ระเบิด 4 จังหวัดภาคใต้ : กระทบหาดใหญ่สูญรายได้ท่องเที่ยว 800-1,900ล้านบาท

เหตุระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว คือ ยะลา (อำเภอเบตง) ปัตตานี นราธิวาส (อำเภอสุไหงโก-ลก) และสงขลา (อำเภอหาดใหญ่) ซึ่งสร้างเม็ดเงินรายได้สะพัดคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณเกือบ 15,000 ล้านบาทในปี 2549 และคาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดมากระทบแล้วในปี 2550 การท่องเที่ยวในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างจะสร้างรายได้สะพัดในพื้นที่เพิ่มขึ้นได้ประมาณร้อยละ 10 เป็น 16,500 ล้านบาท โดยเกือบร้อยละ 90 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,500 ล้านบาทเป็นรายได้ด้านการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปยังหาดใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 41 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท

การท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ : สร้างรายได้สะพัดปีละ 2,000 ล้านบาท
เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ส่งผลกระทบทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยถดถอยลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามายังพื้นที่ท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดดังกล่าวลดลงร้อยละ 18 เป็น 1.15 ล้านคนในปี 2547 และลดลงร้อยละ 31 เป็นประมาณ 8 แสนคนในปี 2548 ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้ด้านการท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 17 เป็น 3,961 ล้านบาทในปี 2547 และลดลงร้อยละ 53 เป็น 1,847 ล้านบาทในปี 2548 ตามลำดับ

สำหรับในปี 2549 การท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัตตานีซึ่งพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยเกือบทั้งหมดค่อนข้างทรงตัว ส่วนสุไหงโก-ลกซึ่งพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัดส่วนร้อยละ 68 มีแนวโน้มชะลอการถดถอยลง ขณะที่มีการขยายตัวในตลาดท่องเที่ยวเบตงโดยได้แรงหนุนจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 79 ส่งผลให้โดยรวมแล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนใกล้เคียงกับปี 2548 คือ ประมาณ 8 แสนคน และคาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยมีมูลค่าประมาณ 1,860 ล้านบาท

ในปี 2550 คาดการณ์ว่า หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้ว การท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นจากปี 2549 โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ ประมาณกว่า 8 แสนคนและก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาท

การท่องเที่ยวหาดใหญ่ : สร้างรายได้สะพัดปีละ 14,500 ล้านบาท
สำหรับหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างของไทยนั้นเผชิญกับภาวะน้ำท่วมและเหตุการณ์ความไม่สงบที่ขยายขอบเขตมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มถดถอยตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา แต่ยังได้แรงหนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวโดยรวมของหาดใหญ่ค่อนข้างทรงตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 0.4 เป็น 2.34 ล้านคนในปี 2546 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เป็น 2.36 ล้านคนในปี 2547 สำหรับในปี 2548 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 0.5 เป็น 2.35 ล้านคน ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยจึงมีบทบาทต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่เพิ่มขึ้นตามลำดับ จากที่มีสัดส่วนร้อยละ 53 เพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 69 ในปี 2548

สำหรับปี 2549 การท่องเที่ยวของหาดใหญ่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยความร่วมมือของทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้โดยรวมมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 เป็น 2.5 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากปี 2548

ในปี 2550 คาดการณ์ว่า หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้ว การท่องเที่ยวหาดใหญ่จะมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2549 โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 เป็น 2.7 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2549

ผลกระทบการท่องเที่ยว : หาดใหญ่สูญเสียรายได้ 1-2 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่ทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2547 และลุกลามขยายขอบเขตมายังพื้นที่ในจังหวัดสงขลาถี่ขึ้นตามลำดับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2548 ได้เกิดระเบิด 3 จุดพร้อมกันที่อำเภอหาดใหญ่และอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2549 ได้เกิดระเบิดหลายจุดในย่านใจกลางเมืองหาดใหญ่หลังจากนั้นมาเพียง 5 เดือน คือ ในคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งอยู่ในช่วงฉลองเทศกาลตรุษจีน ได้เกิดการลอบวางระเบิด วางเพลิง และการซุ่มโจมตีหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ซึ่งติดต่อกันใน 3 อำเภอของจังหวัดสงขลาคือ อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ

ในด้านผลกระทบของการก่อความไม่สงบในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยนั้น สามารถพิจารณาได้เป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1 : สถานการณ์คลี่คลายลงได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2550 : หาดใหญ่จะสูญเสียรายได้ท่องเที่ยวประมาณ 800 ล้านบาท
หากเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบให้คลี่คลายลงได้โดยเร็ว ส่งผลให้การท่องเที่ยวหาดใหญ่สามารถปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นได้ภายในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2550 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนสามารถเรียกความมั่นใจด้านความปลอดภัยจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติกลับคืนมาได้โดยเร็วแล้ว การท่องเที่ยวหาดใหญ่มีแนวโน้มได้จะรับผลกระทบเฉพาะในช่วงที่เหลือของไตรมาสแรกปี 2550

ในกรณีดังกล่าว บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาส่งผลกระทบตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของไตรมาสแรกปี 2550 ทำให้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยมีแนวโน้มถดถอยลงประมาณร้อยละ 20 ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มถดถอยลงประมาณร้อยละ 30 ทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 25 หรือประมาณ 150,000 คน จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 ประมาณ 6 แสนคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะลดลงดังกล่าว ส่งผลให้หาดใหญ่สูญเสียเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท

จากผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดในระยะสั้น ส่งผลให้ในปี 2550 ตลาดท่องเที่ยวของหาดใหญ่มีแนวโน้มจะถดถอยลงร้อยละ 5 จากที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในระดับ 2.7 ล้านคน โดยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังหาดใหญ่รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.55 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวในหาดใหญ่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,700 ล้านบาทลดลง 800 ล้านบาทจากประมาณการณ์เดิมไว้ที่ 14,500 ล้านบาท

กรณีที่ 2 : สถานการณ์คลี่คลายลงได้ในช่วงไตรมาสที่สองปี 2550 : หาดใหญ่จะสูญเสียรายได้ท่องเที่ยว ประมาณ 1,900 ล้านบาท หากสถานการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างยังยืดเยื้อ โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถคลี่คลายลงสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการท่องเที่ยวโดยรวมของหาดใหญ่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2550

ในกรณีดังกล่าว บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ในช่วงไตรมาสที่สองตลาดท่องเที่ยวหาดใหญ่ยังคงมีแนวโน้มถดถอยต่อเนื่องมาจากช่วงไตรมาสแรก โดยตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยมีแนวโน้มถดถอยลงร้อยละ 25 ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มถดถอยลงร้อยละ 35 ส่งผลให้โดยรวมในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2550 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ลดลงร้อยละ 29 หรือประมาณ 2 แสนคนจากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังหาดใหญ่ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2550 ประมาณ 7 แสนคน ทำให้คาดว่าหาดใหญ่จะสูญเสียเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,100 ล้านบาท และโดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 หาดใหญ่มีแนวโน้มจะสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,900 ล้านบาท

จากผลกระทบที่คาดว่าจะยืดเยื้อมาในช่วงไตรมาสที่สอง ทำให้ในปี 2550 ตลาดท่องเที่ยวของหาดใหญ่มีแนวโน้มถดถอยลงร้อยละ 13 จากที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบช่วงตรุษจีนในระดับ 2.7 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวในหาดใหญ่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12,600 ล้านบาทลดลง 1,900 ล้านบาทจากประมาณการณ์เดิมที่ 14,500 ล้านบาท

เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างส่งผลกระทบการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนล่างของไทย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในทุกพื้นที่ไม่เฉพาะใน 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างจะต้องเร่งประสานความร่วมมือเพื่อมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และสามารถเรียกความมั่นใจของนักท่องเที่ยวให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมของไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในประมาณ 2 เดือนข้างหน้านี้