“ซันโย”ผนึกสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เปิดโครงการรวมใจไทยรักษ์สมบัติชาติ

ซันโย จับมือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดโครงการ
“ซันโย ซีซีทีวี รวมใจไทยรักษ์สมบัติชาติ”
ดึงระบบเทคโนโลยีเพิ่มความปลอดภัยติดตั้งพร้อมวางระบบกล้องวงจรปิดวัดและโบราณสถานทั่วประเทศ นำร่องวัดบางปลาหมอ จังหวัดอยุธยาก่อนเป็นแห่งแรก คาดแล้วเสร็จกลางมีนาคมนี้ ผนึกกำลังคนไทยทั่วประเทศมีส่วนร่วมตอบแทนสิ่งดีดีสู่สังคม โดยยอดจำหน่ายกล้องวงจรปิดซีซีทีวี ทุก 100 ตัว มอบ 1 ตัวบริจาคเพื่อการสาธารณกุศลสู่วัดและโบราณสถานของคนไทย

มร. สึโตมุ โมริโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เปิดเผยว่า
แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2551 ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทได้เปิดโครงการ “ซันโย ซีซีทีวี รวมใจไทยรักษ์สมบัติชาติ” ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในการบริจาคติดตั้งพร้อมวางระบบกล้องวงจรปิด [CCTV] ให้กับวัดและสถานที่โบราณสถานทั่วประเทศ โดยจะเริ่มนำร่องโครงการที่วัดบางปลาหมอ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นแห่งแรกก่อนจะขยายผลโครงการสู่แห่งอื่นๆต่อไปตลอดทั้งปี 2551 นี้

“โครงการนี้เป็นการดำเนินโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารของบริษัทโดยยึดหลักธรรมาภิบาลการรับผิดชอบต่อสังคม [CSR :Corporate Social Responsibility] อันเป็นหัวใจสำคัญ ที่เราใส่ใจทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการคืนกำไรสู่สังคมตลอดมา ขณะเดียวกันยังสร้างการมีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยทุกๆ 100 ตัว กล้องซีซีทีวีที่บริษัทจำหน่ายได้ จะบริจาคคืนให้กับสังคม อาทิ วัด และโบราณสถานแห่งต่างๆ จำนวน 1 ตัว โดยเมื่อประเมินจากยอดขายปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้จำนวน 15,000 ตัว แต่ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะเพิ่มยอดขายขึ้นถึงประมาณ 20,000 ตัว คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น เท่ากับว่าในปี 2551 นี้โครงการของเราจะสามารถบริจาคกล้องวงจรปิดได้อย่างน้อย 200 ตัว พร้อมระบบบันทึกภาพรวมทั้งวางระบบและติดตั้งตามจำนวนกล้องที่บริจาคให้ทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นวงเงินมูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท ” มร.โมริโมโตะกล่าว

ด้านนางราณี สิทธิแก้ว ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายสินค้าซีเคียวริตี้ กล่าวว่าโครงการ
“ซันโย ซีซีทีวี รวมใจไทยรักษ์สมบัติชาติ” เป็นโครงการในแบบระยะยาว [Long – Time] โดยในเบื้องต้นบริษัทวางแผนจะเดินหน้าโครงการไปตลอดปี 2551 นี้ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัดและโบราณสถานที่สำคัญของประเทศไทย โดยคาดว่า จะสามารถดำเนินโครงการครอบคลุมวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศประมาณ 50 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่เก่าแก่ของประเทศให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยป้องปรามและลดปัญหาการโจรกรรมโบราณวัตถุให้ลดลงได้อีกทางหนึ่ง

นางราณีกล่าวอีกว่า ในส่วนของการเข้าวางระบบและติดตั้งกล้องวงจรปิด บริษัทจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เข้าไปสำรวจบริเวณจุดที่ควรติดตั้งและวางระบบต่างๆ ภายในวัดและโบราณสถานแห่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งจัดฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์กล้องซีซีทีวี ทั้งหมดให้กับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีการติดตั้งจำนวนกล้องแตกต่างกันตามความเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่นในวัดบางปลาหมอ จะมีการติดตั้งกล้องจำนวน 4 ตัว พร้อมชุดหุ้มกล้องที่สามารถทำให้มองเห็นในที่มืดได้ โดยรอบโบสถ์ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้

ด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า
โครงการ“ซันโย ซีซีทีวี รวมใจไทยรักษ์สมบัติชาติ” เป็นโครงการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและเป็นแบบอย่างให้กับภาคธุรกิจในการคืนกำไรสู่สังคม ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นที่ปรึกษาด้านข้อมูลวัดและโบราณสถานต่างๆที่สำคัญทั่วประเทศ

“ปัจจุบันวัดในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังขาดการวางระบบความปลอดภัยที่ดี ทำให้มักเกิดปัญหาการโจรกรรมโบราณวัตถุ พระพุทธรูปเก่าแก่ และตู้บริจาคภายในวัดอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุสำคัญมาจากวัดขาดแคลนปัจจัยที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อวางระบบความปลอดภัย ดังนั้น โครงการที่ซันโยจัดขึ้นนี้ จึงเป็นโครงการสาธารณกุศลยิ่งใหญ่ที่ทั้งบริษัทและลูกค้าของซันโยจะได้ร่วมทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ มองว่า วัดที่เข้าร่วมโครงการนี้เราจะเน้นวัดที่มีโบราณวัตถุเก่าแก่ ที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ อีกทั้งยังเป็นวัดที่ยังไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อทางบริษัทซันโยจะได้เข้าไปสนับสนุนพัฒนาระบบมาตรฐานความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้นในอนาคต”นางจุฬารัตน์ กล่าว