ผลวิจัยคาดจะมีการสร้างข้อมูลดิจิตอลมากถึง 9.88 แสนล้านกิ๊กกะไบต์ในปี 2553

ฮ็อปคินตัน, แมสซาชูเซตส์–(บิสิเนส ไวร์)–6 มี.ค. 2550

ปัจจัยผลักดันหลักๆได้แก่ ริชมีเดีย ข้อมูลคอนเทนท์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น และผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1.6 พันล้านคน

บริษัทอีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น ผู้นำโลกในด้านโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล ได้เปิดเผยงานศึกษาวิจัยที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกและอีเอ็มซีเป็นผู้สนับสนุนจากไอดีซี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประเมินและคาดการณ์ปริมาณและประ เภทของข้อมูลดิจิตอลที่ถูกสร้างขึ้นและถูกทำสำเนาในโลก และข้อมูลดังกล่าวถูกผลิตขึ้นจากบุคคลทั่วไปหรือภาคธุรกิจต่างๆ

รายงานผลสำรวจเรื่อง “จักรวาลดิจิตอลที่กำลังขยายตัว: การคาดการณ์การเติบโตของข้อมูลทั่วโลกจนถึงปี 2553” (The Expanding Digital Universe: A Forecast of Worldwide Information Growth Through 2010) เปิดเผยปริมาณข้อมูลที่ทั่วโลกกำลังผลิตและทำสำเนาในปีที่กำหนด โดยคาดการณ์ “จักรวาลดิจิตอล” ทั้งหมดไปจนถึงปี 2553 และจำแนกประเภทข้อมูลเฉพาะและภูมิภาคที่มีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของข้อมูล ซึ่งผลการวิจัยก็มีผลในวงกว้างต่อบุคคลต่างๆ, ภาคธุรกิจและสังคม สำหรับผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์สามารถดูได้ที่www.emc.com/about/destination/digital_universe

ผลการวิจัยที่สำคัญ:

— จักรวาลดิจิตอลในปี 2549 มีขนาด 1.61 แสนล้านกิ๊กกะไบต์ (161 เอ็กซาไบต์)
— ไอดีซีคาดว่าข้อมูลจะขยายตัว 6 เท่าตั้งแต่ปี 2549-2553
— ขณะที่ประมาณ 70% ของจักรวาลดิจิตอลจะถูกผลิตโดยบุคคลต่างๆภายในปี 2553 องค์กรต่างๆก็จะมีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ความเชื่อถือได้ และการปฏิบัติตามของข้อมูลอย่างน้อย 85%

ในปี 2549 มีการสร้างและก๊อปปี้ข้อมูลดิจิตอลจำนวน 161 เอ็กซาไบต์ (exabyte) ซึ่งทำให้ข้อมูลมีการขยาย ตัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จักรวาลดิจิตอลนี้มีขนาดเทียบเท่ากับข้อมูลในหนังสือทุกเล่มเท่าที่มีการเขียนมาประมาณ 3 ล้านเท่า หรือเทียบเท่ากับกองหนังสือ 12 กอง ซึ่งแต่ละกองมีความยาวมากกว่า 93 ล้านไมล์จากโลกไปถึงดวงอาทิตย์ จากข้อมูลของไอดีซี จำนวนข้อมูลที่ถูกสร้างและก๊อปปี้ในปี 2553 จะพุ่งขึ้นกว่า 6 เท่า สู่ 988 เอ็กซาไบต์ หรือเท่ากับอัตราการเติบโตต่อปี 57%

ขณะที่ประมาณ 70% ของจักรวาลดิจิตอลจะถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลต่างๆภายในปี 2553 แต่ข้อมูลเนื้อหาส่วนใหญ่จะถูกควบคุมโดยองค์กรหนึ่งทั้งบนเครือข่าย ในศูนย์ข้อมูล ตามเว็บโฮสติ้ง ตามโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต สวิทช์ หรือในระบบสำรองข้อมูล องค์กรต่างๆ ซึ่งได้แก่ภาคธุรกิจทุกขนาด หน่วยงาน รัฐบาล และสมาคมต่างๆ จะรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ความน่าเชื่อถือ และการปฏิบัติตามของข้อมูลอย่างน้อย 85%

