เคทีซีแถลงผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2550 รายได้รวมทะยานแตะ 5,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 36% กำไรสุทธิรวม 279 ล้านบาท เติบโต 29% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลขยายตัวต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดสมาชิกรวมเกือบ 1.9 ล้านบัญชี อัตราการค้างชำระต่ำกว่าอุตสาหกรรม เล็งปรับกลยุทธ์การตลาดครึ่งปีหลังตั้งรับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิมควบคู่การบริหารคุณภาพลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้ในทุกธุรกิจสินเชื่อที่ให้บริการ พร้อมกระตุ้นสมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแคมเปญการตลาดแบบฉีกแนวที่มุ่งถึงความต้องการลูกค้าเป็นหลัก ควบคู่การสร้างความจงรักภักดีใน แบรนด์ การเพิ่มร้านค้ารับบัตรให้ครอบคลุม รวมทั้งขยายธุรกิจใหม่ๆ และสิทธิพิเศษเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะแบบเซ็กเม้นเทชั่น หวังครองความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อโดยคนไทยเพื่อผู้บริโภคคนไทยที่แท้จริง
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคชะลอตัวลง ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ในขณะที่สถาบันการเงินต่างก็แข่งขันกันในหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างแรงจูงใจในการสมัครบัตรเครดิตหรือสินเชื่อเพื่อรับสิทธิประโยชน์ หรือการให้คะแนนสะสมที่มากกว่า ในส่วนของเคทีซีได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจที่คาดว่าจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยอาศัยความได้เปรียบจากการมีเครือข่ายพันธมิตรหลากธุรกิจทั่วไทย นำเสนอสิทธิพิเศษที่แตกต่าง คุ้มค่า และมุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าเป็นหลัก เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกเลือกที่จะใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการสมัครใช้บริการสินเชื่อบุคคลเพิ่มเติม ที่สำคัญคือ การมุ่งเน้นให้สมาชิกใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันและใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล ควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพของลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะยังคงให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม การจัดหาสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มนั้นๆ ในลักษณะของเซ็กเม้นเทชั่น ซึ่งได้เปิดตัวไปบ้างแล้วในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มคนเมโทรไลฟ์ กลุ่มนักดำน้ำ กลุ่มนักกอล์ฟ และกลุ่มผู้สูงอายุ”
“นอกจากนี้ เคทีซียังได้ปฏิวัติกฎเกณฑ์เดิมๆ ของการแลกคะแนนสะสมจากคู่แข่งขันรายอื่น โดยได้ประกาศจัดแคมเปญการตลาดรูปแบบใหม่ “ช้อปแล้ว แลกเลย” ฉีกกฎใช้ ฉีกกฎแลกคะแนนสะสม KTC Forever Rewards เพื่อสร้างทัศนคติใหม่ในการใช้จ่ายและความคุ้มค่าของคะแนนสะสมซึ่งมีมูลค่ามากกว่าและใช้ได้สะดวกรวดเร็วกว่า เพียงมีคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตเคทีซี หรือบัตรสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ” 99 คะแนนขึ้นไป บวกเซลส์สลิปใช้จ่ายที่ใดก็ได้ 800 บาทขึ้นไป ก็สามารถแลกรับสินค้าหรือบริการได้ตามต้องการ ไม่ต้องลุ้นและไม่ต้องรอแคตตาล็อก โดยเฟสแรกได้ร่วมกับร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ 9 ราย ได้แก่ จิฟฟี่ บอนด์ โพลิเคม เดอะ บอดี้ ช้อป เอสเอฟ ซีนีมา สเวนเซ่นส์ ดังกิ้น โดนัท โอบองแปง อานตี้ แอนส์ และ คาร์ฟูร์”
“สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 บริษัทฯ มีฐานสมาชิกรวม 1,895,966 บัญชี โดยสมาชิกใหม่ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซี แคช (KTC CASH) ในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยจำนวนสมาชิกใหม่ในส่วนของเคทีซี แคช กว่า 85% เป็นสมาชิกสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวล์ฟ (KTC CASH Revolve) สำหรับจำนวนบัตรเครดิตรวม ณ 30 มิถุนายน 2550 เท่ากับ 1,438,909 บัตร และเคทีซี แคช เท่ากับ 453,383 บัญชี ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมในไตรมาสที่ 2 ปี 2550 เท่ากับ 41,407 ล้านบาท จาก 39,120 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 เนื่องจากการให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพหนี้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการประกาศจากธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการเพิ่มยอดชำระหนี้ขั้นต่ำจาก 5% เป็น 10% ของยอดหนี้ค้างชำระ จึงส่งผลให้มูลค่ารวมของพอร์ตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก”
“ในไตรมาสที่ 2 ปี 2550 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 สำหรับรายได้รวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 เท่ากับ 5,002 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 36% เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วนคิดเป็น 70% และ 26% ของรายได้รวม โดยรายได้ดอกเบี้ยรับรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในไตรมาส 2 เติบโต 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2549 โดยส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช เป็นหลัก”
“ส่วนของค่าใช้จ่ายรวม (รวมดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้) ในไตรมาสที่ 2 นี้ เท่ากับ 2,427 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารงาน เป็นการเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ การขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรและจำนวนรายการทางการค้าที่มากขึ้น และผลจากการทำตลาดในลักษณะเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มแบบเซ็กเม้นเทชั่น รวมถึงการทำการตลาดเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทฯ โดยสัดส่วนของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2550 เท่ากับ 52% ลดลงจาก 56% ณ สิ้นปี 2549 เป็นผลมาจากอัตราเติบโตของรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงาน เนื่องจากบริษัทฯ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและมีค่าใช้จ่ายด้านการจัดหาสมาชิกใหม่จำนวนที่ลดลงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน”
“สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 43,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากสิ้นปี 2549 ลูกหนี้การค้ารวมสุทธิ 41,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากสิ้นปี 2549 ประกอบด้วยยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 27,418 ล้านบาท สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 10,693 ล้านบาท และสินเชื่อเจ้าของกิจการ เคทีซี มิลเลี่ยน สุทธิ 2,709 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก 279 ล้านบาท และกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2550 เท่ากับ 143 ล้านบาท เติบโตจากปี 2549 เท่ากับ 78%”
“เคทีซียังคงความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของพอร์ตลูกหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการค้างชำระ 30-179 วัน (Delinquency Rate) ของลูกหนี้ทุกธุรกิจอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม และจะยังคงยืนหยัดที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการอยู่เคียงข้างผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและได้รับความสะดวกสบายสูงสุดจากการเป็นสมาชิกเคทีซี” นายนิวัตต์กล่าวปิดท้าย