ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยผลสำรวจความเห็นผู้บริหารบจ. ประจำไตรมาส 2 ปี 2550

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และสถานีโทรทัศน์มันนี่แชนแนล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงภาพรวมแนวโน้ม การดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ทุกอุตสาหกรรม ทุกไตรมาส ภายใต้ชื่อโครงการ Quarterly Thailand Economic Outlook Survey เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจในครั้งนี้มาจัดทำตัวชี้วัดด้านการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และปัจจัยที่มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของประเทศไทย

“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ที่มุ่งสู่การเป็นตลาดทุนที่ครบวงจร และมีความน่าสนใจในภูมิภาค

การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นบุคคลที่คลุกคลีในแวดวงอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยตรงจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ หน่วยงานภาครัฐ นักวิเคราะห์ และนักลงทุน มีข้อมูลที่สะท้อนถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการทำธุรกิจ การลงทุน และแนวโน้มของสภาวะตลาดทุน รวมทั้ง เศรษฐกิจของประเทศ” นางภัทรียากล่าว

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นความสำคัญของการใช้ข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจทั้งในด้านการลงทุน การดำเนินธุรกิจ ข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้ จึงนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำข้อมูลที่ได้เผยแพร่ให้ นักลงทุน และบุคคลทั่วไป ใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนำไปพัฒนากลยุทธ์และนโยบายต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทจดทะเบียน รวมทั้ง เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน เช่น การเผยแพร่โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) หรือเพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่องของการมีบรรษัทภิบาล (CG) เป็นต้น

ส่วนประโยชน์ที่บริษัทจดทะเบียนได้รับ คือ สามารถนำข้อมูลที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตน หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ดำเนินอยู่ไปใช้พัฒนากลยุทธ์ ให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับนักวิเคราะห์ ก็สามารถรับรู้มุมมองของผู้ประกอบการเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจ ไปใช้ประกอบการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนหน่วยงานภาครัฐ ก็สามารถนำข้อมูลใช้ในการพิจารณาดำเนินนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน หรืออุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาตลาดทุน

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำข้อมูลที่ได้จากการทำงานของสมาคมบริษัทจดทะเบียนให้สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดตั้งขึ้น ทำรายงานการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบผลสำรวจความเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนให้บริษัทจดทะเบียนที่ร่วมในการให้ความเห็น (Thailand Economic Outlook Survey)

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ปรึกษา สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน กล่าวว่า ความเห็นที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ สามารถสะท้อนภาพเศรษฐกิจของไทยได้ในระดับหนึ่ง เพราะทำให้ทราบว่ามุมมองของผู้ประกอบการไทยต่อสภาพเศรษฐกิจ การเมืองไทยในขณะใดขณะหนึ่งว่าเป็นอย่างไร” ดร.กอบศักดิ์กล่าว

สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนพบว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมากกว่าร้อยละ 60 เห็นว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2550 จะขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 3.5 และมากกว่าร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสอบถามมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2551 จะขยายตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนยังมีความมั่นใจที่จะขยายการลงทุน ประมาณร้อยละ 65 มีแนวโน้มที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นภายใน 12 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ประมาณร้อยละ 30 คาดว่าจะรักษาระดับการลงทุนในปี 2551 ในระดับเดียวกับปี 2550 โดยปัจจัยหลักที่ผู้บริหารบริษัท จดทะเบียนเห็นว่ามีผลกระทบต่อแผนการลงทุนในปี 2550 ที่สุดคือ สภาวะเศรษฐกิจในประเทศและสภาวะการเมือง ทั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนเกือบร้อยละ 70 มีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุนจะจัดส่งผลสำรวจในครั้งนี้ ให้บริษัทจดทะเบียนแก่หน่วยงานภาครัฐ และ ภาคเอกชนที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนั้น ๆ โดยตรง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพัฒนากลยุทธ์ การดำเนินงาน อาทิ การวัดค่าความได้เปรียบ เสียเปรียบ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียน ปัจจัยที่ส่งผลดีหรือผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ อุตสาหกรรมใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการทำธุรกิจแข่งขันกับต่างประเทศ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังจะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจทางสถานีโทรทัศน์มันนี่แชนแนล เว็บไซต์ของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ที่ www.lca.or.th และตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.thส่วนรายงานบทวิเคราะห์ เชิงเปรียบเทียบ ซึ่งแสดงผลการตอบแบบสอบถามของบริษัทจดทะเบียนแต่ละแห่งเทียบกับการวิเคราะห์ใน ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งให้เฉพาะบริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามและเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ มันนี่แชนแนลเท่านั้น

นางสาวเพ็ญศรี สุธีรศานต์ ผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า มุมมองที่ต้องการให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนสะท้อนออกมาในแบบสำรวจคือ ภาวะเศรษฐกิจ การขยายกิจการ การลงทุน เพิ่มทุน ความต้องการด้านบุคคลกรของบริษัท ปัจจัยด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ภาพรวมแนวโน้มการดำเนินธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขัน ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพเศรษฐกิจ การเมือง อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน เป็นต้น รวมถึง การทำกิจกรรมด้านบรรษัทภิบาล ด้านการส่งเสริมการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

“จากผลการสำรวจความเห็นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 110 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมประมาณร้อยละ 50 ของมูลค่าตลาดทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียน พบว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนยังมีความมั่นใจต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”