ยอดส่งออกฮอนด้าประเทศไทยไตรมาสแรกปี 2551 ขยายตัวถึง 10%

บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้า ประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยนายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส เปิดเผยถึงยอดส่งออกของฮอนด้าประเทศไทยประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2551 ว่า “ท่ามกลางสภาวะปัจจัยค่าเงินดอลล่าร์อ่อนและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ฮอนด้ามีการส่งออกเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 26,910 ล้านบาท โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญจากคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การขยายตลาดการส่งออกไปสู่ประเทศใหม่ๆ และการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกยังขยายตัวได้ดี เราคาดการณ์มูลค่าการส่งออกรวมในปีนี้จะมากกว่า 110,000 ล้านบาทแน่นอน”

ความต้องการรถยนต์สำเร็จรูปในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มอาเซียน ยังคงมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากมูลค่าส่งออก16,214 ล้านบาท เพิ่มเป็น 17,089 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากฮอนด้าแอคคอร์ดโฉมใหม่ ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในต่างประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2551 จะส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่ารวม 72,400 ล้านบาท โดยฮอนด้ามีแผนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนรถยนต์แห่งใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจาก 120,000 คันเป็น 240,000 คัน ปัจจุบัน ฮอนด้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 5 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้าซิตี้ ฮอนด้าแจ๊ซ ฮอนด้าซีวิค ฮอนด้าแอคคอร์ด และ ฮอนด้า ซีอาร์-วี
ไปยังประเทศต่างๆ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก

สำหรับรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 ก็เติบโตได้อย่างดีเช่นกัน โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น 20% ด้วยมูลค่าการส่งออกเพิ่มจาก 4,818 ล้านบาทเป็น 5,760 ล้านบาท โดยการส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 62% คิดเป็นมูลค่า 572 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกไปยังตลาดใหม่ในประเทศแคนาดา ในขณะที่มูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ขยายตัว 16% มีมูลค่า 5,189 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาดประเทศเวียดนาม อินโดนีเซียและกัมพูชา ทั้งนี้ ฮอนด้าคาดว่ามูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ ในปี 2551 นี้ จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 22,400 ล้านบาท

ด้านการส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์และชิ้นส่วนนั้น สามารถคงอัตราการขยายตัวได้ค่อนข้างดี โดยเพิ่มจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 10% โดยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 2,713 ล้านบาทเป็น 2,979 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวดังกล่าว คือ การเติบโตของตลาดเวียดนาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

นอกเหนือจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์สามประเภทหลัก ฮอนด้ายังได้เพิ่มปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอื่นๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์ ไปยังตลาดโลกมากขึ้น โดยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 63% จาก 662 ล้านบาทเป็น 1,082 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตของฮอนด้าในระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอื่นๆ โดยรวมประจำปี 2551 นี้จะเติบโตขึ้นกว่า 55% หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวมสูงถึง 4,800 ล้านบาท

“การส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่องชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะฐานการผลิตระดับโลกของฮอนด้า ปัจจุบัน 15% ของจำนวนการผลิตของฮอนด้าทั่วโลกมาจากฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งส่งผลมาจากการมีฐานการผลิตชิ้นส่วนที่เข้มแข็งในประเทศ การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการขยายตลาดไปสู่ประเทศใหม่ๆ ฮอนด้าจึงมั่นใจว่าการส่งออกในปี 2551 นี้จะมีแนวโน้มที่สดใส” นายอดิศักดิ์ กล่าวสรุป

ฮอนด้านับเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ซึ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย อีกทั้งยังเป็นผู้นำในด้านการผลิตเครื่องยนต์มลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมัน และเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2550 ฮอนด้าประเทศไทยจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก รวมแล้วมีมูลค่าสะสมสูงถึง 560,490 ล้านบาท