งานศพ : เม็ดเงินสะพัด 35,000 ล้านบาท…หลากธุรกิจรับทรัพย์

ปัจจุบันงานศพเป็นงานที่สร้างเม็ดเงินให้กับหลากธุรกิจ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานศพทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 35,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปริมาณเม็ดเงินที่หมุนเวียนมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการคำนวณจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจัดงานศพ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจัดงานศพนี้จะแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยของความต้องการของเจ้าภาพงานศพ การจัดพิธีแตกต่างกันตามความเชื่อทางศาสนา นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายนี้ยังแตกต่างกันอย่างมากสำหรับงานศพในกรุงเทพฯ เมืองธุรกิจใหญ่ๆ และต่างจังหวัด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพในกรุงเทพฯและเมืองธุรกิจใหญ่ๆโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าต่างจังหวัดประมาณ 3 เท่าตัว

เม็ดเงินในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานศพที่อยู่ในเกณฑ์สูงทำให้มีผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลายรายพยายามเข้ามาแย่งชิงสัดส่วนตลาดในธุรกิจงานศพ เนื่องจากเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและเป็นการสร้างช่องทางการตลาดเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านจัดดอกไม้ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ และธุรกิจของชำร่วย ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานศพนี้ต้องอิงกับวัดหรือโรงพยาบาล ซึ่งจะเป็นแหล่งที่จะทราบว่าจะมีลูกค้าต้องการใช้บริการเมื่อใด หรืออาจจะต้องมีการเข้าไปประมูลแข่งขันกันเพื่อที่จะได้สิทธิผูกขาดการเป็นผู้ดำเนินงานเกี่ยวกับงานศพในวัด นอกจากนี้ยังเกิดธุรกิจใหม่คือธุรกิจรับจัดงานศพอย่างครบวงจร โดยผู้ประกอบการที่มีอาชีพในการรับจัดงานหรือออร์แกไนเซอร์ขยายประเภทของธุรกิจเข้ามาแย่งชิงสัดส่วนตลาดในธุรกิจงานศพ โดยอาศัยข้อได้เปรียบในแง่ของการดำเนินการต่างๆอย่างเบ็ดเสร็จอำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้ตาย ซึ่งเดิมนั้นทางญาติของผู้ที่เสียชีวิตจะต้องวิ่งวุ่น ตั้งแต่ติดต่ออำเภอในการแจ้งตาย ติดต่อกับวัดที่ต้องการจัดงานศพ และวัดจะเป็นคนกลางในการติดต่อดำเนินการต่างๆให้ จัดรถมารับศพเพื่อไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนาไปจนถึงการเผาหรือฝังตามความประสงค์ของผู้ตาย

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานศพทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 35,000 ล้านบาทต่อปี โดยเงินค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเริ่มคำนวณกันตั้งแต่การเคลื่อนย้ายศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาไปจนกระทั่งเผาหรือฝังตามความต้องการของผู้ตายหรือญาติ อย่างไรก็ตามงบประมาณในการจัดงานศพย่อมแตกต่างกันไปตามความพึงพอใจของเจ้าภาพเป็นหลัก บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจพบว่าค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ดังนี้

1.ค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เจ้าภาพงานศพจะต้องจ่าย ค่าใช้จ่ายส่วนนี้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าภาพ โดยแยกเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญ ดังนี้

-ค่าโลงศพ ราคาโลงศพแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของไม้หรือวัสดุที่ใช้ทำโลง เช่น โลงไม้ยาง โลงไม้เนื้อแข็ง โลงไม้อัด โลงมุก เป็นต้น และความแตกต่างของลวดลายที่ตกแต่งโลงศพ โดยมีราคาโลงศพต่ำสุดประมาณ 3,000 บาท และสูงสุดถึงกว่า 200,000 บาท ซึ่งจะเป็นโลงศพที่มีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ เช่น โลงศพประดับมุก โลงศพติดเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

-ค่าดอกไม้ประดับหน้าศพและเมรุ ค่าดอกไม้ประดับหน้าศพและเมรุอยู่ในช่วง 8,000-15,000 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันตามประเภทดอกไม้ ปริมาณของดอกไม้ที่ใช้ และรูปแบบของการจัดดอกไม้ เช่น การจัดแบบสวนน้ำตก เป็นต้น นอกจากนี้ในบางกรณีเจ้าภาพงานศพต้องการเปลี่ยนดอกไม้ใหม่ เนื่องจากดอกไม้ดังกล่าวมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 วัน สำหรับผู้ตั้งสวดพระอภิธรรมหลายวัน อาจจะต้องสั่งเปลี่ยนดอกไม้ 2-3 ชุด นอกจากนี้ในวันเผาเจ้าภาพบางรายต้องการตกแต่งเมรุให้ดูสวยงามด้วย

-ค่าอาหารเลี้ยงแขก ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารที่จัดเลี้ยงหลังการสวดพระอภิธรรมในแต่ละคืนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของอาหาร เช่น การเลี้ยงข้าวต้ม เลี้ยงของว่างประเภทน้ำชา-กาแฟ เป็นต้น ซึ่งถ้าเจ้าภาพให้ทางวัดจัดการให้นั้นทางวัดจะคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัว โดยให้ทางเจ้าภาพประมาณจำนวนแขกในแต่ละคืนมาให้ ในบางกรณีที่เจ้าภาพสั่งอาหารมาเองค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับประเภทและจำนวนแขกเช่นกัน จากการสำรวจข้อมูลเฉพาะวัดในกรุงเทพฯราคาในการจัดเลี้ยงอาหารงานศพแต่ละคืนเฉลี่ยประมาณ 2,000-5,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาร่วมงาน แต่หากเจ้าภาพมีฐานะเลี้ยงเป็นโต๊ะจีนก็จะเริ่มต้นที่ราคา 5,000 บาทไปจนถึง 10,000 บาท ซึ่งค่าอาหารนี้ยังไม่นับรวมในกรณีที่เจ้าภาพต้องการเหมาให้ทำอาหารถวายพระฉันเช้า และฉันเพลในระหว่างที่ตั้งศพ และเลี้ยงพระรวมทั้งญาติในวันที่มีการเผาศพด้วย นอกจากนี้เจ้าภาพบางรายยังมีการว่าจ้างในการเลี้ยงพระในวันครบรอบ 7 วันอีกด้วย

-ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดนี้จะแตกต่างกันอย่างมากโดยบางวัดจะแจกแจงรายการค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดเหล่านี้มาให้เจ้าภาพพิจารณาอย่างละเอียด แต่บางวัดจะเก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในลักษณะเหมารวม โดยค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่สำคัญคือ ค่าบำรุงศาลา ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังแตกต่างกันที่ขนาดของศาลา ประเภทของศาลา และจำนวนวันที่ตั้งศพ กล่าวคือ ถ้าศาลาขนาดใหญ่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าศาลาขนาดเล็ก และถ้าศาลาที่มีเครื่องปรับอากาศค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าศาลาธรรมดา ค่าธรณีสงฆ์กรณีที่ญาติต้องเก็บศพผู้เสียชีวิตไว้ก่อนยังมิได้ประกอบพิธีเผาหรือนำไปฝัง วัดจะมีโกดังเก็บศพไว้ และกำหนดให้เก็บศพไว้ไม่เกิน 100-150 วัน เสียค่าบำรุงวัด 500-1,000 บาท ค่าบำรุงเมรุและค่าน้ำมันเผาศพประมาณ 2,000 บาท เจ้าหน้าที่จัดการศพทั้งรดน้ำศพและเผาศพประมาณ 1,000 บาท ค่าผ้ามหาบังสกุล/ผ้าบังสกุล เครื่องไทยธรรมถวายพระสวดอภิธรรมรวมทั้งดอกไม้ธูปเทียนถวายพระประมาณ 1,000 บาท/คืน นอกจากนี้เจ้าภาพบางรายยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนนี้ถ้าต้องการถวายสังฆทาน ติดกัณฑ์เทศน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ได้แก่ ค่าเครื่องตราสัง ค่ารถไปรับศพ ค่าแรงคนงานไปรับศพ ค่าแรงงานคนงานบรรจุศพ ค่าสายสิญจน์ ค่าเฝ้าจุดธูปหน้าศพกลางวัน-กลางคืน ค่าดอกไม้จันทน์เผาศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับของระลึกในงานเผาศพอีกด้วย นอกจากนี้เจ้าภาพบางรายยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นเงินสินน้ำใจเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศาลาด้วย

