เบ็นคิวแถลงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 แสดงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและภาคพื้นตะวันออกกลาง ในสายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่เครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ แอลซีดีมอนิเตอร์ แอลซีดีทีวี จอยบุ๊ค รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ
เบ็นคิวโปรเจ็คเตอร์ เป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยีและการแสดงผลภาพอันทรงประสิทธิภาพ ครองส่วนแบ่งตลาดที่อันดับ 2 ติดต่อกันมา 4 ไตรมาส และในไตรมาส 1 ปี 2550 ได้ประสบความสำเร็จในการเข้าครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 11.43% ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและภาคพื้นตะวันออกกลาง ตามการรายงานของบริษัทชั้นนำการวิจัยการตลาด DTC Worldwide ผลการดำเนินการอันโดดเด่นนี้มาจากความสำเร็จของยอดการจำหน่ายในแต่ละประเทศทั่วภูมิภาค อาทิ เบ็นคิวโปรเจ็คเตอร์ครองอันดับ 1 ในอินโดนิเซีย, ออสเตรเลีย, เกาหลี และซาอุดิอาระเบีย ทั้งยังติดอันดับหนึ่งในสามเจ้าของส่วนแบ่งตลาดถึงในอีก 11 ประเทศ ในอินโดนิเซียเองนั้น เบ็นคิวโปรเจ็คเตอร์แสดงยอดขายด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงถึง 32.6% และส่วนแบ่งตลาดที่มากกว่า 15% ในอีก 8 ประเทศด้วยกัน
“นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีของเบ็นคิว ซึ่งครอบคลุมพัฒนาการในการนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการรับชม และกลไกการทำงานของเครื่องฯ ที่เบ็นคิวพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจน เบ็นคิวเป็นบริษัทแรกของวงการอุตสาหกรรมที่นำ DLP ชิพเซ็ทที่ล้ำสมัยมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ได้กลายมาเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จของตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความคมเข้มของสี” นายเอเดรียน ชาง ประธาน เบ็นคิว เอเชีย แปซิฟิกกล่าว นอกจากนี้ เบ็นคิวยังแสดงศักยภาพเทคโนโลยีการควบคุมระดับเสียงให้ต่ำที่สุดของวงการโปรเจ็คเตอร์ รวมทั้งสมรรถนะการแสดงผลภาพ และคุณภาพความทนทานของผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เบ็นคิวโปรเจ็คเตอร์ประสบความสำเร็จนั่นเอง
นอกจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ประสิทธิภาพการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย ที่สอดคล้องเป็นอย่างดีกับการวางตัวผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมกับความต้องการกลุ่มตลาด เหล่านี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังผลสำเร็จต่อการเติบโตของยอดจำหน่ายและมูลค่าของผลิตภัณฑ์จากเบ็นคิว
ในช่วงแรกเบ็นคิวได้ลงทุนในอุตสาหกรรม TFT ซึ่งส่งให้เบ็นคิวมีศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมาสนองความต้องการกลุ่มเป้าหมายในแต่ละเซ็คเมนต์ได้อย่างดี แม้ภาวะการแข่งขันจะรุนแรงในด้านราคา ทว่าอัตราการเติบโตในตลาดแอลซีดีมอนิเตอร์ของเบ็นคิวยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งขยายตัวเชิงปริมาณได้อีกในส่วนตลาดใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 ดังจะเห็นได้จากยอดการเติบโตของยูนิตการสั่งซื้อในอินโดนิเซียนั้นสูงถึง 400% และ 125% ในมาเลย์เซีย อีกกว่า 100% ทั้งในไทยและภาคพื้นตะวันออกกลาง ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่ล้ำสมัย คุณภาพวางใจได้ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสำหรับการแสดงภาพที่ก้าวล้ำในวงการ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยให้เบ็นคิวแอลซีดีมอนิเตอร์ครองตำแหน่งหนึ่งในสามจ้าวตลาดภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และภาคพื้นตะวันออกกลาง
แอลซีดีทีวี เป็นอีกหนึ่งพระเอกในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากเบ็นคิว ด้วยเทคโนโลยี Senseye ผนวกกับฝีมือการออกแบบระดับคว้ารางวัล เบ็นคิวแอลซีดีทีวีเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคงในกลุ่มตลาดกลยุทธ์ต่างๆ อาทิ ไต้หวัน รวมทั้งภาคพื้นตะวันออกกลาง ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอยู่อันดับในตะวันออกกลางและเอมิเรตส์ และเป็นหนึ่งในสามผู้นำตลาดในซาอุดิอาระเบีย เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้เท่านั้น เบ็นคิวสามารถจำหน่ายแอลซีดีทีวี 37นิ้ว และ 42นิ้วในตลาดไต้หวันได้เข้าอันดับ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เบ็นคิวจอยบุ๊ค ยอดจำหน่ายได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีนั้นคิดเป็น 61% ในไตรมาส 1 ปี 2550 คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 16 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2549 ตามจำนวนที่ส่งจำหน่ายในอินโดนิเซีย อันเป็นผลจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และคิดเป็น 9 เท่าในมาเลย์เซีย อันเป็นผลจากกลยุทธ์การวางตัวผลิตภัณฑ์และพันธมิตรหลัก ส่วนในไต้หวันเองนั้น อัตราการเติบโตคิดเป็น 166% อันเป็นผลจากรูปลักษณ์การออกแบบหรูหรา ให้ความคุ้มค่าการใช้งานเกินราคา และเทคโนโลยีการแสดงภาพที่ล้ำสมัย เบ็นคิวคาดการณ์การเติบโตต่อเนื่องสู่ช่วงครึ่งหลังของปีเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนโทรศัพท์มือถือของเบ็นคิวมีอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกคิดเป็น 31% จากปริมาณความต้องการจากผู้บริโภคในอินเดียที่เพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์การวางตัวผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตลอดจนราคาจำหน่าย รวมทั้งการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรคู่ค้า ทำให้เบ็นคิวสามารถผลักดันการขยายตัวของยอดจำหน่ายในอินเดียได้สูงถึง 598%
“สมรรถภาพเชิงเทคโนโลยีและกลยุทธ์การตลาดที่คล่องตัวนั้นเป็นกลจักรสำคัญของเบ็นคิว ที่ช่วยสร้างการเติบโตในการจำหน่ายในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และภาคพื้ยตะวันออกกลาง” นายเอเดรียน ชาง ประธาน เบ็นคิว เอเชีย แปซิฟิก กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกหลากหลายเพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าของเรา และจะก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อให้ได้มาซึ่งผลการจำหน่ายที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ และเพื่อครองใจผู้บริโภคให้เป็นแบรนด์ในดวงใจอย่างแท้จริง”
เกี่ยวกับเบ็นคิว คอร์ปอเรชั่น
เบ็นคิว คอร์ปอเรชั่นประกอบด้วย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มดิจิตัลมีเดีย, กลุ่มบริการผลิตสำเร็จรูป และกลุ่มการสื่อสารเคลื่อนที่ ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ต่างนำเสนอโปรดักส์หลากหลายประเภทที่ล้วนเน้นความสำคัญไปยังโซลูชั่นเพื่อสนองตอบดิจิตัลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ยอดรายรับประจำปี 2549 ของเบ็นคิว คอร์ปอเรชั่นนั้นมากกว่า 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ


