ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบลูสโคป สตีล คนใหม่ เผยทิศทางธุรกิจปี 2551

มร. พอล โอ’ มัลลีย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูสโคป สตีล ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำจากออสเตรเลีย ประกาศแผนธุรกิจ กลยุทธ์และทิศทางธุรกิจของบริษัทในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ ณ กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550

มร. โอ’ มัลลีย์ กล่าวว่า “แผนธุรกิจปีหน้าจะเป็นการพัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จและขีดความสามารถอันโดดเด่นของบลูสโคป สตีล ในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ เราจะมุ่งขยายปริมาณการใช้เหล็กในประเทศต่างๆ และมุ่งพัฒนาธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชียและอเมริกาเหนือ รวมถึงการเข้าซื้อหรือสร้างธุรกิจใหม่ๆ”

ทั้งนี้ จะมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ธุรกิจโรงงานเหล็กที่เมืองพอร์ท เคมบลา ออสเตรเลียซึ่งมีการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานเหล็กที่ใช้พลังงานความร้อนร่วมมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญออสเตรเลีย รวมถึงเร่งดำเนินงานโครงการสำคัญ ได้แก่ การก่อสร้างเตาเผาเหล็กขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกมูลค่า 330 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และการเตรียมปรับปรุงโรงผลิตเหล็กด้วยงบลงทุน 134 ล้านออสเตรเลียในเดือนพฤษภาคม 2552 และในประเทศนิวซีแลนด์ บลูสโคป สตีลมี 2 โครงการที่อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ โดยจะนำทรัพยากรทรายที่อุดมด้วยแร่เหล็กมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับตลาดอุตสาหกรรมการก่อสร้างในภูมิภาคเอเชียนั้น ประเทศอินเดียและจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของภูมิภาค แต่มีการบริโภคเหล็กสำหรับการก่อสร้างในระดับต่ำ จึงเป็นประเทศที่มีลู่ทางขยายธุรกิจอีกมาก โดยเฉพาะเมื่อบริษัทได้ร่วมทุนกับผู้ผลิตเหล็กระดับโลกของอินเดียจัดตั้ง บริษัท ทาทา บลูสโคป สตีล จึงทำให้การบุกเบิกตลาดในอินเดียมีการเติบโตอย่างสดใส และสามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหล็กให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าทั่วโลก

“ด้านการผลิต เราจะให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของโลกปัจจุบัน ควบคู่ไปกับลดต้นทุนต่อทุกๆ 1 ตันของเหล็กที่ผลิตได้ ทั้งนี้ เราได้วางแผนกิจกรรมมากกว่า 200 กิจกรรม และดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมทั้งจะมีการปรับโครงสร้างองค์กรตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา” มร. โอ’ มัลลีย์ กล่าวเสริม

สำหรับในประเทศไทย บลูสโคป สตีล เป็นบริษัทจดทะเบียนของออสเตรเลียที่มีการลงทุนสูงสุดในประเทศไทย โดยมีการดำเนินงานตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการผลิตในประเทศไทย

มร. ปีเตอร์ วิลสัน ประธาน บริษัท บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยงบการลงทุนมูลค่ามากกว่า 8,000 ล้านบาทในประเทศไทย บลูสโคป สตีล เป็นบริษัทเหล็กที่แข็งแกร่งและมีบริการขายและการสนับสนุนทางเทคนิคที่ดีเยี่ยม ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในไทยได้อย่างทั่วถึง” และเสริมว่า “เรามุ่งมั่นขยายส่วนแบ่งการตลาด ด้วยการส่งเสริมการใช้ ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสำหรับใช้ในการก่อสร้างอาคารแทนวัสดุเดิมเพื่อประสิทธิภาพที่สูงกว่าด้วยคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นในการออกแบบ ทั้งยังมีความแข็งแกร่งและทนทานเป็นเลิศ โดยใช้เทคโนโลยี การเคลือบชั้นนำระดับโลก ในอนาคต บลูสโคป มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูง ตอกย้ำปณิธานของบริษัทที่มุ่งเป็นผู้นำทาง ด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ เหล็กเคลือบสี เหล็กขึ้นรูป และเหล็กโครงสร้างอาคารสำเร็จรูป”

บลูสโคป สตีล ประเทศไทย ได้พัฒนาและแนะนำผลิตภัณฑ์เหล็กลิขสิทธิ์เฉพาะ อาทิ ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคลีน คัลเลอร์บอนด์? (Clean COLORBOND?) ที่ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพ ภูมิอากาศร้อนชื้นในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคลีน คัลเลอร์บอนด์? มีคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่าเหล็กสังกะสีเคลือบสี ทั้งนี้ด้วยระบบการเคลือบสีที่มีประสิทธิภาพดีกว่าในการทนต่อสภาพอากาศในเขตร้อนชื้น และการสะสมของคราบฝุ่นสกปรก ทำให้มีสีสดใส ไม่ซีดจาง ไม่เป็นสนิม และด้วยเทคโนโลยีอินฟาเรด จึงช่วยสะท้อนความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อนำมาใช้เป็นโครงสร้างหลังคา จึงทำให้พื้นผิวหลังคาเย็นลง นอกจากนี้ ยังกันฝุ่นและทนทานต่อการหลุดลอกของ แผ่นฟิล์ม ทำให้อาคารแข็งแรงและสวยงดงามยาวนาน