เชฟโรเลต ‘อาวีโอ’ มาแรงคว้ามาตรฐานฉลากเขียวจาก สมอ.– สสท.

เชฟโรเลต ประกาศความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ด้วยการรับรองมาตรฐาน “ฉลากเขียว” ของ รถยนต์ เชฟโรเลต อาวีโอ จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (สสท.) โดยได้รับการทดสอบแล้วว่าเป็นรถยนต์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุด ทำให้เชฟโรเลต เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานฉลากเขียวอันเข้มงวดติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง ต่อจาก เชฟโรเลต ออพตร้า เอสเตท รถยนต์คันแรกที่ได้รับเกียรตินี้นับแต่มีการประกาศข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวเมื่อปี 2548 ทั้งนี้ พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นโดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

“ฉลากเขียว” เป็นเครื่องหมายที่แสดงคุณค่าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยจะมอบให้แก่ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน ซึ่ง “ผลิตภัณฑ์สีเขียว” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปล่อยสารเคมีหรือกากสารพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานและทรัพยากรทั้งในระหว่างการผลิต การขนส่ง และการใช้งาน อีกทั้งไม่เป็นภาระในการกำจัดหลังทิ้งและไม่ก่อให้เกิดขยะมากนัก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคในการช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ข้อกำหนดของฉลากเขียว จะแตกต่างไปตามประเภทของผลิตภัณฑ์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยข้อกำหนดทั่วไปของฉลากเขียว สำหรับรถยนต์นั่งมีหลายประการด้วยกัน อาทิ โรงงานต้องมีระบบควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 กระบวนการผลิต การกำจัดของเสีย และคู่มือแนะนำการดูแลอุปกรณ์ควบคุมมลพิษ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อกำหนดเฉพาะนั้น ได้แก่ สีและสารเคมีที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ จะต้องไม่ผสมโลหะหนัก มีเอกสารแนะนำวิธีการจัดการของเสียจากการใช้งาน มีระดับมลพิษทางเสียงไม่เกินที่กำหนด และมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งต้องผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสียสู่อากาศ ยูโร 3 และสารทำความเย็นที่ใช้ในระบบปรับอากาศต้องมี ค่าโอดีพี เท่ากับศูนย์ (ODP – Ozone Depletion Potential ระดับค่าการวัดสารทำความเย็นที่มีผลต่อการทำลายชั้นโอโซน)

นอกจากนั้น รถยนต์ฉลากเขียว ยังต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการกำจัดสารหล่อลื่น และสารเคมีอันตราย นอกจากนั้น ส่วนประกอบอื่นๆ และชิ้นส่วนพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ได้จะต้องมีสัญลักษ์บ่งบอกอย่างชัดเจนอีกด้วย

“เจนเนอรัล มอเตอร์ส และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานฉลากเขียวอันทรงเกียรตินี้ ไม่เพียงเท่านั้น เรายังเป็นรายแรกในประเทศที่ได้รับมาตรฐานนี้ถึงสองครั้ง สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของเราในการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดและสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุด การลงทุนนั้นได้ให้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมแก่เรา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมาตรฐานฉลากเขียว สำหรับออพตร้า เอสเตท และอาวีโอ สองรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของเรา” มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ในระยะเวลาสองสามปีมานี้ จีเอ็มและเชฟโรเลตได้รุดหน้าไปมากในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งพลังงานทางเลือกเพื่อลดปริมาณและทดแทนการใช้น้ำมันในทั่วโลกลง โดยมีก๊าซซีเอ็นจีเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ในปีที่แล้วจีเอ็มเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกและรายเดียวที่เปิดตัวรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระบบก๊าซซีเอ็นจี ในรุ่น เชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี ขนาด 1.6 ลิตร ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซินหรือก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจีเพียงแค่กดปุ่มสลับประเภทเชื้อเพลิง

มร. คาร์ไลส์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถยนต์ต้นแบบที่ใช้ไฟฟ้าทั้งคัน เช่น เชฟโรเลต โวลต์ หรือใช้พลังงานไฮโดรเจนอย่าง เชฟโรเลต อีควิน็อกซ์ และในเจนเนอเรชั่นล่าสุดนั้นสามารถใช้พลังงานจากเอธานอลและ ไบโอดีเซล ซึ่งพร้อมที่จะเปิดตัวในตลาดบางประเทศเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีเอ็มในการพัฒนาและแนะนำรถยนต์แห่งศตวรรษใหม่ให้โลกได้รู้จัก ในประเทศไทย เรารอโอกาสที่จะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการกระตุ้นการเพิ่มปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติและเอธานอลเพื่อเป็นเชื้อเพลิงทดแทนในรถยนต์อีกด้วย”

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัวเชฟโรเลต อาวีโอ ซับคอมแพ็คขนาดเล็กแต่สมรรถนะเกินตัว ภายใต้แนวคิด “small car BIG design” “รถเล็ก ดีไซน์ BIG” ในปี 2549 ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถยนต์ประเภทเดียวกัน และเครื่องยนต์ขนาด 1400 ซีซีที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ทำให้ปัจจุบัน อาวีโอ ครองอันดับต้นๆ ในฐานะรถยนต์นั่งขนาดเล็กอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก