เอชพี แคนนอน เอ็ปสัน ซัมซุง และ บราเธอร์ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทลาย ตลับหมึก-ผงหมึก-ริบบิ้นปลอม

ห้าบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่บริษัทฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด เดเวลอปเม้นท์ คัมปะนี, แอล.พี. (“ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด”), ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (“เอ็ปสัน”), แคนนอน คาบูชิกิ ไกชา (“แคนนอน”), ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (“ซัมซุง”), และ บราเธอร์ อินดัสตรีส์ แอลทีดี. (“บราเธอร์”) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต. วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท แห่งกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ได้เข้าตรวจค้นที่เก็บสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนนิมิตใหม่ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ยึดของกลางเป็นจำนวนกว่า 100,000 ชิ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามฯ ยังเข้าตรวจค้นที่เก็บสินค้าที่ใช้ในการบรรจุหีบห่อ และเก็บตลับหมึก ตลับผงหมึก ผ้าหมึก รวมทั้งสติ๊กเกอร์ปลอม ที่ใช้ประกอบการผลิตสินค้าปลอมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ คาดว่าสินค้าของปลอมที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเข้าตรวจค้นจับกุมสินค้าปลอม ณ ที่เก็บสินค้าครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้ เจ้าของสินค้าดังกล่าวได้ถูกจับกุมในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท

ด้านบริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายของผู้ผลิตทั้ง 5 ราย เปิดเผยว่า ทางเจ้าของสิทธิยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามนโยบายในการกวาดล้างผู้ผลิต และ ผู้จำหน่าย ตลับหมึก ตลับผงหมึก และผ้าหมึกปลอมให้หมดไปจากตลาดไทย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการการทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ ภายใต้นโยบายดังกล่าว บริษัทมีแผนที่จะเข้าตรวจค้นโรงงาน แหล่งเก็บสินค้า และร้านค้าปลีกจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อกวาดล้างสินค้าปลอมให้หมดไปจากตลาดในประเทศไทย

ในนามของบริษัทผู้ผลิตทั้งห้าราย ตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทยังกล่าวต่อไปว่า ทางสำนักงานฯ จะร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ในการปราบปรามการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อกำจัดตลาดค้าขายสินค้าปลอมเหล่านี้ให้หมดไป ทั้งนี้ เจ้าของสิทธิต้องขอแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เข้าดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว เพื่อปกป้องไม่ให้ผู้บริโภคถูกหลอกลวงเกี่ยวกับแหล่งที่มาและคุณภาพของสินค้าปลอมดังกล่าว และหวังว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงรณรงค์เพื่อต่อต้านผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกสินค้าต้องสงสัยดังกล่าวต่อไป และเจ้าของสิทธิทั้งหมดรวมทั้งที่ปรึกษาทางกฎหมายต่างยืนยันที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด