เรด แฮทเริ่มแผนระยะยาว เน้นเพิ่มความคุณค่าให้ลูกค้า

เรด แฮท พร้อมเปิดตัว Red Hat Enterprise Linux 5 ในประเทศไทยแล้ว ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนี้ถือได้ว่าเกิดมาจากการพัฒนาร่วมกันกับลูกค้าจนเป็นผลสำเร็จ ในงานนี้จะมีการเปิดเผยถึงแผนพัฒนารูปแบบบริการและความร่วมมือระหว่างกัน ภายใต้หลักการทำงานเช่นเดิมที่เน้นเปิดเผย เปิดกว้าง และการทำงานร่วมกัน

เรด แฮท ผู้นำระดับโลกด้าน โอเพ่นซอร์ส โซลูชั่น เปิดตัวRed Hat Enterprise Linux 5 ในประเทศไทย เวอร๋ชั่นใหม่ล่าสุดนี้เป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้า บนพื้นฐานความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้าผ่านการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเรด แฮท ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรด แฮทใช้หลักการร่วมกัน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส ที่ลูกค้าใช้อยู่ปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดต้นทุนในการจัดหาและจัดการซอฟต์แวร์ รวมถึงประยุกต์ใช้หลักการดังกล่าวกับส่วนอื่นๆ ของธุรกิจ ได้แก่ ด้านบริการ การบริหารจัดการระบบ และการสร้างเครือข่ายพันธมิตร

เชน โอเวนบี ผู้จัดการส่วนภูมิภาคอาเซียน ของเรด แฮท เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “เราใช้เวลาพัฒนา Red Hat Enterprise Linux 5 ร่วมกับลูกค้าและพันธะมิตรนานถึง 2 ปี ปัญหาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ประสบ คือการไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ซื้อไปได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยและเทคโนโลยีเหล่านั้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอซอฟต์แวร์ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของธุรกิจ และสามารถตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าวได้ การเปิดตัว Red Hat Enterprise Linux 5 ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเราประยุกต์ใช้หลักการดังกล่าวกับทุกส่วนของธุรกิจได้อย่างไร”

Red Hat Enterprise Linux 5

Red Hat Enterprise Linux ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโอเพ่นซอร์ส (Open Source Architecture)ของเรดแฮทซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ2002ด้วยความโดดเด่นด้านขีดความสามารถ ความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในองค์กรใหญ่ๆ ที่ติดอันดับ Fortune 500 ปัจจุบันนี้ ลูกค้าที่กำลังมองหาเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สเพื่อรองรับกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ต่างให้ความไว้วางใจเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สล่าสุดของ Red Hat Enterprise Linux ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความเสถียรสูง

เรด แฮทได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์ Red Hat Enterprise Linux 5 ซึ่งปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็น Advanced Platform ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานระดับเซิร์ฟเวอร์หลักๆ ที่เป็นหัวใจของการประมวลผลข้อมูลธุรกิจ รวมถึงการใช้งานเครื่องเดสก์ทอปในระดับผู้ใช้งานทั่วไป ทั้งนี้ Red Hat Enterprise Linux 5 Advanced Platform ได้กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เรด แฮทได้แสดงให้เห็นถึงนิยามที่แท้จริงของคำว่า “คุ้มค่า” ในอุตสาหกรรมไอที ด้วย Advanced Platform ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆลงได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดซื้อ การจัดการ virtualization การจัดการ storage และการจัดการซอฟต์แวร์ประเภท high availabilityยิ่งไปกว่านั้น Advanced Platform ยังช่วยลูกค้าลดภาระการลงทุนด้านเทคโนโลยี และนำงบประมาณไปทุ่มเทให้กับการพัฒนาธุรกิจได้มากขึ้น

“เอเอ็มดีและ เรด แฮทเป็นผู้บุกเบิกระบบคอมพิวเตอร์จาก 32-bit มาเป็น 64-bit มาหลายปีแล้ว และด้วยโพรเซสเซอร์ AMD64 ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของทั้งเอเอ็มดีและ เรด แฮทในการนำเสนอโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ ขีดความสามารถสูง และมีความเสถียร” เทอร์รี ฮอลล์ รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์โซลูชั่นและพันธมิตรของเอเอ็มดี กล่าว “ที่เอเอ็มดี เรามุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทำให้เกิด virtualization บน AMD64 ได้ ซึ่งเป็น การรวบรวมเอาทรัพยากรด้านการประมวลผล และการจัดเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่องมากองรวมกันไว้ตรงกลาง บนแพลตฟอร์ม AMD64 มีความคล่องตัวมากขึ้น เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับเรด แฮทอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยลูกค้าติดตั้งและใช้งานเทคโนโลยีด้าน virtualization ที่ปลอดภัยและทรงพลังบนฐานสถาปัตยกรรมระบบที่มีลักษณะร่วมและสอดคล้องกัน นอกจากนี้ เทคโนโลยี AMD Virtualization™ และ Red Hat Enterprise Linux 5 ช่วยให้ลูกค้าบรรลุถึงประสิทธิภาพและประโยชน์ใช้สอยที่สูงขึ้นอีกระดับในระหว่างที่พวกเขาดำเนินกลยุทธ์ด้าน virtualization”

Red Hat Enterprise Linux 5 มาพร้อมกับขีดความสามารถที่สูงขึ้นและคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าเดิม ทั้งยังรองรับการพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต มีบริการสนับสนุนทางเทคนิคในส่วนของฮาร์ดแวร์แบบครบวงจร ทรัพยากรและเครื่องมือในการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความสามารถด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล (interoperability) กับ Microsoft® Windows® และ Unix

ด้านดุก ฟิชเชอร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ซอฟต์แวร์ แอนด์ โซลูชั่น กรุ๊ป ของอินเทล กล่าวว่า “จากการที่ได้ร่วมกันทำงานตั้งแต่ระยะเริ่มต้น อินเทลและเรด แฮทได้ทำการคิดค้นและเพิ่มขีดความสามารถเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น virtualization การผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์ม Quad-Core Intel® Xeon® และ Red hat Enterprise Linux 5 ช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีขีดความสามารถสูง ประหยัดพลังงาน และน่าเชื่อถือ”

เทคโนโลยีจัดการระบบของเรด แฮท

การเกิดขึ้นของ virtualization ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการลดค่าใช้จ่าย ลูกค้าจำเป็นต้องจัดการความซับซ้อนของสภาวะแวดล้อมเสมือน (virtual environment) เทคโนโลยี ซึ่งเรด แฮทได้ทำการพัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอซอฟต์แวร์และโปรแกรมอัพเดทต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าได้ช่วยขยายขอบเขตและขีดความสามารถของ virtualization ออกไปอีก

• การจัดการ: Red Hat Network Satellite มาพร้อมกับขีดความสามารถในการจัดการระบบที่ผ่านการทำ virtualization มาแล้วรวมถึงความสามรถในการตรวจหาและสร้าง Enterprise Linux based guests และนำไปจัดเก็บในสถาวะแวดล้อมที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านการจัดการสำหรับควบคุมการปฏิบัติงานของ guests อีกด้วย

• โมดุล: โมดุลของ Red Hat Network Satellite ซึ่งได้แก่ Update, Management, Provisioning และ Monitoring ล้วนได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถทำงานบน hosts และ guests ได้เช่นเดียวกัน ช่วยให้ subscribers สามารถจัดการทรัพยากรด้านการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลในระบบต่างๆ ได้ด้วยการสั่งการจากระบบเพียงระบบเดียว

โซลูชั่นจากเรด แฮท

ลูกค้าของเรด แฮทต้องการอะไรที่มากกว่าเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการใช้งานโอเพ่นซอร์ส การนำวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (best practice) และ integration support ไปใช้นั้นมีความสำคัญเท่ากัน เรด แฮทจึงได้ร่วมกับลูกค้ากำหนด 3 มาตรฐานโซลูชั่น ซึ่งผนวก Red Hat Enterprise Linux 5 เข้ากับบริการและคอร์สฝึกอบรมระดับมืออาชีพไว้อย่างครบครัน

• Red Hat Datacenter Solution: เป็น turnkey platform ที่มาพร้อมกับทุกคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการติดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ (หรือการย้ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่ไปใช้ open source แทน) โซลูชั่นนี้ ประกอบด้วย Advanced Platform, การจัดการระบบ, การทำ provisioning, ความพร้อมในการใช้งานสูง, การบริหารตัวตนผู้ใช้งาน (identity management) รวมถึงบริการให้คำปรึกษาและฝึกอบรม มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ และเวอร์ชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็ก

• Red Hat Database Availability Solution: เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่ (ได้แก่ Oracle, Sybase, MySQL EnterpriseDB, DB2 และอื่นๆ) สามารถนำเสนอความน่าเชื่อถือของ clustered database systems ด้วยงบประมาณที่ประหยัดลงถึง 200,000 เหรียญสหรัฐหรือมากกว่านั้นต่อฐานข้อมูล เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของ clustered database system ชั้นนำอื่นๆ

• Red Hat High Performance Computing Solution: เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้วิศวกร นักวิจัย และนักวิเคราะห์ด้านการเงิน สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มผลกำไรและความได้เปรียบในการแข่งขัน โซลูชั่นนี้ใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์ที่กระจายทั่วเครือข่ายของลูกค้า และช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อน ผู้เชี่ยวชาญทงเทคนิคจึงมีเวลาทุ่มเทแก้ปัญหามากขึ้น แทนที่จะต้องดูแลเฉพาะส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที

บริการระดับโลกจากเรด แฮท

ลูกค้าในตลาดเทคโนโลยีต่างต้องการบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด และครอบคลุมการติดตั้ง ทดสอบ และใช้งานระบบที่มีความสลับซับซ้อน ทั้งในส่วนของซอฟต์แวร์ของเรด แฮทเองและผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตรายอื่น ด้วยเหตุนี้ เรด แฮทจึงได้กำหนดมาตรฐานการให้บริการ Service Level Agreements (SLA) ที่ให้ความสะดวกยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในส่วนของเทคโนโลยีของเรด แฮทเอง หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับโซลูชั่นของพันธมิตร

เมื่อเร็วๆ นี้ เรด แฮทได้เปิดให้บริการ Red Hat Cooperative Resolution Center ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดภายในเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งเรด แฮทได้ก่อตั้งร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำรายอื่นๆ เพื่อนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วขึ้น โดยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สนับสนุนทางเทคนิคของบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากซอฟต์แวร์ของเรด แฮทหรือไม่

“เมื่อเร็วๆ นี้ โนมูระ เซเคียวริตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ประสบปัญหายุ่งยากจากการใช้บริการจากผู้ให้บริการหลายราย ตัวแทนของเรด แฮทสามารถวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว และทำงานร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่นเพื่อหาทางออกที่เกิดประสิทธิผลได้อย่างรวดเร็ว” ลีออง เชน ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีองค์กรของโนมูระ กล่าว “เราพอใจกับบริการในลักษณะนี้อย่างมาก”

เครือข่ายพันธมิตรของเรด แฮท

ลูกค้าของเรด แฮทต้องการประโยชน์สูงสุดจากซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่นอกเหนือจากสิ่งที่เทคโนโลยีปัจจัยพื้นฐานจะให้ได้ แต่ที่ผ่านมามักประสบอุปสรรคจากความยุ่งยากซับซ้อนของการติดตั้ง ทดสอบ และใช้งานโซลูชั่นโอเพ่นซอร์ส ด้วยเหตุนี้ เรด แฮทจึงได้ร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรพัฒนา Red Hat Exchange (RHX) ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำ pre-integration แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในธุรกิจ ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์สำหรับเทคโนโลยีปัจจัยพื้นฐานจากเรด แฮท และแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในธุรกิจจากพันธมิตร

RHX เป็นแหล่งรวมทรัพยากรสำหรับการทำวิจัย การซื้อ และการจัดการข้อมูลออนไลน์ รวมถึงบริการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สและแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์อื่นๆ สำหรับใช้ในธุรกิจ ด้วยขีดความสามารถของ RHX ลูกค้าสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์โซลูชั่นโอเพ่นซอร์สประเภท pre-integrated ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์สำหรับเทคโนโลยีปัจจัยพื้นฐานจากเรด แฮท และแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในธุรกิจจากพันธมิตร โดยเรด แฮทจะเป็นผู้ให้บริการจัดส่งและบริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว

ด้วยขีดความสามารถของ RHX เรด แฮทคาดว่าจะช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ทดสอบ และใช้งานแอพพลิเคชั่นสำหรับงานธุรกิจ และรองรับการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของพันธมิตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นโอเพ่นซอร์สในเชิงการค้า

Red Hat Enterprise Linux 5, Red Hat Advanced Platform, Red Hat Systems Management, Red Hat Solutions และ Red Hat Exchange สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรด แฮทในการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเป็นสำคัญ

เกี่ยวกับ เรด แฮท อิงค์

เรด แฮท อิงค์ ผู้ให้บริการโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สชั้นนำของโลก มีสำนักงานใหญ่ในรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า สหรัฐอเมริกา และสำนักงานผ่านดาวเทียมอยู่ทั่วโลก ได้รับการโหวตจาก CIO ทั่วโลก ให้เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ที่นำเสนอความคุ้มค่าสูงสุด 3 ปีติดต่อกัน จากการสำรวจของนิตยสาร CIO Insight Magazine

เรด แฮท เป็นผู้บุกเบิกและผลักดันระบบปฏิบัติการลีนุกซ์และโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สอื่นๆ ให้เข้าไปอยู่ในกระแสหลัก โดยการพัฒนาเทคโนโลยีคุรภาพสูงและต้นทุนต่ำ ผลงานของเรด แฮท ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux รวมทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทูลสำหรับบริหารจัดการระบบ และมิดเดิ้ลแวร์โซลูชั่น ได้แก่ JBoss Enterprise Middleware Suite

ปัจจุบัน เรด แฮท กำลังมุ่งพัฒนาไปสู่สถาปัตยกรรม SOA (service-oriented architectur) และการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้งานผ่านเว็บที่ทำงานบนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่เสียค่าใช้จ่ายต่ำลง แต่ปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ เรด แฮท ยังให้บริการด้านการสนับสนุนทางเทคนิค ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำอีกด้วย ทั้งนี้ กลยุทธ์ด้านโอเพ่นซอร์สของ เรด แฮท ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนระยะยาวสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกในการบริหารจัดการ

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.redhat.com