ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน เปิดเผยถึงการปรับโฉมใหม่ของ ระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยระดับโลก – เทรทคอน (ThreatCon) ซึ่งสามารถให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับสถานะของความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อีกทั้งยังให้คำแนะนำที่รวดเร็วและครอบคลุมมากกว่าสำหรับการปกป้องตัวเองจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัย (vulnerabilities) ภัยคุกคาม (threats) และการโจมตี (attacks) ต่างๆ ซึ่งการปรับโฉมใหม่ของเทรทคอนครั้งนี้ มีการเพิ่มเติมคุณสมบัติพิเศษมากมายเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนทั้งภัยคุกคามในอดีตและปัจจุบันไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถตรวจพบภัยคุกคามและได้รับข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว
“ภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันเต็มไปด้วยความซับซ้อนหลากหลาย และมักจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินเป็นสำคัญ” คุณภัทราภา หงษ์คำดี ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น กล่าว “ภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกค้าควรจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้มองเห็นภาพรวมได้อย่างครอบคลุม ซึ่งเทรทคอน ให้มากกว่าข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อันตราย (malware) และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยต่างๆ โดยลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นทันทีเพื่อการดูแลความปลอดภัยในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์ปัจจุบันนี้”
ทั้งนี้ เทรทคอนโฉมใหม่ได้ดึงข้อมูลมาจากบริการหลายส่วนของไซแมนเทค ทั้งบล็อกของศูนย์ตอบสนองด้านความปลอดภัย (Symantec Security Response) และระบบจัดการกับภัยคุกคามดีพไซท์ (DeepSight Threat Management System) ไปจนถึงแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างจากระบบเดิมที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อันตรายและสแปม (spam) เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการให้ภาพเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เทรทคอนใหม่ให้ข้อมูลอย่างเจาะลึกด้านการโจมตีที่ซับซ้อน และคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของภัยคุกคามต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบความเปลี่ยนแปลงโดยทันที และสามารถรับมือกับการโจมตีในอนาคตได้อย่างดี
เทรทคอน ให้ข้อมูลได้อย่างละเอียดทั้งในด้านภัยฟิชชิ่ง (phishing) สปายแวร์ (spyware) แอดแวร์ (adware) สแปม การโจมตีระบบ และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งครอบคลุมถึงช่องโหว่ที่ไม่ใช่ของไมโครซอฟท์ และช่องโหว่ประเภทเฉียบพลัน (zero-day exploits) ด้วย นอกจากนี้ผู้ใช้ยังมีทางเลือกหลายทางในการเข้าถึงระบบนี้ ทั้งการใช้เครื่องมือตรวจสอบการโจมตีระบบ (Attack Explorer) และเครื่องมือเทรทวอท์ซ (Threat Watch) ที่จะแสดงความเคลื่อนไหวของภัยคุกคามต่างๆ โดย เทรทคอนจะอัพเดตเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ช่วง 24 ชั่วโมง และยังมีการนำเสนอข้อมูลทางสถิติอีกด้วยเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ดีขึ้น
สำหรับเครื่องมือตรวจสอบการโจมตีระบบนั้นจะให้รายละเอียดรอบด้านเกี่ยวกับการโจมตีแก่ผู้ใช้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก พร้อมมีรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีแบ่งแยกเป็นระดับชั้นชัดเจน แถมด้วยข้อมูลเสริมสำหรับแต่ละเหตุการณ์อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคำแนะนำในการปฏิบัติ ทำให้ผู้ใช้เข้าใจถึงภัยคุกคามและสามารถจัดการกับความเสี่ยงดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านเครื่องมือเทรทวอท์ซ ก็พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวงในระบบออนไลน์ ซอฟต์แวร์อันตราย ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และความเสี่ยงภัยต่างๆ เพื่อให้ทราบสถานะของภัยคุกคามสำคัญอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีการอัพเดตข้อมูลจากศูนย์ตอบสนองด้านความปลอดภัยของไซแมนเทคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบถึงเหตุการณ์ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นแบบทันท่วงที
และเพื่อให้มองเห็นภาพรวมทั้งหมดได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เครื่องมือเทรทคอนฮีสทอรี (ThreatCon History) จะแสดงรายละเอียดย้อนหลังของภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถแสดงเหตุการณ์ย้อนหลังไปได้ถึง 30 วัน ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงสำคัญของภัยคุกคามบนโลกนี้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของระดับเทรทคอน จะเป็นตัวบ่งบอกถึงการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามโดยรวมบนอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ เทรทคอน ได้มีระบบจัดระดับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดยจำแนกแยกเป็นสีต่างๆ ชัดเจน ขณะเดียวกันภัยคุกคามจากซอฟต์แวร์อันตรายก็ถูกจัดลำดับความเสี่ยงภัยด้วยตัวเลข เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่สุด
สำหรับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ “เทรทคอน (ThreatCon) – ระบบเตือนภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต” สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://www.symantec.com/enterprise/security_response/
เกี่ยวกับ ไซแมนเทค
ไซแมนเทค เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่องค์กรและผู้บริโภคภายใต้โลกที่เชื่อมต่อถึงกัน และยังช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที ข้อมูลสารสนเทศ และการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ด้วยซอฟต์แวร์และบริการที่ช่วยจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ความพร้อมของระบบ คอมไพลเอนซ์ และสมรรถนะ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่คิวเปอร์ติโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีศูนย์ปฏิบัติการในกว่า 40 ประเทศ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.symantec.com