2.รูปแบบของพิธีกรรมทางศาสนา จากการสำรวจพบว่ารูปแบบของพิธีกรรมทางศาสนาเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่ายงานศพแตกต่างกัน โดยค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดต่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นเป็นพิธีงานศพแบบไทย ส่วนในกรณีที่เป็นงานศพแบบจีนนั้นจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในกรณีที่ทำพิธีกงเต็ก และค่าหลุมฝังศพ กล่าวคือ

-การทำพิธีกงเต็ก เจ้าภาพจัดงานศพจะมีค่าใช้จ่าย 2 ส่วนคือ ค่าใช้จ่ายให้กับคณะที่จัดพิธีกงเต็ก และค่าใช้จ่ายเพิ่มให้กับทางวัด โดยค่าใช้จ่ายให้กับคณะที่จัดพิธีกงเต็กนั้นแตกต่างกันในกรณีที่เป็นกงเต็กใหญ่หรือเล็ก กล่าวคือกงเต็กใหญ่จะมีพระสวด 9 รูป สวดตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 20,000 บาท ส่วนกงเต็กเล็กนิมนต์พระสวด 3-7 รูป สวดตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 10,000-18,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมเครื่องกระดาษและของไหว้ในพิธีที่เจ้าภาพจะต้องจัดเตรียมเอง โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แตกต่างกันโดยมีราคาตั้งแต่ 3,000-20,000 บาท นอกจากนี้เจ้าภาพยังมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มให้กับทางวัด โดยในวันทำพิธีกงเต็กนั้นทางวัดจะคิดค่าอนุญาตทำพิธีกงเต็ก ค่าบำรุงเตาเผาเครื่องกงเต็ก และค่าตำรวจรักษาการคืนทำกงเต็ก ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในส่วนนี้จะแตกต่างกันในแต่ละวัดอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท

-ค่าหลุมฝังศพ จะมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 1,000,000 บาทขึ้นไปทั้งนี้ขึ้นกับทำเล สำหรับทำเลปานกลางก็จะมีราคาประมาณ 1 แสนบาท แต่ถ้าทำเลดีก็จะมีราคา 2-3 แสนบาทขึ้นไป โดยในงานแบบจีนจะมีส่วนเพิ่มคือ เสื้อผ้าของญาติที่จะใช้ทำพิธีกงเต็ก ค่าจัดพิธีกงเต็ก ของไหว้ศพ เครื่องกระดาษ(ใช้เผา) ค่าดูฮวงจุ้ย และอื่นๆ

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันชาวไทยเชื้อสายจีนบางส่วนไม่ได้เคร่งครัดที่จะต้องมีพิธีกงเต็ก หรือการฝังศพ โดยหันมาเผาศพผู้ที่เสียชีวิตเช่นเดียวกับพิธีของคนไทยมากขึ้น ซึ่งบางครั้งก็เป็นความประสงค์ของผู้ที่เสียชีวิตที่ไม่ต้องการให้เป็นภาระกับลูกหลานมากนัก

3.สถานที่จัดงานศพ สถานที่จัดงานศพก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในงานศพนั้นแตกต่างกัน กล่าวคือ

-การจัดงานศพในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในกรณีที่เป็นการจัดงานศพในกรุงเทพฯและจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ กับจังหวัดทั่วๆไป ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันประมาณ 3 เท่าตัว เนื่องจากงานศพในต่างจังหวัดนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย

-วัดที่จัดงานศพ การเลือกวัดที่จัดงานศพก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายเช่นกัน กล่าวคือ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพจะแตกต่างกันในกรณีที่เลือกวัดด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะวัดที่เป็นพระอารามหลวง วัดขนาดใหญ่ และวัดขนาดเล็ก กล่าวคือ ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพในวัดที่เป็นพระอารามหลวงนั้นจะสูงที่สุด รองลงมาคือวัดขนาดใหญ่ ส่วนวัดขนาดเล็กนั้นค่าใช้จ่ายก็จะไม่สูงมากนัก นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในวัดเดียวกันยังแตกต่างกันในกรณีที่เลือกขนาดของศาลาแตกต่างกัน กล่าวคือ ถ้าเป็นศาลาขนาดใหญ่ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าศาลาขนาดเล็ก รวมทั้งถ้าเป็นศาลาที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นไปอีก

งานศพ…เงินสะพัดสู่ธุรกิจต่างๆ
จากค่าใช้จ่ายต่างๆในงานศพที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในหลากธุรกิจ ดังนี้
-ธุรกิจแต่งหน้า/แต่งตัวศพ ก่อนที่จะนำร่างผู้ตายไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ญาติๆจะจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ผู้ตายเสียใหม่ ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ผู้ตายมีเสื้อผ้าดีๆใส่ติดตัวไปยังภพภูมิใหม่ด้วย นอกจากนั้นยังมีการแต่งหน้าให้ดูดี มีสีสัน เพื่อให้ผู้ตายดูดี และไม่เป็นที่หวาดกลัวของแขกเหรื่อที่มาร่วมไว้อาลัย หากผู้ตายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็มักจะเป็นผู้แต่งหน้าศพให้ โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งโรงพยาบาลว่าจ้างมาจากภายนอก และบุคลากรของโรงพยาบาลเอง ปกติมีค่าใช้จ่ายประมาณศพละ 1,000-2,000 บาท ค่าฉีดฟอร์มาลินปกติอยู่ที่ 500 บาท แต่หากเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ค่าฉีดยาศพจะสูงถึง 1,500-2,000 บาท เพราะจะคิดค่าความเสี่ยงด้วย

-ธุรกิจจัดกงเต๊ก กงเต็กหมายถึงการที่ลูกหลานทำบุญกุศล ทั้งทำแทนผู้ตายและทำให้ผู้ตายเพื่อให้ผู้ตายได้กุศลผลบุญมากพอที่จะขึ้นไปสวรรค์ โดยพิธีกงเต็กมี 3 แบบคือ แบบพระจีนเป็นผู้ทำพิธี ซึ่งถ้าต่างนิกายกันก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แบบคนธรรมดาเป็นผู้ประกอบพิธี โดยจะเป็นผู้ชายสวมชุดพระจีนสีขาว และแบบกงเต็กจีนแคะ การทำพิธีกงเต็กจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับจำนวนพระที่นิมนต์มาสวด โดยถ้าเป็นกงเต็กใหญ่ก็จะต้องนิมนต์พระมาสวด 5 รูปขึ้นไป และถ้าเป็นกงเต็กเล็กก็จะมีการนิมนต์พระมาสวดรูปเดียวหรือ 3-5 รูป ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ดำเนินการธุรกิจจัดพิธีกงเต็กนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ดำเนินธุรกิจนี้มาเป็นเวลานาน และจะได้รับการติดต่อในลักษณะบอกต่อๆกัน หรือการให้เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ไว้กับทางวัดที่อนุญาตให้มีการทำพิธีกงเต็กในวัดได้ ค่าใช้จ่ายนั้นเป็นการตกลงกันระหว่างเจ้าภาพและผู้ดำเนินการธุรกิจจัดพิธีกงเต็ก นอกจากนี้ธุรกิจต่อเนื่องจากธุรกิจกงเต็กคือ ธุรกิจเครื่องกระดาษ ของไหว้ รวมทั้งชุดที่ใส่เฉพาะในพิธีกงเต็กที่ทำจากผ้ากระสอบและผ้าดิบ

-ธุรกิจเสื้อผ้าไว้ทุกข์ โดยทั่วไปจะเป็นเสื้อผ้าสีดำ แต่สำหรับชาวจีนจะนิยมใส่สีขาวทั้งชุดในระหว่างพิธีสวดศพ ในกรณีที่เป็นลูกหลานหรือญาติสนิทจะต้องซื้อเสื้อผ้าเพื่อใส่ไว้ทุกข์ ซึ่งโดยปกติจะไว้ทุกข์ประมาณ 100 วัน สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่หรือทำงานมีชื่อเสียงทำให้ต้องได้รับเชิญให้ไปร่วมงานพิธีศพ ทำให้ต้องมีการเตรียมเสื้อผ้าสีดำไว้อย่างน้อย 3-5 ชุด ดังนั้นผู้ประกอบการจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปจึงมักจะมีชุดดำไว้จำหน่าย เนื่องจากสามารถขายได้เรื่อยๆทุกเทศกาล

-ธุรกิจของที่ระลึกในงานศพ ซึ่งทำให้เกิดเงินสะพัดในธุรกิจผลิตของชำร่วย และปัจจุบันนิยมแจกหนังสือเป็นของที่ระลึก โดยถ้าเป็นงานศพของผู้มีฐานะทางสังคมก็จะมีการจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกเฉพาะงานขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งหนังสือเหล่านี้บางเล่มเป็นที่ต้องการของตลาดหนังสือ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้อ่านมาก ทำให้มีการนำมาจำหน่ายต่อเป็นหนังสือมือสองอีกด้วย แต่ถ้างานศพที่ไม่ใหญ่โตมากนักก็มักจะเลือกหนังสือเกี่ยวกับธรรมะมาแจกเป็นหนังสือที่ระลึกในงานศพ ซึ่งทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้เจ้าภาพบางรายนิยมแจกของที่ระลึกในลักษณะของชำร่วย โดยติดสติ๊กเกอร์ว่าเป็นของที่ระลึกพิธีศพผู้ใด ของที่นิยมได้แก่ ที่รองแก้ว ยาหม่อง ยาดม ฯลฯ ซึ่งทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจของชำร่วยเหล่านี้

-ธุรกิจร้านจัดดอกไม้ นอกจากการจัดดอกไม้หน้าศพระหว่างที่มีการตั้งสวดและการจัดดอกไม้ที่เมรุในวันที่มีพิธีเผาศพแล้ว ธุรกิจร้านจัดดอกไม้ยังมีรายได้จากการจัดหรีดจากการที่ผู้ไปร่วมงานศพต้องการแสดงความไว้อาลัยผู้ตาย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าโดยเฉลี่ยรายได้จากการจัดหรีดนั้นมีสัดส่วนรายได้ถึงเกือบร้อยละ 20.0 ของรายได้ของธุรกิจร้านจัดดอกไม้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามปัจจุบันเริ่มมีกระแสนิยมที่จะไม่จัดหรีดดอกไม้สด เนื่องจากเห็นว่าสิ้นเปลืองและไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ โดยเริ่มมีการใช้ผ้าขนหนู เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ช้อนส้อม ทัพพี เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเก้าอี้ โต๊ะ รถจักรยานแทนการให้หรีด โดยมุ่งหวังว่าเมื่อเสร็จพิธีศพแล้ว เจ้าภาพสามารถนำไปบริจาคเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายได้อีกด้วย ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเหล่านี้ได้รับอานิสงส์ไปด้วย

-ธุรกิจแคทเทอริ่ง ธุรกิจการจัดเลี้ยงอาหารในช่วงที่พระสวดอภิธรรม ซึ่งมูลค่าธุรกิจนี้อยู่ในเกณฑ์สูงทำให้บรรดาผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารและเบเกอรี่เล็งเห็นช่องทางธุรกิจ โดยการเข้าไปเสนอตัวเป็นผู้จัดการด้านอาหารให้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าภาพทั้งในลักษณะเป็นการจัดเลี้ยงหรือในลักษณะของการจัดอาหารกล่อง เครื่องดื่มประเภทต่างๆ รวมทั้งของว่าง นับว่าเป็นการสร้างช่องทางธุรกิจเพิ่มขึ้นให้กับธุรกิจแคเทอริ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจจัดเลี้ยงนอกสถานที่ที่มุ่งเจาะตลาดสัมมนาและงานต่างๆ เช่น งานเปิดตัวสินค้า หรือร้านค้า เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับประเภทอาหารและจำนวนแขกที่มาในงานเป็นสำคัญ

-ธุรกิจร้านถ่ายรูป/วิดีโอ ธุรกิจร้านถ่ายรูป/วิดิโอได้รับอานิสงส์จากงานศพเช่นกัน โดยเจ้าภาพงานศพบางรายต้องการอัดขยายรูปของผู้เสียชีวิตเพื่อนำไปตั้งไว้หน้าศพในระหว่างวันที่สวดอภิธรรมศพและวันที่เผาศพ นอกจากนี้เจ้าภาพยังถ่ายภาพพิธีศพและบรรดาผู้เข้ามาร่วมงานเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย ซึ่งอาจจะดำเนินการเองหรือจ้างช่างถ่ายรูปมาดำเนินการให้ ในปัจจุบันยังมีธุรกิจรูปแบบใหม่คือ บริการแสดงภาพและความรู้สึกที่มีต่อผู้เสียชีวิตผ่านจอภาพพลาสม่าที่ติดตั้งที่ศาลาสวดอภิธรรม เช่น แสดงประวัติของผู้เสียชีวิต แสดงภาพและความรู้สึกประทับใจ แสดงคำไว้อาลัยของครอบครัวและผู้ร่วมงานต่อผู้เสียชีวิต เป็นต้น โดยมีการจัดแสดงทุกวันที่มีการสวดอภิธรรม และเมื่อเสร็จสิ้นงานก็จะมอบซีดีให้กับเจ้าภาพงานศพ

-ธุรกิจรับจัดงานศพอย่างครบวงจร เนื่องจากการจัดงานศพนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้เกิดธุรกิจรับจัดงานศพอย่างครบวงจรครอบคลุมการบริการอย่างครบวงจรตั้งแต่การแต่งหน้าและฉีดยาศพ จัดหาวัด ขอใบมรณะบัตร จัดเตรียมพิธีรดน้ำศพ ติดต่อขอน้ำหลวงอาบศพ จัดทำพิธีบรรจุศพ จัดทำพิธีสวดพระอภิธรรม หรือพิธีกงเต็ก และงานฌาปนกิจหรือพระราชทานเพลิงศพ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆทั้งการ์ดงานศพ ดอกไม้ อาหารว่าง บอร์ดภาพถ่าย ของชำร่วย/หนังสือที่ระลึก เป็นต้น รวมถึงรายละเอียดอื่นๆเสริมในการจัดงานได้ เช่น พิธีลอยอังคาร การนำผู้ร่วมงานไปยังที่ฝังศพ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าภาพที่ไม่มีเวลาและไม่ต้องการยุ่งยากในการจัดงานให้ครบถ้วนตามประเพณี ลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจรับจัดงานศพอย่างครบวงจรนั้นส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าระดับบนหรือลูกค้าที่มีรายได้สูง โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 120,000 –400,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่จะจัดพิธีศพและรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดว่าธุรกิจนี้จะมีผู้ประกอบการที่มีฐานเป็นบริษัทผู้จัดงานเข้ามาสนใจทำธุรกิจลักษณะดังกล่าวเพิ่มขึ้น เพราะยังเหลือช่องว่างทางการตลาดมาก

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพเฉลี่ยในแต่ละปีสูงถึง 35,000 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจัดงานศพที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดต่างๆตามความต้องการของเจ้าภาพงานศพ การจัดพิธีแตกต่างกันตามความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะงานพิธีศพแบบจีนซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มในการทำพิธีกงเต็กและค่าหลุมฝังศพ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันชาวไทยเชื้อสายจีนบางรายเริ่มที่จะจัดพิธีสวดอภิธรรมศพและเผาศพเช่นเดียวกับการทำพิธีศพแบบไทย ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่แตกต่างกันมากนัก นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพยังแตกต่างกันอย่างมากในการจัดงานศพเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพฯและเมืองธุรกิจใหญ่ๆ กับต่างจังหวัด โดยแตกต่างกันประมาณ 3 เท่าตัว

ซึ่งเม็ดเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพนี้กระจายไปในหลากหลายธุรกิจ ดังนั้นบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานศพจึงหันมาสนใจในการขยายช่องทางการตลาดเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจการจัดงานศพอย่างจริงจัง รวมทั้งการเกิดธุรกิจรับจัดงานศพอย่างครบวงจรที่เริ่มเจาะตลาดระดับบนหรือผู้มีรายได้ระดับสูงคาดว่าเมื่อมีการแข่งขันกันมากขึ้นก็จะขยับลงมาจับตลาดระดับกลาง เนื่องจากธุรกิจนี้น่าจะได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเวลาและไม่อยากจะยุ่งยากในการวิ่งวุ่นติดต่อหลายที่ รวมทั้งต้องการคำแนะนำที่จะปฏิบัติตามประเพณีอย่างถูกต้องครบถ้วน เนื่องจากเป็นการจัดงานครั้งสุดท้ายให้แก่ผู้เสียชีวิต บรรดาญาติๆของผู้เสียชีวิตจึงต้องการจัดพิธีกรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับให้ดีที่สุด