ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์สำคัญที่จะจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไมโครซอฟท์

วินโดวส์ วิสต้า ระบบไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 พร้อมแล้วสำหรับภาคธุรกิจ เพื่อประสิทธิภาพของการทำงานยุคใหม่

ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศการจำหน่ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์ วิสต้า ระบบไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 สำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจรับมือกับการเข้าสู่โลกแห่งการสื่อสารแบบสำเร็จรูป การขยายตัวของข้อมูลข่าวสาร และการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอแพล็ทฟอร์มที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ผู้คนจะแปลงข้อมูลข่าวสารเป็นโอกาสและการเติบโต

การประกาศในวันนี้ว่า วินโดวส์ วิสต้า และไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 พร้อมที่จะจำหน่ายแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจในรูปแบบของข้อตกลงจำนวนไลเซนส์หรือสิทธิ์ในการใช้งาน (Volume licensing) นั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของบริษัท และยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของผลิตภัณฑ์หลักๆ ของไมโครซอฟท์และต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการเปิดตัว วินโดวส์ 95 และออฟฟิศ 95 เมื่อกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ในส่วนของเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 นั้นจะจำหน่ายในรูปแบบของจำนวนสิทธิ์การใช้งานแก่องค์กรธุรกิจประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนธันวาคม ส่วนวินโดวส์ วิสต้าและระบบออฟฟิศ 2007 จะวางจำหน่ายแก่ผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจทั่วไปในวันที่ 30 มกราคม 2550

มร. แอนดรูว์ แม็คบีน กรรมการผู้จัดการบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เวอร์ชั่นใหม่ของวินโดวส์ ออฟฟิศ และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ เป็นผลจากความร่วมมืออันเยี่ยมยอดระหว่างไมโครซอฟท์และลูกค้า การสร้างสถานการณ์จำลองที่เหมือนจริงจากการตอบกลับของลูกค้าที่อาสาให้ทางไมโครซอฟท์เฝ้าติดตามการทำงานกว่าหนึ่งพันล้านครั้ง ได้ช่วยแนะนำแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ขึ้น ในระหว่างการทดสอบนั้น ลูกค้าจากทั่วโลกได้ดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์ทั้งสามที่เป็นเบต้าเวอร์ชั่นกว่า 5 ล้านครั้งและส่งผลตอบกลับพร้อมข้อเสนอแนะอันมีคุณค่ากลับมายังไมโครซอฟท์”

“ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กำลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม เราลงทุนมหาศาลเป็นพิเศษในด้านการวิจัยและพัฒนา และวินโดวส์ วิสต้า และระบบออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ ก็ผ่านการทดสอบอย่างรอบคอบมากกว่าผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่มีในประวัติศาสตร์” มร. แอนดรูว์ กล่าว

ผู้ใช้รายแรกมองเห็นถึงคุณค่าทางธุรกิจ
จากการศึกษาของ Capgemini ซึ่งสนับสนุนโดยไมโครซอฟท์พบว่า ผู้ใช้งานรายแรกๆ นั้นคาดหวังอย่างมากต่อประสิทธิผลที่จะได้รับจากความสามารถใหม่ๆ ในการตอบสนองความต้องการหลักๆ ทางธุรกิจ

มร. เคน เอ็ดเวิร์ด รองประธาน Capgemini กล่าวว่า “บริษัทต่างๆ ที่เราได้พูดคุยด้วยต่างกำลังมองหาหนทางที่จะเพิ่มรายได้ ปรับปรุงการตอบสนองแก่ลูกค้า และปรับปรุงอัตราการชนะใจลูกค้าของทีมขาย ด้วยการใช้งานระบบไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 บรรดาผู้ใช้งานรายแรกๆ ต่างตระหนักถึงการประหยัดต้นทุนจากกระบวนการทำงานโดยอัตโนมัติ การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น การประสานงานระหว่างเพื่อนร่วมงานที่ดีขึ้น และต้นทุนพลังงานที่ต่ำลง ทั้งหมดนี้คือสร้างการติดต่อระหว่างลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานด้วยต้นทุนที่น้อยลงแต่ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

อุตสาหกรรมปรับตัวเพื่อสร้างความได้เปรียบจากโอกาสใหม่ๆ
นับตั้งแต่การเปิดตัววินโดวส์ 95 และออฟฟิศ 95 เป็นต้นมา ไมโครซอฟท์ได้นำเสนอความล้ำหน้าของแพล็ทฟอร์มที่มีความสำคัญยิ่งในการวางตลาดผลิตภัณฑ์หลักๆ ทั้งสองของบริษัทฯ แต่ละครั้ง TCP/IP ในวินโดวส์ 95 ได้ช่วยวางแนวทางให้เกิดความนิยมของอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น การที่ความสามารถด้านไวร์เลสในวินโดวส์ เอ็กซ์พี ได้ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่เป็นเรื่องปกติ เป็นต้น ความสามารถใหม่ๆ ในวินโดวส์ วิสต้าและระบบออฟฟิศ 2007 อาทิ ความล้ำหน้าด้านกราฟฟิกอันโดดเด่น และการสนับสนุนภาษา XML และอื่นๆ และเทคโนโลยีต่างๆ ได้นำเสนอกรอบแนวทางในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานแก่ผู้บริโภค

การลงทุนครั้งสำคัญด้านเซิร์ฟเวอร์ทำให้ระบบออฟฟิศ 2007 เป็นแพล็ทฟอร์มที่ทรงพลังในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ ที่จะทลายกำแพงระหว่างองค์กร ระบบ กระบวนการ และข้อมูล

มร. แอนดรูว์ ชื่นชมความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งของพันธมิตร 640,000 รายทั่วโลกในระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์ในการเตรียมตัวสำหรับการเปิดตัวในวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาบริษัทจัดหาโซลูชั่นชั้นนำทั่วโลกต่างกำลังเตรียมที่จะติดตั้งผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย

ส่งมอบคำสัญญาสำหรับ People-Ready Business
มร. แอนดรูว์ แม็คบีน กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของความสามารถใหม่ๆ ในวินโดวส์ วิสต้า ระบบออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 มาจากความเชื่อของไมโครซอฟท์ว่า คนคือกำลังสำคัญที่จะผลักดันความสำเร็จสู่ธุรกิจนั่นเอง

“ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ปลดปล่อยศักยภาพของบุคลากรได้อย่างเต็มที่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอันจะก่อให้เกิดผลกำไรตามมา ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และผลักดันความสำเร็จทางธุรกิจ” มร. แอนดรูว์ กล่าวต่อ “ถึงแม้ว่าลูกค้าจำนวนมากจะติดตั้งและใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านี้แยกกัน แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่บริษัทต่างๆ จะได้ประโยชน์และคุณค่าจากข้อมูลทางธุรกิจ

โดยรวมแล้ว ทั้งสามผลิตภัณฑ์จะมีประโยชน์สำคัญๆ สี่ประการคือ
• ทำให้การทำงานร่วมกันของบุคลากรง่ายขึ้น
ไล่ไปตั้งแต่ความสามารถใหม่ของวินโดวส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนทำงานในลักษณะเคลื่อนที่ ความสามารถด้านการรวมศูนย์ข้อความในเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 ไปจนถึงเครื่องมือเกี่ยวกับเวิร์คโฟลว์และการทำงานร่วมกันในไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ แชร์พอยท์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้คือการปฏิวัติรูปแบบการทำงานของคนในลักษณะเป็นทีมและนอกสถานที่
• ปรับปรุงการค้นหาข้อมูลและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางธุรกิจ
การผนวกกันของแพล็ทฟอร์มและเทคโนโลยีใหม่ในการค้นหา และเครื่องมือด้านบิสสิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ที่ทรงพลัง ง่ายต่อการใช้งาน จะช่วยให้พนักงานค้นหาและใช้ข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้การแปลงแนวคิดสู่การปฏิบัติคล่องตัวขึ้น
• ช่วยปกป้องและจัดการคอนเท้นต์
เครื่องมือในการจัดการคอนเท้นต์และการรักษาเอกสารอันล้ำหน้าผนวกกับคุณสมบัติต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้นในการปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับ ทำให้การสร้างเอกสารเป็นไปอย่างอัตโนมัติและสอดคล้องกับหลักกฎหมายตั้งแต่จุดเริ่มต้น
• เพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอที
ด้วยระบบความปลอดภัยที่ได้รับการออกแบบมาให้ดียิ่งขึ้น เวอร์ชั่นใหม่ของวินโดวส์ ออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 นำเสนอคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอันล้ำหน้า มันทำให้การใช้งานและการจัดการคล่องตัวขึ้น ช่วยลดต้นทุนและช่วยให้แผนกไอทีได้มุ่งความสนใจไปยังการจัดหาความสามารถใหม่ๆ ที่จะสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์

วินโดวส์ วิสต้า ระบบไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 และเอ็กซ์เชนจ์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 ยังนำเสนอแพล็ทฟอร์มหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบจากประโยชน์ของบริการซอฟต์แวร์ที่อยู่บนพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต ทั้งสามผลิตภัณฑ์นี้ได้รวมเอาเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิสและ XML ที่จะช่วยให้องค์กรได้ใช้งานบริการออนไลน์ต่างๆ และเลือกใช้แอพพลิเคชั่นไม่ว่าจะเป็นแบบ hosted หรือ on-premise เพื่อให้สามารถควบคุมดุลยภาพ สะดวก ควบคุมค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

มร. สตีฟ บัลเมอร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในช่วงทศวรรษที่แล้ว วินโดวส์ 95 และออฟฟิศ 95 ได้เปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานของผู้คน สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งสามที่ประกาศเปิดตัวในวันนี้ถือเป็นการทำงานที่ก้าวหน้าที่สุดของไมโครซอฟท์ และผมเชื่อว่ามันเป็นการส่งสัญญาณของคลื่นลูกใหม่ทางนวัตกรรมที่จะส่งผลอย่างมากต่อทศวรรษหน้า”

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) http://www.microsoft.com/thailand.

ไมโครซอฟท์เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ ไมโครซอฟท์ คอร์ป ประเทศสหรัฐอเมริกา และ/หรือ ประเทศอื่นๆ ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในเอกสารชุดนี้อาจจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้นๆ
หมายเหตุ: หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครซอฟท์ สามารถดูได้ที่ http://www.microsoft.com/presspass/ ในส่วนของหน้าข้อมูลบริษัท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณศุภาดา ใจดี
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 209
โทรสาร: 0-2627-3510
Email: sjaidee@th.hillandknowlton.com