ดิอาจิโอและกรมทรัพยากรธรณีฉลองความสำเร็จ จัดพิธีปิดโครงการจัดหาแหล่งน้ำและก่อสร้างระบบประปาบาดาลในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย 6 จังหวัดภาคใต้ พร้อมส่งมอบโครงการฯ แก่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลในการดำเนินการผลิตน้ำแก่ประชาชนต่อไป
โครงการจัดหาแหล่งน้ำและก่อสร้างระบบประปาน้ำบาดาลในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย 6 จังหวัดภาคใต้ตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก กองทุนคีพวอล์คกิ้ง ไทยแลนด์ สึนามิ ฟันด์ (Keep Walking Thailand Tsunami Fund) และมูลนิธิดิอาจิโอ (Diageo Foundation) โดยได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินจำนวน 7 ล้านบาทแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งได้ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานเงินจำนวน 1 ล้านบาทนำเข้าทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ (เพื่อภาคใต้) และจำนวน 6 ล้านบาทให้กับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นผู้ดำเนินโครงการเพื่อดำเนินการสร้างบ่อน้ำบาดาลและระบบประปาบาดาล พร้อมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบธรณีพิบัติภัยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 แล้วนั้น ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว กรมทรัพยากร น้ำบาดาลร่วมกับกองทุนคีพวอล์คกิ้ง ไทยแลนด์ สึนามิ ฟันด์ และมูลนิธิดิอาจิโอ โดยบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดพิธีปิดโครงการฯ ขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2550 ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 ตำบลกมลา จังหวัดภูเก็ต
นายสมิทธ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า “นับเป็นที่น่ายินดีที่โครงการฯ นี้ได้จัดทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและสามารถผลิตน้ำที่มีคุณภาพแก่ชุมชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง ซึ่งภายหลัง การเกิดธรณีพิบัติภัยเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 ที่ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ รวมถึงการขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเนื่องจากแหล่งน้ำเดิมกลายเป็นน้ำกร่อยจากการปนเปื้อนของน้ำทะเล โครงการจัดหาแหล่งน้ำและก่อสร้างระบบประปาบาดาลจัดทำโดยกรมทรัพยากรธรณี โดยการสนับสนุนของกองทุนคีพ วอล์คกิ้ง ไทยแลนด์ สึนามิ ฟันด์ มูลนิธิดิอาจิโอ และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัดนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบและรอคอยความช่วยเหลืออยู่ ตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”
นางสาวสมคิด บัวเพ็ง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า โครงการฯ นี้ มีการดำเนินการเป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 จนถึงเดือนมีนาคม 2550 โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ลงพื้นที่ที่ประสบภัยและสำรวจแหล่งน้ำทั้งทางอุทกธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์และสรุปผลว่า มีโรงเรียนและชุมชนถึง 6 แห่งที่ต้องการความช่วยเหลือด้านแหล่งน้ำอย่างเร่งด่วน ได้แก่ 1) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต 2) บ้านพักถาวรบ้านหาดยาว จังหวัดกระบี่ 3) โรงเรียนอ่าวกระพ้อ (เกาะยาว) จังหวัดพังงา 4) ชุมชนโรตารีบ้านในไร่ จังหวัดพังงา 5) โรงเรียนบ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา และ 6) ชุมชนบ้านคลองโขง-พรุกม จังหวัดกระบี่ จึงได้ดำเนินการช่วยเหลือ โดยทำการสำรวจแหล่งน้ำจืดและขุดบ่อน้ำบาดาลในเบื้องต้นให้กับโรงเรียนและชุมชนทั้ง 6 แห่ง โดยการเจาะบ่อน้ำบาดาลให้มีน้ำเพียงพอเป็นน้ำดิบผลิต
น้ำประปาอย่างน้อย 100 ลิตรต่อคนต่อวัน การติดตั้งระบบกรองและวางระบบท่อเพื่อให้แต่ละแห่งมีน้ำใช้ ทั้งหมด 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อพื้นที่ จัดสร้างระบบประปาบาดาลและติดตั้งระบบกรองสนิมเหล็ก พร้อมเดินท่อเมนจ่ายน้ำให้ครอบคลุมทั่วกันทุกหลังคาเรือน รวมทั้งจัดสร้างอาคารและติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลด้วยวิธี Reverse Osmosis กำลังผลิต 1,000 ลิตรต่อชั่วโมงต่อพื้นที่ โดยเมื่อโครงการฯ นี้เสร็จสิ้นแล้วจะสามารถจัดหาแหล่งน้ำจืดที่มีคุณภาพสำหรับการอุปโภคและบริโภคให้กับนักเรียน ครู และชาวบ้านรวม 4,231 คน 876 ครัวเรือน
นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคม บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยรวมอย่างต่อเนื่อง การเกิดเหตุภัยพิบัติสึนามิได้สร้างความเสียหายอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงการช่วยเหลือในระยะยาว สำหรับชาวบ้านที่ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลและมักจะขุดบ่อน้ำบาดาลที่ตื้นและน้ำผิวดินขึ้นมาใช้ แต่ผลจากการท่วมของน้ำทะเลจากเหตุการณ์ทำให้แหล่งน้ำกลายเป็นน้ำกร่อยหรือน้ำเค็มจนไม่สามารถนำมาใช้ได้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ขาดแคลนแหล่งน้ำกินน้ำใช้ที่มีคุณภาพ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูและคืนสภาพความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้ประสบภัย ขณะนี้โครงการฯ สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเราหวังว่า ระบบผลิตน้ำประปาบาดาลตามโครงการฯ จะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้มีน้ำกินน้ำใช้ที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอ ตลอดจนเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับทุกคน”
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิตามโครงการจัดหาแหล่งน้ำดังกล่าว กองทุนคีพ วอล์คกิ้ง ไทยแลนด์ สึนามิ ฟันด์ และมูลนิธิดิอาจิโอ โดยบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ความช่วยเหลือเป็นจำนวนเงินกว่า 60 ล้านบาท โดยได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือทั้งในเบื้องต้นและระยะยาว เช่น การบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อสมทบทุนสร้างบ้านร่วมมือร่วมใจจำนวน 10 หลังผ่านสถานีโทรทัศน์ไอทีวี การบริจาคเงินจำนวน 3.3 ล้านบาทและมอบสิ่งของพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยผ่านมูลนิธิพลังสตรีศรีสยามและกองทัพบก การจัดพิมพ์หนังสือป้องกันภัยและรับมือคลื่นยักษ์สึนามิเพื่อมอบให้กับประชาชนเป็นเงินจำนวน 2.5 ล้านบาทโดยมอบให้แก่ประธานรัฐสภาในขณะนั้น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว Thailand Golf Paradise ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จัก เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจสิรินธรและอบต.ไม้ขาว จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ตาม “โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาด” โดยการทำความสะอาดชายหาด ไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต และมีพนักงานอาสาสมัครของบริษัทฯ พร้อมด้วยชุมชนหาดไม้ขาวร่วมกันพัฒนาสภาพแวดล้อมบริเวณชายหาด นอกจากนี้ พนักงานได้บริจาคเงินส่วนตัวร่วมกับการจัดสรรเงินบริจาคของบริษัทฯ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 476,624 บาท เพื่อมอบให้กับทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ (เพื่อภาคใต้) หน่วยเฉพาะกิจ สิรินธร และอบต.ไม้ขาว เพื่อดำเนินการรักษาและทำความสะอาดชายหาดนี้ต่อไป ทั้งนี้ พนักงาน อาสาสมัครของบริษัทฯ ได้เข้าร่วมทำความสะอาดบริเวณชายหาดไม้ขาว พร้อมทั้งติดตั้งถังขยะบนถนนริม ชายหาด เพื่อเป็นสร้างทัศนียภาพอันสวยงามและสุขอนามัยของชุมชนและนักท่องเที่ยวอีกด้วย
“ทุกปี บริษัทฯ จะจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อปลูกฝังให้พนักงานของบริษัท ฯ มีจิตสำนึกใน การรับผิดชอบต่อสังคมและพร้อมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้สอดคล้องกับปณิธานของบริษัทที่ว่าจะทำประโยชน์เพื่อสังคมและมุ่งมั่นในการสนับสนุนพัฒนาสังคมไทย” นายวรเทพกล่าวทิ้งท้าย