ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนแรกของการเริ่มต้นไตรมาสสองส่งสัญญาณคึกคักด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตถึง 8% จากปริมาณยอดจดทะเบียนกว่า 1.3 แสนคัน ทั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มผู้บริโภคหลักซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตรมีกำลังซื้อสูงขึ้น อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาผลผลิตทางการเกษตรหลากหลายประเภท พร้อมกับได้รับปัจจัยกระตุ้นจากการที่ภาครัฐประกาศนโยบายส่งเม็ดเงินผลักดันเศรษฐกิจฐานราก ส่งผลให้เกิดความตื่นตัวและมีแรงซื้อเข้ามาในตลาด ในขณะที่การพุ่งสูงของราคาน้ำมันสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคเน้นความประหยัด หันมาเลือกใช้รถเครื่องยนต์หัวฉีด
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเริ่มต้นเข้าสู่ไตรมาสที่สองนั้น ปรากฎว่ายอดจดทะเบียนมีปริมาณโดยรวมทั้งสิ้น 130,795 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 121,600 คัน แล้วมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น 9,195 คัน หรือมีอัตราการขยายตัวมากถึง 8% โดยเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ที่ตลาดมีการขยายตัวจากเมื่อเดือน ก.พ. เป็นต้นมา ซึ่งการขยายตัวจากเดือน ก.พ. จนถึง เม.ย. นั้น มีอัตรา 3% 4% และ 8% ตามลำดับ
โดยปัจจัยที่หนุนให้ตลาดมีการขยายตัวนั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาด ซึ่งโดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตร มีรายได้และกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลโดยตรงมาจากการขยับขึ้นของราคาผลผลิตทางการเกษตรหลากหลายประเภท ในขณะเดียวกันบรรดาค่ายผู้ผลิตรายใหญ่ต่างผลักดันกิจกรรมในด้านการส่งเสริมการจำหน่ายที่เข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย อันเป็นส่วนสร้างแรงจูงใจให้เกิดการซื้อ
นอกจากนั้นแล้ว จากการที่ภาครัฐบาลประกาศนโยบายส่งเม็ดเงินเพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานราก ยังเป็นปัจจัยเสริมในการกระตุ้นตลาด ถึงแม้ว่าในเดือน เม.ย. จะยังไม่ถึงช่วงเวลาที่เม็ดเงินกระจายเข้าสู่ระบบก็ตาม แต่ก็สร้างความตื่นตัวให้กับตลาดและมีแรงซื้อเข้ามาเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบปริมาณยอดจดทะเบียนของเดือน เม.ย. กับเดือนก่อนหน้าคือ มี.ค. แล้ว ปรากฎว่ามีปริมาณการเติบโตลดลง 10% โดยถือเป็นสภาพปกติของตลาด เนื่องจากในช่วงเดือน เม.ย. นั้น เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ส่งผลให้การขายไม่ต่อเนื่อง แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วพบว่ามีสัญญาณสำคัญบางประการ คือ ปริมาณการจดทะเบียนของรถยอดนิยมใน 10 อันดับแรกในเดือน เม.ย. ต่างล้วนมีอัตราลดลงจากเดือน มี.ค.แทบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นไปตามสภาพของตลาดยกเว้นเพียงรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่น เวฟ 125i เท่านั้น ที่มีอัตราเติบโตสวนกับทิศทางของตลาด ทั้งนี้เป็นเพราะว่ารถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ซึ่งให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูง ในขณะที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจนสร้างสถิติสูงสุดเป็นรายวัน ดังนั้นกลุ่มผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญหันมานิยมและเลือกใช้รถที่ให้ความประหยัดสูง โดยปริมาณจดทะเบียนของฮอนด้า เวฟ 125i มีอัตราเพิ่มมากขึ้น 5% ในขณะที่รถรุ่นอื่นๆ มีอัตราลดลงโดยเฉลี่ย 11%
สำหรับรายละเอียดยอดจดทะเบียนในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ประกอบด้วยรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 65,403 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50% รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ 60,385 คัน สัดส่วน 46% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,706 คัน สัดส่วน 3% รถแบบสปอร์ต 835 คัน สัดส่วน 1% และรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ 466 คัน
ส่วนปริมาณยอดจดทะเบียนสะสมในสี่เดือนแรกของปีนี้ คือ ตั้งแต่ ม.ค. – เม.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 559,772 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2%