ออราเคิลปลื้ม ธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น เติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 ของปี 2551

ออราเคิลรายงานว่า บริษัทฯ มียอดลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น (JAPAC) ในช่วงไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2551 (สิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550) องค์กรต่างๆ ในอุตสาหกรรมหลักๆ ยังคงเลือกใช้แพลตฟอร์มของออราเคิลสำหรับรองรับระบบธุรกิจทั่วทั้งองค์กร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบ และสนับสนุนการตรวจสอบการดำเนินงานทั้งหมดอย่างครบวงจร

“ลูกค้าเลือกใช้เทคโนโลยีของออราเคิล เนื่องจากตระหนักถึงข้อดีของการทำงานร่วมกับคู่ค้าด้านไอทีเพียงรายเดียวซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน” นายดีเร็ค วิลเลียมส์ ประธานและรองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่นของออราเคิล กล่าว “ออราเคิลนำเสนอสถาปัตยกรรมและซอฟต์แวร์ทางด้านธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูล มิดเดิลแวร์ แอพพลิเคชั่นทั่วไป แอพพลิเคชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ และระบบจัดการประสิทธิภาพภายในองค์กร/ระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) ซึ่งได้รับการพัฒนาบนมาตรฐานเปิด นอกจากนี้ ออราเคิลยังมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะ ทั้งยังสามารถจัดหาบริการสนับสนุนและการฝึกอบรมในระดับโลก และออราเคิลมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และขยายความเป็นผู้นำซอฟต์แวร์ทางด้านธุรกิจ”

ปัจจุบัน ลูกค้าเลือกใช้ซอฟต์แวร์มาตรฐานของออราเคิลเพื่อแทนที่ระบบรุ่นเก่าที่เป็นเทคโนโลยีแบบปิด ทั้งนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะและเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นบริการ (Service-Oriented Architecture – SOA)

“ความสามารถของออราเคิลในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่สถาปัตยกรรม SOA และแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่ที่รองรับบริการ นับเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจแอพพลิเคชั่น และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ออราเคิลได้รับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้น” นายไบรอัน มิตเชล รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของออราเคิล กล่าว “ด้วยการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ดีที่สุดและครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแพลตฟอร์มการพัฒนาแอพพลิเคชั่นตามมาตรฐาน เราจึงสามารถจัดหาความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวอย่างเหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้า และในขณะเดียวกันก็ลดความยุ่งยากซับซ้อนและค่าใช้จ่ายทางด้านไอที นอกจากนี้เรายังพบว่าลูกค้าปรับใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ทางด้านเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นของออราเคิลอย่างกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่เราเข้าซื้อกิจการ เช่น Siebel, PeopleSoft, JD Edwards, Demantra, G-Log, Stellent, SPL, TimesTen, Portal และ Hyperion”

ออราเคิลเล็งเห็นถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในส่วนของโซลูชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น บริการด้านการเงิน การสื่อสาร ภาครัฐ การผลิต ค้าปลีก และสาธารณูปโภค โดยบริษัทต่างๆ หันมาใช้โซลูชั่นแบบครบวงจรของออราเคิลเพื่อขยายขีดความสามารถด้านการแข่งขันกันมากขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของออราเคิล ซึ่งครอบคลุมถึงซอฟต์แวร์การจัดการประสิทธิภาพภายในองค์กร (Enterprise Performance Management – EPM) และระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence – BI) รองรับการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึก ปรับปรุงการตัดสินใจ และปรับปรุงผลประกอบการ Oracle® Business Intelligence เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีที่จัดหาระบบการจัดการประสิทธิภายในองค์กรอย่างครบวงจร รวมถึงแอพพลิเคชั่นการจัดการประสิทธิภาพ, แอพพลิเคชั่น BI, พื้นฐานและเครื่องมือ BI และระบบคลังข้อมูล ทั้งนี้ ออราเคิลครองตำแหน่งผู้นำตลาดระบบการจัดการประสิทธิภาพภายในองค์กร ซึ่งหมายรวมถึงระบบธุรกิจอัจฉริยะ การจัดการด้านการเงิน และการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน

ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับแอพพลิเคชั่นของออราเคิลในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น
ออราเคิลพบว่า การปรับใช้แอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น โดยลูกค้าให้การตอบรับที่ดีต่อความมุ่งมั่นและการลงทุนอย่างจริงจังของออราเคิลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตัวอย่างเช่น โครงการ “Applications Unlimited” ของออราเคิล ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอส่วนปรับปรุงอย่างต่อเนื่องสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของออราเคิล รวมถึง Oracle E-Business Suite, Oracle’s Siebel, PeopleSoft และ JD Edwards และนโยบายบริการสนับสนุนตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime Support Policy) สำหรับลูกค้า นอกจากนี้ออราเคิลนำเสนอความสามารถที่ก้าวล้ำในการผนวกรวมระบบด้วยสถาปัตยกรรมการผนวกรวมแอพพลิเคชั่น (Applications Integration Architecture) และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายขอบเขตในเชิงกว้างและเชิงลึกสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์แอพพลิเคชั่นของออราเคิลด้วยการเข้าซื้อกิจการของบริษัทสำคัญๆ

