ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ Starbucks เชนร้านกาแฟรายใหญ่ ได้กล่าวว่าบริษัทไม่มีแผนลดราคาสินค้าของบริษัท แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาจะลดลงก็ตาม ขณะเดียวกันบริษัทก็เร่งแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Starbucks เชนร้านกาแฟรายใหญ่ กล่าวว่าบริษัทไม่มีแผนลดราคาสินค้าของบริษัท ซึ่งเชนร้านกาแฟจากสหรัฐฯ รายนี้กำลังพบกับความท้าทายหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องใหญ่อย่างสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลทำให้ผู้บริโภคหลายรายลดการจับจ่ายใช้สอย
Rachel Ruggeri ซึ่งเป็น CFO ของ Starbucks ได้กล่าวกับ Yahoo Finance ว่า “บริษัทไม่มีแผนลดราคาสินค้า” และชี้ว่ารายได้ของบริษัทที่ลดลงในผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของบริษัทลดลงเนื่องจากลูกค้าที่ไม่ใช่ขาประจำของบริษัทได้ลดค่าใช้จ่ายลง
รายงานผลประกอบการล่าสุดของ Starbucks นั้น CFO รายนี้ยังได้กล่าวถึง ไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสที่ยากลำบาก และบริษัทได้เรียนรู้จากเรื่องดังกล่าวและปรับโฟกัสของบริษัทให้เฉียบคมมากขึ้น และยังรวมถึงการแก้ปัญหาการสั่งสินค้าผ่านแอปฯ ของบริษัท หรือแม้แต่การแก้ปัญหาในเรื่องของ Supply Chain
ขณะที่ CEO ของบริษัทอย่าง Laxman Narasimhan ได้ชี้ว่าไตรมาสที่ผ่านมาสภาวะต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแรงกดดันจากผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าลดลง
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Starbucks นั้นรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% โดยยอดขายในสหรัฐอเมริกาลดลง 3% ขณะที่จีนยอดขายของ Starbucks ลดลง 6% แม้ว่าบริษัทจะมีการออกโปรโมชั่นในแดนมังกรเพื่อกระตุ้นยอดขายแล้วก็ตาม
รายได้จากสหรัฐอเมริกาและจีนคิดเป็น 61% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ขณะที่เหลือเป็นรายได้จากทั่วโลก และปัจจุบันเชนร้านกาแฟรายนี้มีสาขาทั้งหมด 38,951 สาขา
นอกจากนี้ในผลประกอบการล่าสุดของบริษัท ยังถือว่าเป็นผลประกอบการที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมาอีกด้วย
ยอดขายที่ลดลงทั่วโลกของ Starbucks ยังส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลงไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากรายได้ กำไรของบริษัท นั้นแย่กว่าเหล่านักวิเคราะห์จากหลายสถาบันการเงินคาดไว้
ที่มา – Yahoo Finance