ออราเคิลเผย ธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีงบประมาณ 2550

ออราเคิลรายงานว่าบริษัทฯ มียอดลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้ตามหลักบัญชี GAAP เพิ่มขึ้น 24% เป็น 2,499 ล้านดอลลาร์ในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น (JAPAC) สำหรับปีงบประมาณ 2550 (สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2550) องค์กรต่างๆ เลือกใช้ Oracle Database, Oracle Fusion Middleware และ Oracle Applications สำหรับระบบไอทีที่ครอบคลุมทั่วทั้งบริษัท โดยมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น บริการด้านการเงิน รัฐบาล การศึกษา สาธารณสุข โทรคมนาคม สาธารณูปโภค การผลิต ค้าปลีก และการจัดจำหน่าย

“ปีงบประมาณ 2550 เป็นอีกปีหนึ่งที่ธุรกิจของออราเคิลเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น” มร. ดีเร็ค วิลเลียมส์ ประธานและรองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่นของออราเคิล กล่าว “ธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกภูมิภาคและทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รายได้โดยรวมของเราเพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวของตลาด และทำให้เรามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้น ออราเคิลเป็นผู้นำในการพัฒนาโซลูชั่นทางธุรกิจแบบครบวงจรที่อ้างอิงมาตรฐานและมีความหลากหลายมากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงซอฟต์แวร์ด้านการจัดการประสิทธิภาพของเทคโนโลยี แอพพลิเคชั่น และองค์กร”

“เรามองเห็นระดับความต้องการที่สูงมากสำหรับซอฟต์แวร์ของออราเคิลทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” มร. ไบรอัน มิตเชล รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของออราเคิล กล่าว “ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ต้องการโซลูชั่นเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นแบบเปิดที่มีความยืดหยุ่นและอ้างอิงมาตรฐาน โดยองค์กรต่างๆ กำลังแทนที่ระบบแบบปิดที่ล้าสมัยเพื่อลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ องค์กรเหล่านี้มองเห็นคุณประโยชน์ของแพลตฟอร์มแบบเปิด ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับใช้ระบบงานที่ยืดหยุ่นได้อย่างรวดเร็ว โดยครอบคลุมหลายๆ แอพพลิเคชั่น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น สถาปัตยกรรม Service-Oriented Architecture (SOA) ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพ”

ธุรกิจแอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีของออราเคิลยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีลูกค้ารายใหม่ๆ จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทุกตลาด และจากบริษัททุกขนาดทั่วภูมิภาคนี้ มร. มิตเชล กล่าวว่า “ในปัจจุบัน ออราเคิลเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการจัดหาซอฟต์แวร์สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น ธนาคาร ตลาดการเงิน การประกัน รัฐบาล การศึกษา การสื่อสาร และสื่อ”

แอพพลิเคชั่นของออราเคิลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากกลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า
แอพพลิเคชั่นของออราเคิลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมากต่อความมุ่งมั่นและการลงทุนของออราเคิลในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่นของออราเคิลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของ Oracle E-Business Suite, Siebel, PeopleSoft และ JD Edwards รวมถึงการจัดหาบริการสนับสนุนตลอดอายุการใช้งานภายใต้โครงการ “Applications Unlimited” การเปิดตัวความสามารถที่ก้าวล้ำในการผนวกรวมระบบด้วย Applications Integration Architecture และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่นทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง

ลูกค้ารายใหม่สำหรับธุรกิจแอพพลิเคชั่นของออราเคิล ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2550 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ Aditya Birla Group (อินเดีย), Australian air Express (ออสเตรเลีย), Australian Securities Exchange (ออสเตรเลีย), Bank of Nanjing (จีน), Capgemini (อินเดีย), Champion Building Materials (ไต้หวัน), Datang International Power Generation (จีน), Dongfang Steam Turbine Works (จีน), Fraser & Neave (สิงคโปร์), Guohua Power Co. (จีน), Higher Education Commission (ปากีสถาน), Indian Bank (อินเดีย), ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), KOLSON (ปากีสถาน), บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (ประเทศไทย), บริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (ประเทศไทย), Lahore University of Management Sciences (ปากีสถาน), Lakshmi Machine Works (อินเดีย), Meadville Enterprises (ฮ่องกง), Nanjing Chervon Industry (จีน), Pacific International Lines (สิงคโปร์), Panasonic Asia Pacific Pte Ltd (สิงคโปร์), Shakarganj Mills (ปากีสถาน), Shanghai Baoshan Iron & Steel Overseas Division (จีน), Taiping Carpets (ฮ่องกง), TianZheng Group (จีน), University of Ballarat (ออสเตรเลีย), Wah Shing Toys Co., Ltd (ฮ่องกง) และ WorleyParsons Limited (ออสเตรเลีย)

Oracle Fusion Middleware ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น
ลูกค้าเลือกใช้สถาปัตยกรรม “hot-pluggable” ของ Oracle Fusion Middleware เพื่อใช้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่น ระบบ หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่ ทั้งนี้ Oracle Fusion Middleware เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่อ้างอิงมาตรฐาน ประกอบด้วยเครื่องมือและบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องมือ J2EE และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ไปจนถึงบริการด้านการผนวกรวม ระบบธุรกิจอัจฉริยะ การจัดการผู้ใช้ การทำงานร่วมกัน และการจัดการคอนเทนต์

“ซอฟต์แวร์ที่อ้างอิงมาตรฐานเปิดของออราเคิลช่วยให้องค์กรต่างๆ มีอำนาจที่จะเลือกใช้เทคโนโลยีตามความต้องการและความจำเป็นในปัจจุบัน โดยไม่จำเป็นต้องตัดทอนและเปลี่ยนทดแทนส่วนประกอบที่มีอยู่ ในขณะที่กระแสการปรับเปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับข้อมูลและบริการยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่างๆ จะมองหาหนทางในการปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูลและระบบธุรกิจอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มการประมวลผลที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด”
มร. มิตเชล กล่าวเสริม

ลูกค้ารายใหม่สำหรับ Oracle Fusion Middleware ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2550 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ Amana Takaful Limited (ปากีสถาน), Australian air Express (ออสเตรเลีย), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (ประเทศไทย), Cadila Pharmaceuticals (อินเดีย), ChipMos Technologies (ไต้หวัน), Fairfax Media (ออสเตรเลีย), First Dawood Islamic Bank (ปากีสถาน), Formosa Plastics Group (ไต้หวัน), Information Technology Department Government of Sindh (ปากีสถาน), KFTC (เกาหลี), บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (ประเทศไทย), Meadville Enterprises (ฮ่องกง), National Development Bank (ศรีลังกา), New Hampshire Insurance (ปากีสถาน), Orix Leasing (ปากีสถาน), Pak-Kuwait Takaful Limited (ปากีสถาน), Pak-Qatar Family Takaful Limited (ปากีสถาน), Shin Kong Financial Holding (ไต้หวัน), The Oriental Insurance Company (อินเดีย), Wolfpac Mobile (ฟิลิปปินส์) และ Wah Shing Toys (ฮ่องกง)

รั้งตำแหน่งผู้นำอย่างต่อเนื่องในธุรกิจฐานข้อมูล
องค์กรต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกยังคงไว้วางใจออราเคิลสำหรับโซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่รองรับข้อมูลจำนวนมาก โดยล่าสุด ไอดีซีเปิดเผยว่าออราเคิลขยายความเป็นผู้นำด้านฐานข้อมูล โดยครองส่วนแบ่ง 49% ของตลาดระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (relational database management systems – RDBMS) ในเอเชีย-แปซิฟิกในช่วงปี 2549 ซึ่งสูงกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับส่วนแบ่งตลาดของคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวของไอดีซียังระบุด้วยว่า ออราเคิลสามารถเพิ่มรายได้ซอฟต์แวร์ RDBMS ได้ถึง 15.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของตลาด

ลูกค้ารายใหม่สำหรับฐานข้อมูลของออราเคิลในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2550 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ ACE Life Vietnam (เวียดนาม), Alcatel Australia (ออสเตรเลีย), ANZ Banking Group (ออสเตรเลีย), Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao (ลาว), Bank of Nanjing (จีน), Blue Freeway (ออสเตรเลีย), China Mobile Communication Group (จีน), China Mobile Group GuangDong Co., Ltd (จีน), Chongqing Telecom Company (จีน), Cong Ty Thong Tin Di Dong Vietnam (เวียดนาม), Daewoo Securities (เกาหลี), Dai Hoc Quoc Gia Hanoi (เวียดนาม), De Nhat (First Commercial Joint-stock Bank) (เวียดนาม), Eraring Energy (ออสเตรเลีย), Gansu Telecom (จีน), Guizhou Telecom (จีน), Higher Education Commission Pakistan (ปากีสถาน), Hobsons Australia (ออสเตรเลีย), Hunter Water Corporation (ออสเตรเลีย), Industrial Bank of Korea (เกาหลี), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), Kien Long (Rural Joint Stock Commercial Bank) (เวียดนาม), บริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (ประเทศไทย), Lahore University of Management Sciences (ปากีสถาน), Lakshmi Machine Works (อินเดีย), Maruti Udyog (อินเดีย), News Limited (ออสเตรเลีย), Optus Systems (ออสเตรเลีย), PT Telekomunikasi Selular (Telkomsel) (อินโดนีเซีย), PV Drilling (เวียดนาม), RMIT International University Vietnam (เวียดนาม), Shaanxi Telecom (จีน), Shanghai Baoshan Iron & Steel Co. Ltd. Overseas Division (จีน), Sichuan Telecom Company (จีน), Toyota Motor Vietnam (เวียดนาม), Western Commercial Bank (เวียดนาม) และ Yunnan Telecom (จีน)

เกี่ยวกับออราเคิล
ออราเคิล (ชื่อย่อในตลาดหุ้นแนสแด็ก: ORCL) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายซอฟต์แวร์ระดับองค์กรรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิล สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.oracle.com