โซลิโต้ เปิดตัว “โซลิโต้ ซุปเปอร์ เซฟ แพคเกจ”

โซลิโต้ เปิด “โซลิโต้ ซุปเปอร์ เซฟ แพคเกจ” ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท ครบครันทุกอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเปิดร้าน ช่วยสานฝันการเปิดร้านกาแฟให้ง่ายยิ่งขึ้น ชูจุดขายเพิ่มด้วยประสบการณ์ด้านฝึกอบรมแบบครบวงจร คาดตลาดร้านกาแฟกลางและเล็กยังโตต่อเนื่อง

นางสาววัชรี ลีวุฒินันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจร้านกาแฟในปี 50 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเศรษฐกิจมีการชะลอตัวในระดับหนึ่ง ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการลงทุนประกอบธุรกิจมีความระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น ทำให้การเปิดร้านกาแฟขนาดกลางและขนาดเล็กได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากใช้งบประมาณในการลงทุนที่ต่ำกว่าการทำร้านขนาดใหญ่

ด้วยเหตุนี้ คอฟฟี่ บีนเนอรี่ ในฐานะ บริษัทกาแฟไทยผู้ดำเนินธุรกิจกาแฟมากว่า 60 ปี และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟคั่ว ภายใต้แบรนด์โซลิโต้ (Zolito) และนำเข้าเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซคุณภาพสูงจากประเทศอิตาลีเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน จึงได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปิดร้านกาแฟ

โดยจัดแพ็กเกจเล็ก (Set S) สำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก โดยมีเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซระบบกึ่งอัตโนมัติ ‘ซิลเวีย’ สำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก สามารถชงกาแฟเต็มที่ 30-40 แก้วต่อชั่วโมง พร้อมเครื่องบดกาแฟขนาดเล็ก จำหน่ายในราคา 50,000 บาท

แพ็กเกจกลาง (Set M) สำหรับร้านกาแฟขนาดกลาง โดยมีเครื่องชงเอสเปรสโซระบบอัตโนมัติ ‘ลาซาปาซิแอล เอส 1’ สำหรับร้านกาแฟขนาดกลาง สามารถชงกาแฟเต็มที่ 60-80 แก้วต่อชั่วโมง ชั่วโมง พร้อมเครื่องบดกาแฟขนาดกลาง จำหน่ายในราคา 123,000 บาท

แพ็กเกจใหญ่ (Set L) สำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่ โดยมีเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซระบบอัตโนมัติ ‘ลาซาปาซิแอล เอส 5’ สำหรับร้านกาแฟขนาดใหญ่สามารถชงกาแฟเต็มที่ 200-220 แก้วต่อชั่วโมง พร้อมเครื่องบดกาแฟขนาดใหญ่ จำหน่ายในราคา 176,000 บาท

โดยทุกแพ็กเกจจัดรวมอุปกรณ์จำเป็นภายในบาร์กาแฟครบครันไม่ว่าจะเป็น เหยือกสแตนเลสสำหรับทำฟองนม เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิของนม แก้วช๊อตเอสเปรสโซ กล่องอุปกรณ์สำหรับเคาะทิ้งกากกาแฟจากหัวกรุ๊ป นาฬิกาจับเวลา สำหรับจับเวลาการกลั่นตัวของ ช๊อตเอสเปรสโซ และเครื่องทำวิปปิ้งครีม และนอกจากนี้ทุกแพ็กเกจจะมีการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับการชงกาแฟ ทั้งเมนูร้อนและเย็นและปั่น รวมไปถึงการบริการดูแลรักษาเครื่องหลังการขายอีกด้วย

“ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการด้านธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร เราจึงต้องการผลักดันและกระตุ้นให้ตลาดกาแฟพรีเมี่ยมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคผู้ประกอบการและผู้บริโภคควบคู่กันไปเพื่อการเติบโตอย่างสมดุลในอนาคต ทั้งนี้การเติบโตของธุรกิจร้านกาแฟขนาดกลางและเล็กในอนาคต น่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะการบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยคนไทยมีการบริโภคกาแฟน้อยกว่า 0.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะทีญี่ปุ่น 2.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี / อิตาลี 4.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี / สหรัฐ 5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี / สวีเดน 10 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ดังนั้นในภาคผู้บริโภคคาดว่ายังสามารถมีการเติบโตได้อีกมาก และจะเป็นผลให้จะมีการเติบโตในภาคผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นางสาววัชรี ลีวุฒินันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท คอฟฟี่ บีนเนอรี่ จำกัด กล่าวสรุป