบวิธีการพัฒนาแบบทำงานหลายงานพร้อมกันเพื่อผลักดันขอบเขตของการวิเคราะห์ข้อมูลและการจำลองโลกที่เป็นจริงด้วยฮาร์ดแวร์ที่ทำงานได้เร็วขึ้น มีอานุภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ลูกค้าและหุ้นส่วนกำลังต้องการโซลูชั่นที่ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าขึ้นด้วยโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพสูง” นายบ็อบ มูเกลีย รองประธานอาวุโส แผนกธุรกิจซอฟท์แวร์และอุปกรณ์ บริษัทไมโครซอฟท์กล่าว “โพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron พร้อมด้วยเวอร์ชั่นปัจจุบันและอนาคตของ Windows Server จะส่งเสริมการพัฒนาซอฟท์แวร์และผลักดันให้เกิดการนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาใช้มากขึ้นในด้านความปลอดภัย การสร้างระบบเสมือนจริง (virtualization) และการจัดการ”
การพัฒนาการรวมทรัพยากรให้ก้าวหน้าขึ้น: เตรียมพร้อมรับขั้นต่อไปของการสร้างระบบเสมือนจริงและการประมวลผลแบบ multi-core
โพรเซสเซอร์ Next Generation AMD Opteron ทำงานได้ด้วยตัวช่วยฮาร์ดแวร์ซึ่งทำให้ผู้จำหน่ายซอฟท์แวร์สร้างระบบเสมือนจริงมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพดีขึ้นและใช้งานง่ายขึ้นสำหรับการนำเสนอการสร้างระบบเสมือนจริงประเภทเมนเฟรมให้แก่ตลาด x86
“แพลตฟอร์มสร้างระบบเสมือนจริงของ VMware และระบบที่ทำงานบนโพรเซสเซอร์ AMD Opteron ถูกผนวกรวมในปัจจุบันไว้ในศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยมากที่สุดหลายแห่ง ซึ่งทำให้สามารถประหยัดไฟได้มาก และทำให้เกิดการรวมทรัพยากรอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” นายไบรอัน ยุน รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และพันธมิตร บริษัท VMware กล่าว “โพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron รวมการสนับสนุนฮาร์ด แวร์เพิ่มเติมที่เน้นประโยชน์ของ VMware Infrastructure 3 มากขึ้นในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายที่แท้จริงสำหรับการแบ่งปันทรัพยากรต่างๆอย่างโปร่งใสทั่วทั้งภาคธุรกิจ”
ผู้จำหน่ายระบบปฏิบัติการ (OS) ซึ่งรวมถึงผู้จำหน่ายโอเพ่น ซอร์ส กำลังจัดส่งระบบปฏิบัติการที่จะใช้ประโยชน์จากโพรเซสเซอร์แบบ multi-core แล้ว
“ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2546 บริษัทโนเวลล์ได้ทำงานร่วมกับเอเอ็มดีเพื่อแนะนำระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิตในระดับการผลิตตัวแรกให้แก่ตลาดภาคองค์กร และตั้งแต่นั้นมา ความร่วมมือของเราในการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับกลุ่มโอเพ่น ซอร์สก็ยังคงมีสูงมากอยู่” นายโรเจอร์ เลวี่ รองประธาน ฝ่ายโอเพ่น แพลตฟอร์มโซลูชั่น บริษัทโนเวลล์กล่าว “แพลตฟอร์มโพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron ของเอเอ็มดีจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากคุณสมบัติเด่นด้านการสร้างระบบเสมือนจริงใน SUSE Linux Enterprise 10 ที่เพิ่งมีการเปิดตัว”
ตระกูลโพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron จะเตรียมอุตสาหกรรมให้พร้อมรับการเปลี่ยน แปลงที่ราบรื่นไปสู่การประมวลผลแบบ quad-core ด้วยการมอบเสถียรภาพที่ยอดเยี่ยมของแพลตฟอร์ม โพรเซสเซอร์แบบ multi-core ช่วยให้ผู้พัฒนาก้าวข้ามขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพของแบบ single-core ในยุคปัจจุบันได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความสามารถด้านประสิทธิภาพที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการซอฟท์แวร์ที่ทันสมัยในยุคอนาคต ดังนั้น จึงคาดว่าการนำเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ในวงกว้างอย่างต่อเนื่องจะทำให้วิศวกรซอฟท์แวร์สามารถใช้ระบบการทำงานหลายงานพร้อมกันได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นในการออกแบบโค้ด (code) ซึ่งจะช่วยกรองแอพพลิเคชั่นระบบทำงานหลายงานพร้อมกันที่ทันสมัยจากภาคองค์กรไปสู่ตลาดกลุ่มไคลเอนท์และคอนซูเมอร์
เอเอ็มดีมีแผนจะประกาศการวางจำหน่ายโพรเซสเซอร์ Next-Generation AMD Opteron ในวันที่ 15 ส.ค.2549 นี้ และในสัปดาห์หน้าที่งานประชุมและนิทรรศการลีนุกซ์เวิลด์ (LinuxWorld Conference and Expo) ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 14-17 ส.ค.2549 ที่ซานฟรานซิสโก เอเอ็มดีจะเข้าร่วมในงานสัมมนาหลายๆหัวข้อด้วยกัน ซึ่งได้แก่ “Linux in the Channel: Interactive Discussion Between the Channel and LinuxVendors,” “The State of Linux on the Desktop: An OSDL Desktop Linux Working Group Panel Discussion” และ “How Emerging Data Center Architectures Are Making Virtualization a Reality.” หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าไปดูได้ที่เว็บไซท์ http://www.linuxworldexpo.com/live/12/
เกี่ยวกับโพรเซสเซอร์ AMD Opteron(TM)
ปัจจุบัน บริษัท 90 % ในบริษัทชั้นนำ 100 แห่งของทำเนียบฟอร์บส์ โกลบอล 2000 หรือบริษัทในเครือเลือกใช้ระบบที่ทำงานบนโพรเซสเซอร์ AMD Opteron(TM) โดยโพรเซสเซอร์ AMD Opteron(TM) แบบ single-core และ dual-core ให้ประสิทธิภาพสูงสุดและประสิทธิภาพต่อวัตต์มากที่สุดในตลาด เนื่องจากเป็นโพรเซสเซอร์ทีผลิตด้วยเทคโนโลยี AMD64 ที่มีสถาปัตยกรรมเชื่อมต่อโดยตรง ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นเพื่อลดปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้นในสถาปัตยกรรมของบัสด้านหน้าแบบดั้งเดิม และทำให้เกิดวิธีการประมวลผลที่มีประสิทธิผลมากขึ้น
AMD, สัญลักษณ์ลูกศรของ AMD, AMD Opteron และชื่ออื่นๆที่ประกอบด้วยชื่อเหล่านี้เป็นเครื่องหมายการค้าของ Advanced Micro Devices, Inc. ส่วน Windows เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Microsoft Corporation ในสหรัฐและ/หรือประเทศอื่นๆ สำหรับชื่ออื่นๆใช้เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้น
ติดต่อ: เอเอ็มดี
แอนดรูว์ ฟ็อกซ์, 512-602-9002 (ประชาสัมพันธ์)
[email protected]
หรือ
ไมค์ ฮาส, 408-749-3124 (นักลงทุนสัมพันธ์)