ตัวแทนผู้ผลิตและส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยเชื่อมั่นยอดส่งออกสินค้าของขวัญ ของชำร่วย ของตกแต่งบ้าน และของใช้ในครัวเรือนของประเทศไทยในปี 2551 นี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น 5-8 เปอร์เซนต์ ย้ำผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการพัฒนารูปแบบสินค้าตามแนวโน้มในตลาดโลก และกระตุ้นภาครัฐเร่งผลิตนักออกแบบสู่ภาคการผลิตเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรม และเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในตลาดโลก
คุณจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้านกล่าวในการเสวนาเรื่อง “แนวโน้มการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์” ว่าการส่งออกสินค้าประเภทของขวัญ ของชำร่วย ของตกแต่งบ้านของไทยในปี 2551 นี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น 5-8 เปอร์เซนต์ เนื่องจากสินค้าจากประเทศจีนซึ่งถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของไทยในตลาดโลกมีการปรับราคาสูงขึ้น
“ตอนนี้รัฐบาลจีนยกเลิกการสนับสนุนด้านภาษีแก่ผู้ส่งออกของจีนแล้ว ซึ่งทำให้ราคาสินค้าจีนในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น 40-50 เปอร์เซนต์…นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้สินค้าไทยเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นในตลาดโลก เพราะสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพอยู่แล้ว” คุณจิรบูลย์กล่าว
คุณจิรบูลย์กล่าวเสริมว่า สวิสเซอร์แลนด์ และประเทศในกลุ่มอาเซียนเป็นตลาดใหม่ของไทยที่มีอนาคตสดใส เพราะเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น นอกเหนือไปจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยอยู่แล้ว
ด้านคุณสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยกล่าวในงานเดียวกันว่า ในปีนี้การส่งออกสินค้าประเภทของใช้ในครัวเรือนของไทยน่าจะมีอัตราการขยายตัว 5-8 เปอร์เซนต์เช่นเดียวกัน โดยมีสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเป็นตลาดหลัก
“ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกของใช้ในครัวเรือนรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนอยู่แล้ว เพราะเรามีความพร้อมในภาคการผลิต อย่างไรก็ตาม เรายังต้องให้ความสำคัญกับการขยายตลาดส่งออกสู่ตลาดใหม่ๆ อาทิ แอฟริกา ยุโรปตะวันออก และเอเชียให้มากยิ่งขึ้น”
คุณสุพัฒน์ กล่าวเสริมว่า ปัจจัยสำคัญในการครองตลาดส่งออกสินค้าของใช้ในครัวเรือนคือ การผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพด้วยราคาที่แข่งขันได้ (Productivity) การรักษาตลาดเก่าควบคู่กับการขยายตลาดใหม่ (Marketing) และการพัฒนารูปแบบสินค้า (Design) ซึ่งต้องคำนึงถึงความต้องการของตลาดเป็นหลัก
ด้านคุณพัทธ์ธีญา พสุจรัสพงศ์ นายกสมาคมสินค้าตกแต่งบ้านกล่าวว่านักออกแบบผลิตภัณฑ์ยังเป็นที่ต้องการในภาคการผลิตของอุตสาหกรรมสินค้าตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ ของไทย ในขณะที่ทรัพยากรบุคคลมีอยู่อย่างจำกัด
“ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับการผลิตดีไซเนอร์ป้อนสู่ภาคอุตสหากรรมอย่างจริงจัง เพื่อรองรับการแข่งขันด้านรูปแบบสินค้าในตลาดโลก มิเช่นนั้น เราจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในตลาดโลกได้ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งรัฐบาลของเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสหกรรมการออกแบบมากถึงขนาดให้มหาวิทยาลัยในมณฑลต่างๆ ผลิตนักออกแบบให้ได้ปีละ 5,000 คน”
คุณพัทธ์ธีญากล่าวเสริมว่า นักออกแบบของไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ด้านการตลาด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อผันตัวจากการเป็นนักออกแบบมาเป็นผู้ผลิต และผู้ประกอบการส่งออกเอง คุณพัทธ์ธีญาจึงแนะนำให้นักออกแบบหาประสบการณ์ด้านการตลาดจากการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมก่อนที่จะเริ่มธุรกิจของตนเอง
การเสวนาเรื่อง “แนวโน้มการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์” เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ ‘BIG Design Week’ หรือโครงการพัฒนารูปแบบสินค้าตามแนวโน้มตลาดโลกแก่ผู้ประกอบการในงานแสดงสินค้า BIG & BIH ซึ่งจัดโดยสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 3-7 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกและนักออกแบบไทยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด และได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงจากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการตลาดระดับโลกที่มาบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘Design Trend 2009’ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดและแนวโน้มการออกแบบใน 3 ตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้ากล่าวว่ากรมส่งเสริมการส่งออก พยายามสร้างโอกาสที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมผู้ส่งออกและนักออกแบบชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จริง เพื่อให้เข้าใจทิศทางตลาด แนวโน้มการออกแบบใหม่ๆ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาศักยภาพในการออกแบบ
งาน BIG Design Week จัดขึ้นครั้งแรกสำหรับสินค้าของขวัญ ของตกแต่งบ้าน เพื่อเปิดโอกาสแก่ผู้ส่งออกโดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair (BIG&BIH) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนเมษายน และตุลาคม โดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าแก่ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าของขวัญ ของชำร่วย ของตกแต่งบ้าน ของใช้ในครัวเรือน เคหะสิ่งทอ ของเด็กเล่น รวมทั้งเครื่องเขียนและของใช้ในสำนักงาน
งาน BIG&BIH ครั้งที่ 25 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-22 เมษายน 2551 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี โดยวันที่ 17-20 เมษายนเป็นวันเจรจาการค้า ส่วนวันจันทร์และอังคารที่ 21 และ 22 เมษายนเป็นวันจำหน่ายปลีก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigandbih.com