ข้อมูลจากไอดีซี ระบุว่า ออราเคิลเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในบรรดาผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นรายใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก ทั้งในส่วนของระบบจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management – CRM), ระบบจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management – SCM), ระบบจัดการบุคลากร (Human Capital Management – HCM) และระบบวางแผนทรัพยากรภายในองค์กร (Enterprise Resource Planning – ERP) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เมื่อเปรียบเทียบการเติบโตแบบปีต่อปีระหว่างครึ่งแรกของปี 2550 และครึ่งแรกของปี 2549

ลูกค้ารายใหม่สำหรับธุรกิจแอพพลิเคชั่นของออราเคิล ในช่วงไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2551 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด (ประเทศไทย), Amrit Exports Pvt Ltd (อินเดีย), Arvind Mills (อินเดีย), Atlantic, Gulf & Pacific, Inc. (ฟิลิปปินส์), Barret Hodgson Pakistan (Pvt) Ltd (ปากีสถาน), Bayan Telecommunications Inc. (ฟิลิปปินส์), Beijing Double Crane Pharmaceutical (จีน), Bendigo Bank Limited (ออสเตรเลีย), Bharat Sanchar Nigam Limited (อินเดีย), Bussan Auto Finance (อินโดนีเซีย), Centro Property Group Pty Ltd (ออสเตรเลีย), ChinaTex Group (จีน), Chunghwa Telecom (ไต้หวัน), CISDI Co. Ltd (จีน), Cyber Internet Service (Pvt) (ปากีสถาน), Dodla Engineering (อินเดีย), Faysal Bank (ปากีสถาน), G James Australia Pty Ltd (ออสเตรเลีย), HBOS (ออสเตรเลีย), Hindustan Petroleum Corporation (อินเดีย), HuiShan Bank (จีน), Hyundai Card (เกาหลี), Korean Air (เกาหลี), Lucky (เวียดนาม), Parazelsus Pakistan (Pte) Ltd (ปากีสถาน), PT. HERO Supermarket Tbk (อินโดนีเซีย), PT. Hutchison CP Telecommunications (อินโดนีเซีย), Quanzhou City Commercial Bank (จีน), Saigon Securities Incorporation (เวียดนาม), Shanghai Kaihong Electronics (จีน), Standard Construction Company (อินเดีย), STX (เกาหลี), Tashi Infocomm Limited (ภูฏาน), The Bank of East Asia Limited (ฮ่องกง), Tianjin Acepillar Co Ltd (จีน), Vietnam International Bank (เวียดนาม), Visayan Electric Company (ฟิลิปปินส์), Weider-Tera(Sh) Fitness Management (จีน) และ WNS Global Services (อินเดีย)

Oracle Fusion Middleware แซงหน้าคู่แข่งในเอเชีย-แปซิฟิก
ลูกค้าเลือกใช้สถาปัตยกรรม “hot-pluggable” ของ Oracle Fusion Middleware เพื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมไอทีซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีจากผู้ผลิตหลายราย โดยลูกค้ารายใหม่สำหรับ Oracle Fusion Middleware ในช่วงไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2551 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ Australian Fisheries Management Authority (ออสเตรเลีย), Bank Of China (จีน), China Eastern Airlines Co., Ltd. (จีน), บริษัท เดนโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, Dharampal Satyapal Limited (อินเดีย), G James Australia Pty Ltd. (ออสเตรเลีย), High Court Of Delhi (อินเดีย), IFCI Ltd. (อินเดีย), Korean Air (เกาหลี), Opes Prime Stockbroking Ltd. (ออสเตรเลีย), PT. Telekomunikasi Indonesia Tbk (อินโดนีเซีย), STX (เกาหลี), บริษัท ไทยนิปปอน สตีล เอ็นจิเนียริ่ง แอนด คอนสตรัคชั่น จํากัด (ประเทศไทย) และ The Bank of East Asia Limited (ฮ่องกง)

Oracle Fusion Middleware เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์มิดเดิลแวร์ที่ได้รับการผนวกรวมล่วงหน้า โดยครอบคลุมพอร์ทัล การจัดการระบบงาน ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่น เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา และการจัดการตัวตนของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินงานและขยายธุรกิจได้อย่างเหมาะสมโดยใช้สถาปัตยกรรม SOA

ออปชั่นเสริมสำหรับฐานข้อมูลกระตุ้นความต้องการของลูกค้าในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น
องค์กรต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่นเลือกใช้ออปชั่นที่หลากหลายเพื่อขยายขีดความสามารถของระบบฐานข้อมูลออราเคิล โดยออปชั่นดังกล่าวช่วยตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าในเรื่องประสิทธิภาพและความพร้อมใช้งาน ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ คลังข้อมูล และการบริหารจัดการ

ล่าสุด ไอดีซี รายงานว่า ออราเคิลได้ขยายความเป็นผู้นำในตลาดฐานข้อมูล โดยครองส่วนแบ่ง 53% ในตลาดระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System – RDBMS) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 ซึ่งมากกว่าถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในอันดับใกล้เคียงกัน นอกจากนี้รายงานของไอดีซียังชี้ว่า ออราเคิลมีรายได้จากซอฟต์แวร์ RDBMS เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (นั่นคือ ครึ่งแรกของปี 2550 และครึ่งแรกของปี 2549) ซึ่งเร็วกว่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของตลาด

ลูกค้ารายใหม่สำหรับฐานข้อมูลของออราเคิลในช่วงไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2551 ในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ Alcatel Australia Limited (ออสเตรเลีย), Australian Customs Service (ออสเตรเลีย), Australian Institute of Health and Welfare (ออสเตรเลีย), Bombardier Transportation Australia Pty Ltd. (ออสเตรเลีย), Bupa Australia (ออสเตรเลีย), Bussan Auto Finance (อินโดนีเซีย), CAIRN INDIA (อินเดีย), China Eastern Airlines Co. Ltd. (จีน), CRS Australia (ออสเตรเลีย), CSC Australia (ออสเตรเลีย), Delhi International Airport Ltd. (อินเดีย), บริษัท เดนโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, Department of Education Sciences and Training (ออสเตรเลีย), Family Court of Australia (ออสเตรเลีย), Foxtel Management Pty Limited (ออสเตรเลีย), G James Australia Pty Ltd. (ออสเตรเลีย), GENPACT INDIA (อินเดีย), High Court Of Delhi (อินเดีย), IFCI Ltd. (อินเดีย), IP Australia (ออสเตรเลีย), Jilin Local Tax Bureau (จีน), Korean Air (เกาหลี), Loy Yang Power Management Pty Ltd (ออสเตรเลีย), National Bureau of Statistics of China (จีน), Oriental Bank of Commerce (อินเดีย), Onesteel Limited (ออสเตรเลีย), Oxigen India Prepaid Services Pvt Ltd. (อินเดีย), PLN Jawa Barat (อินโดนีเซีย), PT. Mobile-8 Telecom (อินโดนีเซีย), PT. Natrindo Telepon Seluler (อินโดนีเซีย), PT. Pama Persada Nusantara (อินโดนีเซีย), บริษัท เชลล์ ออโตเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด, STX (เกาหลี), Sun Hung Kai Securities Limited (ฮ่องกง), บริษัท ไทยนิปปอน สตีล เอ็นจิเนียริ่ง แอนด คอนสตรัคชั่น จํากัด (ประเทศไทย), The Bank of East Asia Limited (ฮ่องกง), Tianjin Local Tax Bureau (จีน) และ Xin Hua News Agency (จีน)

ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นสำหรับบริการสนับสนุน Premier Support และ Advanced Customer Support ของออราเคิล
บรรดาองค์กรชั้นนำในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่นเลือกใช้บริการสนับสนุน Oracle Premier Support และ Oracle Advanced Customer Support เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นของออราเคิล ลูกค้าใช้บริการของออราเคิลเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมบริการสนับสนุนที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้า โดยอ้างอิงข้อมูลอย่างเหมาะสม และช่วยเพิ่มคุณประโยชน์สูงสุด

ฝ่ายบริการสนับสนุนของออราเคิลมีความก้าวหน้ามากที่สุดในโลก ไม่มีองค์กรอื่นใดที่สามารถนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่หลากหลาย เทคโนโลยีการสนับสนุนที่ก้าวล้ำ หรือเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลกได้เทียบเท่ากับออราเคิล โดยบริการของออราเคิลครอบคลุม 27 ภาษา ในทุกเขตเวลา ออราเคิลมีผู้พัฒนามากกว่า 16,000 คน และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการสนับสนุนมากกว่า 7,500 คน ซึ่งนำเสนอบริการบำรุงรักษาและการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจรสำหรับซอฟต์แวร์ของออราเคิล

เกี่ยวกับออราเคิล
ออราเคิล (ชื่อย่อในตลาดหุ้นแนสแด็ก: ORCL) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายซอฟต์แวร์ระดับองค์กรรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิล สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.oracle.com