กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลรางวัลชนะเลิศโครงการ “ไมโครซอฟท์ ไอที ยูธ แชลเลนจ์ 2007 – Microsoft IT Youth Challenge 2007” โครงการประลองทักษะความรู้ด้านไอทีสำหรับเยาวชนในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาได้ โดยได้สุดยอด 12 ผลงานเด่นจาก 464 ผลงานทั่วประเทศ พร้อมมอบทุนการศึกษารวมมูลค่า 240,000 บาท
โครงการ “ไมโครซอฟท์ ไอที ยูธ แชลเลนจ์ 2007 – Microsoft IT Youth Challenge 2007” ถือเป็น ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ระหว่างบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยมีความสนใจและใฝ่รู้ทาง ด้านเทคโนโลยี ส่งเสริมทักษะพื้นฐานด้านไอทีแก่เยาวชนไทยให้ได้พัฒนาศักยภาพของตนทั้งด้าน พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย โดยนำความรู้จาก 3 สาระวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ผนวกกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาก่อให้เกิดนวัตกรรมทางการศึกษา ที่มีคุณค่าและเกิดจิตสำนึกที่ดีต่อการพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเยาวชนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศที่ส่งผลงานเข้าร่วมถึง 464 ชิ้น จากนักเรียน 1,241 คน ล่าสุด คณะกรรมการได้ประกาศผลรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1-3 ในแต่ละระดับชั้นจำนวน 12 ผลงาน
ซึ่งในปีนี้มีการจัดแบ่งหัวข้อในการแข่งขันสำหรับ 4 ระดับชั้น ดังนี้
– ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 โปรแกรม Microsoft Paint ในหัวข้อ “ภาวะโลกร้อน…เราจะทำอย่างไรกันดี”
– ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 โปรแกรม Microsoft Movie Maker ในหัวข้อ “วิธีการลดภาวะโลกร้อน”
– ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โปรแกรม Microsoft Front Page ในหัวข้อ “e-learning … Earth Warming”
– ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 โปรแกรม Microsoft Front Page ในหัวข้อ “e-learning … สื่อการเรียนรู้ Online” ในสาระวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ Microsoft IT Youth Challenge 2007 เป็นกิจกรรมที่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เล็งเห็นถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้กับโรงเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียน ผ่านการประยุกต์ใช้และบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนนวัตกรรมใหม่เพื่อการศึกษา เพื่อก่อให้เกิดการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ การลดช่องว่างทางการเรียนรู้ รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนตระหนักถึงศักยภาพของตนเองที่แท้จริง การพัฒนาการศึกษาให้กับคุณครูและเยาวชน นับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งไมโครซอฟท์เล็งเห็นถึงการพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ และพร้อมที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวหน้าและการพัฒนาเพื่อการเรียนการสอน โดยการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นเครื่องมือส่งเสริมการสร้างทักษะ ด้านไอทีให้แก่คุณครูและเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นและผลักดันให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถ แสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และนำผลงานไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้จริง ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของครูและนักเรียนในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีจะช่วย ลดช่องว่างทางการเรียนรู้และส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้ตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง อันจะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดและการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด”
รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ตามพระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ.2542 ได้บัญญัติให้มีคำว่า “เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา” เพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนากระบวนการเรียนรู้โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต การให้เยาวชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน โดยเฉพาะการให้เยาวชนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำด้วยตนเอง ได้ฝึกคิด ฝึกใช้ชีวิตและทำงานเป็นกลุ่ม กระทรวงศึกษาธิการขอขอบคุณบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนและจัดกิจกรรม Microsoft IT Youth Challenge 2007 ซึ่งการที่กิจกรรมดังกล่าวสามารถดำเนินมาด้วยดีและ ประสบความสำเร็จยิ่ง เพราะมีปัจจัยที่สำคัญคือการเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกระดับชั้น พร้อมครูที่ปรึกษาได้ทำงานร่วมกัน รวมทั้งการเข้ามาสนับสนุนของภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นการดี อันจะก่อให้เกิดแบบอย่างของสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืนสืบไป”
ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในโครงการ “ไมโครซอฟท์ ไอที ยูธ แชลเลนจ์ 2007 – Microsoft IT Youth Challenge 2007” จะได้รับโล่ห์เกียรติยศจากกระทรวงศึกษาธิการพร้อมทุนการศึกษา ทีมละ 30,000 บาท สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รับโล่ห์เกียรติยศจากกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทุนการศึกษาทีมละ 20,000 บาท และทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จะโล่ห์เกียรติยศจากกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทุนการศึกษาทีมละ 10,000 บาท