“แอร์แอสตานา” เปิดม่านฟ้าใหม่ ในไทย-เปิดประตูสู่ ยูเรเชียด้วยสายการบินประจำชาติ คาซัคสถาน

“แอร์แอสตานา” สายการบินประจำชาติ คาซัคสถาน เปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างประเทศไทยและคาซัคสถาน โดยจะบินไปกลับกรุงเทพ-อัลมาตี 2 เที่ยวบินต่ออาทิตย์ หวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงธุรกิจจาก ยูเรเซีย ถึงเอเซียอาคเนย์ และ ออสเตรเลีย บ่งชี้ถึงทิศทางใหม่อันสดใสของแอร์แอสตานา และอุตสาหกรรมการบินโดยรวม ด้วยปณิธานที่คำนึงถึงความปลอดภัยของการเดินทางและการบริการที่ดีเลิศให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้าอีก 7 ปี ข้างหน้า ขยายเส้นทางการบินใหม่ และจำนวนเครื่องให้ครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งพัฒนาการบริการลูกค้าบนภาคพื้นดินและบริการบนเครื่องให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

มร. ปีเตอร์ ฟอสเตอร์ ประธานกรรมการบริหาร แอร์แอสตานา กล่าวว่า “แอร์แอสตานา ถือว่าเป็นสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุด เป็นอันดับ 4 ในโลก ซึ่งได้รับการจัดอันดับในนิตยสารของธุรกิจสายการบิน ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสายการบินที่มีการบริหารงานยอดเยี่ยมที่สุดใน CIS (Central Independent State : สหพันธรัฐรัสเซียและประเทศเครือรัฐอิสระ) โดยเราเริ่มต้นให้บริการในปี ค.ศ. 2002 ด้วยเครื่องบิน 3 ลำ ได้แก่ เครื่องบิน Boeing 737-700 จำนวน 2 ลำ และ เครื่องบิน Boeing 737 – 800 จำนวน 1 ลำ จากนั้นในปลายปี 2003 ทางแอร์แอสตานาได้เพิ่มเครื่องบิน อีก 8 ลำ คือ เครื่องบิน Boeing 757-200 จำนวน 3 ลำ และ เครื่องบิน Fokker 50 จำนวน 5 ลำ และในปี 2006 เราได้ขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มเครื่องบินอีก 4 ลำ คือ เครื่องบิน Airbus 320 จำนวน 3 ลำ และ เครื่องบิน Boeing 757-200 จำนวน 1 ลำ อีกทั้งทาง แอร์แอสตานา มีแผนที่จะเพิ่มเครื่องบินอีก 6 ลำ ในเดือนหน้า คือ เครื่องบิน Airbus 320 จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน Airbus 321 จำนวน 2 ลำ และ เครื่องบิน Boeing 767-300 จำนวน 2 ลำ ซึ่งภายในเดือนหน้าจะทำให้ สายการบิน แอสตานา มีเครื่องที่คอยให้บริการทั้งสิ้นกว่า 19 ลำ”

“ปัจจุบัน สายการบิน แอสตานาให้บริการทั้งสิ้น 48 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบินระหว่างประเทศ 20 เที่ยวบิน และ เที่ยวบินในประเทศ 28 เที่ยวบิน ซึ่งในการทำงาน 3 ปี แรก ทางสายการบินฯ ได้ขยายธุรกิจและขยายน่านฟ้าได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในทวีป ยุโรป เอเซีย และล่าสุดในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์สายการบิน แอสตานา ได้เปิดตัวให้บริการเที่ยวบินต่อเนื่องตลอดอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทย หลังจากที่ได้ทำการบินอย่างเป็นฤดูกาลตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ปี 2007 นี้จะบินตรงจากเมืองอัลมาตีประเทศคาซัคสถาน สู่กรุงเทพ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง บินตรงสู่ กรุงปักกิ่งอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และบินตรงสู่กรุงโซล อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ด้วยเครื่องบิน Boeing 767-200 การเปิดเส้นทางการบินใหม่ครั้งนี้ บ่งชี้ถึงการเจริญเติบโตอีกก้าวหนึ่งของแอร์แอสตานา”

มร. ปีเตอร์ ฟอสเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากปณิธานของแอร์แอสตานา ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของการเดินทางและการบริการที่ดีเลิศให้แก่ลูกค้า เราได้สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้เรามีจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการของเราสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2006 ที่ผ่านมา เรามีลูกค้ามาใช้บริการของเราทั้งสิ้น 1,468,741 คน และในปี 2007 นี้ จำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,989,582 คน มีอัตราการการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 35% เราจึงได้วางกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของแอร์แอสตานาใน 7 ปีข้างหน้า โดยได้ตั้งเป้าใหญ่ๆ ไว้ 2 ด้าน คือ การเติบโตของสายการบิน ทั้งการขยายเส้นทางการบินใหม่ และ จำนวนเครื่องบิน อีกทั้งพัฒนาการบริการลูกค้าทั้งบริการบนภาคพื้นและบริการบนเครื่องให้ดีขึ้นอยู่เสมอ รวมไปถึงการดูแลคุณภาพและความหลากหลายของอาหารที่เสิร์ฟบนเครื่อง และระบบความบันเทิงบนเครื่อง”

“ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการดำเนินงานที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจในการเติบโตของสายการบินเราเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในส่วนของการขยายตัวธุรกิจและผลกำไร ซึ่งเราใช้เวลาเพียงปีกว่าเท่านั้นในการดำเนินงานให้ไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ และในปีนี้เราได้ก้าวจากสายการบินขนาดเล็ก เป็นสายการบินขนาดกลาง ที่มีจำนวนเครื่องบินคอยให้บริการถึง 19 เครื่อง และได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอีก 7 ปีข้างหน้า เราจะเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 19 เครื่อง เป็น 34 เครื่อง นอกจากนี้เรายังได้เตรียมความพร้อมด้านการบริการแก่ลูกค้าไว้อย่างดีเลิศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนของแอร์แอสตานา ตั้งแต่ พนักงานต้อนรับบนเครื่อง จนถึง ฝ่ายวิศวกร ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีจากศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก อาทิ Boeing (Seatle, USA), British Airways (London, UK), CAE (Dubai, Emirates), CAE (Maastricht, Netherlands), Turkish Airlines (Istanbul, Turkey)”

“สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2007 นี้ ทางแอร์แอสตานาจะเน้นย้ำในการพัฒนาให้สายการบินเกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อไปถึงเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ใน 7 ปี ข้างหน้า ทั้งการขยายเส้นทางการบินใหม่ จำนวนเครื่องบิน และประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า ซึ่งในปีนี้ทางแอร์แอสตานาจะเพิ่มจำนวนเครื่องบินในรุ่น Airbus 320, Airbus 321 และ Boeing -767 อีกทั้งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้มากขึ้น ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงเปิดตัวระบบตั๋วโดยสารอีเล็กทรอนิกส์ (eTickets) และระบบการลงทะเบียนผู้โดยสารที่ปรับปรุงมาใหม่เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง”

“ในส่วนของการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศคาซัคสถาน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มั่งคั่งในทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และเหมืองแร่ธรรมชาติ คาดว่าในปีนี้ประเทศคาซัคสถานจะมีการเติบโตของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) กว่า 10% และในปัจจุบันการพัฒนาของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งธุรกิจน้ำมัน ก๊าซ และเหมืองแร่ธรรมชาติ ในเขตเอเซียอาคเนย์ ออสเตรเลีย และ คาซัคสถาน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันแนบแน่นทางด้านเศรษฐกิจจะเป็นตัวผลักดันทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวและการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้เส้นทางการบินใหม่ระหว่างประเทศไทยและคาซัคสถานของสายการบิน แอร์แอสตานา เป็นตัวเชื่อมโยงธุรกิจของภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ ออสเตรเลีย และคาซัคสถาน ให้เติบโตและพัฒนาขึ้นต่อไป” มร. ปีเตอร์ ฟอสเตอร์ ประธานกรรมการบริหาร แอร์แอสตานา กล่าวสรุปในที่สุด

เกี่ยวกับแอร์แอสตานา
แอร์แอสตานา ถือเป็นสายการบินที่ร่วมทุนระหว่าง รัฐบาลประเทศคาซัคสถานและ British BAE Systems ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ รัฐบาลคาซัคสถาน 51% และ BAE System 49%. ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปลายปี ค.ศ. 2001 ซึ่งใช้เครื่องบินจากฝั่งตะวันตกทั้งสิ้น ด้วยงบการลงทุนเริ่มต้นที่ 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันได้ขยายกิจการและเพิ่มเครื่องบินที่ทันสมัยจาก 2 ลำเป็น 19 ลำ อีกทั้งยังได้ขยายตลาดระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าสามา รถเข้าไปที่เว็บไซด์ www.airastana.com เพื่อจองที่นั่งโดยสารในทุกเที่ยวบินของแอร์แอสตานา เว็บไซด์ดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ทันสมัยและน่าสนใจด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องบริการในแต่ละประเทศและมีให้บริการในหลากหลายภาษา

สำหรับผู้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูที่ www.airastana.comหรือติดต่อ สำนักงานและตัวแทนจำหน่ายของแอร์แอสตานาในประเทศไทย ที่ อาคาร สุทธวงษ์ ชั้น 3 เพชรบุรี ซอย 15 ถ. เพชรบุรี ราชเทวี กรุงเทพ โทรศัพท์ 02-251-4700, 02-251-4707-8 แฟกซ์ 02-253-5665