AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3

บริษัท เอเอ็มดี รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2550 พบว่ามีรายได้ 1.632 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาส 2 ปี 2550 และเพิ่มขึ้น 23% เทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว (ปี 2549) โดยมีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงาน 226 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 396 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น ปัจจัยที่ส่งผลให้ตัวเลขผลประกอบการออกมาติดลบคือ ค่าใช้จ่ายในการเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท เอทีไอ (ATI) มูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทั้งนี้ในไตรมาส 2 บริษัทเอเอ็มดีมีรายได้ 1.378 พันล้านดอลลาร์และขาดทุนจากการดำเนินงาน 457 ล้านดอลลาร์ ส่วนไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เอเอ็มดีมีรายได้ 1.328 พันล้านดอลลาร์และกำไรจากการดำเนินงาน 121 ล้านดอลลาร์

“เราพอใจกับผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ที่ออกมา รายได้เราเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 มาร์จิ้นกำไรเพิ่ม 8% และขาดทุนจากการประกอบการลดลงเกินครึ่ง” โรเบิร์ต เจ ริเว็ต (Robert J. Rivet) ประธานฝ่ายการเงิน บริษัทเอเอ็มดี กล่าวและว่า “ปริมาณยอดขายไมโครโปรเซสเซอร์ทำสถิติสูงสุดใหม่ ต้องขอบคุณเครือข่ายดิสทริบิวเตอร์ที่แข็งแกร่งของเรา ขณะเดียวกันยอดขายโปรเซสเซอร์ Quad-core AMD Opteron? ก็เริ่มเข้ามาในไตรมาสนี้ด้วย”

“กลุ่มกราฟิก รายได้เพิ่ม 29% จากไตรมาสที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นผลจากยอดขาย ATI Radeon HD? 2000 Series ซึ่งเป็นกราฟิกรุ่นใหม่ล่าสุดของเอเอ็มดี”

สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมบริษัทเอทีไอมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการแยกและควบรวม 78 ล้านดอลลาร์ และค่าเสื่อมของสินทรัพย์อันเกิดจากการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท สแปนชั่น (Spansion) มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์

ในไตรมาส 3 กำไรขั้นต้นเพิ่ม 41% เทียบกับ 33% ในไตรมาส 2 ปี 2550 และ 51% ของไตรมาส 3 ปี 2549 โดยได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณยอดขายไมโครโปรเซสเซอร์, ประสิทธิภาพการผลิต, ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้า และโปรดักส์มิกซ์ที่ลงตัวระหว่างกลุ่มคอมพิวติ้งและกลุ่มกราฟิก

คอมพิวติ้งโซลูชั่น
ในไตรมาส 3 ปี 2550 รายได้ของกลุ่มคอมพิวติ้งอยู่ที่ 1.283 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาส 2 ปี 2550 โดยได้รับปัจจัยบวกจากมูลค่ายอดขายไมโครโปรเซสเซอร์ที่เพิ่มขึ้น 19% และ 16% ในเทอมของจำนวนหรือปริมาณยอดขาย สำหรับปริมาณยอดขายโมบายโปรเซสเซอร์ อัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่ดี คือเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาส 2 ปี 2550 และ 68% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

กราฟิก
รายได้ของกลุ่มกราฟิกอยู่ที่ 252 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาส 2 ปี 2550 โดยได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายผลิตภัณฑ์ ATI Radeon HD 2000 Series ทั้งในเทอมของมูลค่าและปริมาณ

กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับรายได้ในไตรมาส 3 ปี 2550 ของกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ 97 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 85 ล้านดอลลาร์ของไตรมาส 2 ปี 2550 โดยได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณยอดขายเครื่องแฮนด์เฮลด์และเกมคอนโซล

วิสัยทัศน์
วิสัยทัศน์ของเอเอ็มดีเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นการประเมินจากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ข้อความต่อไปนี้เป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และผลที่เกิดขึ้นจริงอาจไม่ตรงกับที่ได้คาดการณ์ไว้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมใน “หมายเหตุ”

สำหรับไตรมาส 4 ปี 2550 เอเอ็มดีคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามปัจจัยด้านฤดูกาล
ไฮไลท์อื่นๆ
• เอเอ็มดีเปิดตัวโปรเซสเซอร์ x86 ที่ดีที่สุดในโลก Quad-Core AMD Opteron
• HP, Lenovo, NEC, Packard Bell, Samsung และ Toshiba เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD ร่วมกับชิปเซ็ต AMD690
• Dell, HP, Lenovo, และ Toshiba วางจำหน่ายเดสก์ท็อปพีซีและโน้ตบุ๊คที่ใช้กราฟิก ATI Radeon HD 2000 Series
• เอเอ็มดีได้รับรางวัล Best-in-Class Supplier for Standard Silicon จากงาน Sun Microsystems’ 2007 Supplier Awards และรางวัล VAR Business 2007 Tech Innovator of the Year ของ CMP Channel สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ และโปรเซสเซอร์ Quad-Core ของเอเอ็มดีได้รับรางวัล 2007 Best of VMworld Awards สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Green Computing
• เอเอ็มดีให้ไลเซนส์เทคโนโลยีกราฟิกกับ Freescale Semiconductor และ Qualcomm
• เอเอ็มดีชำระส่วนที่เหลือมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับการควบกิจการบริษัทเอทีไอมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2550 ของเอเอ็มดีที่ www.amd.com

เกี่ยวกับ AMD
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) คือผู้นำนวัตกรรมการประมวลผลในตลาดคอมพิวเตอร์, กราฟฟิก และสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม นำเสนอทางเลือก และกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมด้วยโซลูชั่นที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้เทคโนโลยี และช่วยเพิ่มอำนาจให้กับผู้บริโภคทั่วไปไปจนถึงองค์กรธุรกิจทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.amd.com