“ปริมาณข้อมูลที่มีการเติบโตมากเป็นประวัติการณ์นี้จะสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เราวางระบบไว้แล้วในปัจจุบัน” นายมาร์ค ลูอิส รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของอีเอ็มซีกล่าว “การเติบโตอย่างมากเช่นนี้จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรต่างๆและมืออาชีพด้านไอที และเปลี่ยนวิธีการที่เรากลุ่มผู้บริโภคใช้ข้อมูล เนื่องจาก 85% ของข้อมูลที่ถูกสร้างและทำก๊อปปี้ขึ้นจะเป็นความรับผิดชอบขององค์กรและภาคธุรกิจต่างๆ เราจึงต้องดำเนินการต่างๆในฐานะภาคอุตสาหกรรมเพื่อรับรองว่า เราจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลที่มีความยืดหยุ่น เชื่อถือได้ และปลอดภัยเพื่อจัดการกับการทะลักของข้อมูล”

“การขยายตัวที่เหลือเชื่อและจำนวนที่ชัดเจนของประเภทต่างๆของข้อมูลที่จะถูกสร้างขึ้นจากสถานที่ต่างๆมากมายนั้นแสดงให้เห็นมากกว่าการเป็นแค่การขยายตัวของข้อมูลทั่วโลกในขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” นายจอห์น กานท์ซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและรองประธานอาวุโสของไอดีซีกล่าว “นั่นแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยน แปลงโดยรวมในแง่ที่ว่าข้อมูลได้เปลี่ยนจากรูปแบบอะนาล็อกไปเป็นดิจิตอลอย่างไร ข้อมูลมีขีดจำกัดอยู่ที่ไหน และไร้ขีดจำกัดที่จุดไหน จากมุมมองด้านเทคโนโลยี องค์กรต่างๆจะต้องใช้เทคนิคที่มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อส่ง เก็บ รักษา และทำสำเนาข้อมูลเพิ่มเติมที่จะถูกสร้างขึ้นทุกๆวัน”

ผลวิจัยอื่นๆที่สำคัญ:

— ภาพ – ภาพที่ถูกบันทึกโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆกว่า 1 พันล้านชิ้นในโลกนับตั้งแต่กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือติดกล้องไปจนถึงเครื่องสแกนทางการแพทย์และกล้องวงจรปิด มีสัดส่วนมากที่สุดในจักรวาลดิจิตอล

— กล้องดิจิตอล Digital Cameras – ภาพที่ถูกบันทึกลงบนกล้องถ่ายภาพนิ่งระบบดิจิตอลในปี 2549 มีจำนวนมากกว่า 1.5 แสนล้านใบทั่วโลก ขณะที่ภาพที่ถูกบันทึกลงบนโทรศัพท์มือถือมีจำนวนเกือบ 1 แสนล้านใบ โดยไอดีซีคาดว่าจะมีการบันทึกภาพมากกว่า 5 แสนล้านใบภายในปี 2553

— กล้องแคมคอร์เดอร์ – การใช้กล้องแคมคอร์เดอร์น่าจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในแง่ของปริมาณการใช้คิดเป็นนาที ทั้งหมดนับตั้งแต่นี้จนถึงปี 2553

— อีเมล์ – จำนวนอีเมล์ เมลบ็อกซ์เพิ่มขึ้นจาก 253 ล้านฉบับในปี 2541 เป็นเกือบ 1.6 พันล้านฉบับในปี 2549 โดยในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนอีเมล์ที่ถูกส่งไปเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนของคนที่ใช้อีเมล์ 3 เท่า และในปี 2549 เฉพาะการส่งอีเมล์จากบุคคลหนึ่งไปถึงอีกคนหนึ่ง ยกเว้นสแปม (spam) ก็มีพื้นที่เท่ากับ 6 เอ็กซาไบต์แล้ว

— การส่งข้อความด่วน Instant Messaging (IM) – จะมี IM account 250 ล้านภายในปี 2553 ซึ่งรวมถึง account ของผู้ใช้ทั่วไปที่มีการส่ง IM ออกไปจากภาคธุรกิจ

— บรอดแบนด์ – ปัจจุบัน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 60% เข้าถึงวงจรอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จากทั้งที่บ้าน ที่ทำงานหรือที่โรงเรียน

— อินเทอร์เน็ต – ในปี 2539 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำแค่ 48 ล้านคน และเวิลด์ไวด์เว็บ (www) เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนเท่านั้น ภายในปี 2549 มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1.1 พันล้านคน และไอดีซีคาดว่าภายในปี 2553 จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอีก 500 ล้านคน

— ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง – กว่า 95% ของจักรวาลดิจิตอลเป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง และตามองค์กรต่างๆ ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างมีสัดส่วนมากกว่า 80% ของข้อมูลทั้งหมด

— การปฏิบัติตามและความปลอดภัย – ปัจจุบัน 20% ของจักรวาลดิจิตอลขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและมาตรฐานด้านการปฏิบัติตาม และราว 30% อาจจะขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่นด้านความปลอดภัย

— การจัดประเภท – ไอดีซีคาดว่า ปัจจุบัน ข้อมูลขององค์กรถูกจัดประเภทหรือจัดอันดับตามมูลค่านั้นมีปริมาณไม่ถึง 10% และไอดีซีคาดว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกจัดประเภทแล้วจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ต่อปี

— ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ – ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีสัดส่วน 10 % ของจักรวาลดิจิตอล แต่จะขยายตัวมากกว่าประเทศเศรษฐกิจที่อิ่มตัวแล้ว 30-40%

หากต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้ม ประวัติและการเก็บรักษาข้อมูล สามารถดูได้ที่ http://www.emc.com/about/destination/

เกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น Corporation (NYSE: EMC) เป็นบริษัทระดับชั้นนำของโลกที่พัฒนาและจัดหาเทคโน โลยีและโซลูชั่นด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้องค์กรทุกขนาดสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการแข่งขันและสร้างมูลค่าจากข้อมูลขององค์กร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอีเอ็มซีได้ที่เว็บไซท์ www.EMC.com

EMC เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของอีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่นๆทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มี “แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า” ตามคำนิยามภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์แห่งรัฐบาลกลาง ดังนั้น ผลที่แท้จริงจึงอาจแตกต่างไปอย่างมากจากสิ่งที่มีการคาดการณ์ไว้ในแถลงการณ์เชิงคาด การณ์ล่วงหน้าอันเนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงบางประการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) การเปลี่ยนแปลงที่เลวร้ายของภาวะเศรษฐกิจทั่วไปหรือภาวะตลาด (2) ความล่าช้าหรือการลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (3) ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการซื้อกิจการและการลงทุน ซึ่งรวมถึงความท้าทายและต้นทุนของการควบ การปรับโครงสร้างและการผนึกกำลังร่วมกันตามที่มีการคาดการณ์ไว้ (4) ปัจจัยด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแรงกดดันด้านราคาและการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ (5) อัตราเทียบเคียงและผันแปรของราคาสินค้าและการลดลงของต้นทุนส่วนประกอบ และปริมาณและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์และรายได้จากบริการ (6) คุณภาพและการสำรองส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์ไว้มากเพียงพอ (7) การเปลี่ยนแปลงไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ความไม่แน่นอนของการยอมรับของลูกค้าต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและตลาด (8) ปริมาณสินค้าในคลังที่ไม่เพียงพอ, มากเกินไป หรือล้าสมัยแล้ว (9) สงครามหรือการกระทำของการก่อการร้าย (10) ความสามารถในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณสมบัติสูง (11) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผันผวน และ (12) เหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นเพียวครั้งเดียวและปัจจัยสำคัญอื่นๆที่มีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้และเป็นระยะๆในเอกสารของอีเอ็มซีที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ อีเอ็มซีไม่มีหน้าที่รับผิดชอบใดๆในการปรับปรุงข้อความเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวหลังจากวันที่ออกข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

ติดต่อ: อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น
เดฟ ฟาร์มเมอร์, 508-293-7206
farmer_dave@emc.com
หรือ
เควิน เคมพ์สกาย, 508-293-6278
kempskie_kevin@emc.com