โฟร์พัฒนาชี้โครงหลังคาเหล็กไร้สนิมมาแรง ปี 51 ยอดผลิตโตกว่า 3 เท่า

โฟร์พัฒนาชี้ ตลาดโครงหลังคาเหล็กไร้สนิมมีทิศทางเติบโตกว่า 3 เท่าตัว หลังกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านให้การยอมรับมากขึ้น เผยข้อดีติดตั้งได้ง่าย ป้องกันการเป็นสนิม สามารถออกแบบได้ทุกรูปทรง ลดระยะเวลาการก่อสร้าง และเพิ่มพื้นที่การใช้สอยภายในบ้าน พร้อมเดินหน้ารุกขายโครงการจัดสรร คาดเป็นตลาดที่เติบโตแน่ในอนาคต

นายวาที ดาราเรือง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงหลังคาเหล็ก ไร้สนิม ภายใต้แบรนด์ อีซี่ ทรัส ซึ่งทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดจำหน่าย มีทิศทางการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านหลายแห่งหันมาใช้โครงหลังคาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติ ที่สามารถกันการเกิดสนิม สามารถติดตั้งได้เร็วทำให้ลดระยะเวลาด้านการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบและติดตั้งให้กับบ้านทุกรูปทรงโดยระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งทำให้มีความแม่นยำ ขณะเดียวกันการติดตั้งก็ยังสามารถทำได้ง่ายด้วยระบบการยึดโดยน๊อต และ สกรู แทนระบบการเชื่อมของโครงหลังคาเหล็กปรกติ ซึ่งนอกจากกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านจะหันมาใช้โครงหลังคาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นแล้ว กลุ่มโครงการบ้านจัดสรรก็เริ่มที่จะให้ความสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถขายโครงหลังคาให้กับโครงการจัดสรรหลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในลักษณะของบ้านพักตากอากาศชายทะเลที่มักจะมีปัญหาเรื่องโครงหลังคาเกิดสนิม อาทิ โครงการ BLACKMOUNTAIN VIEW HOME หัวหินเป็นต้น

“เท่าที่ทราบปัจจุบันโรงงานที่ทำการผลิตต้องเพิ่มเวลาในการทำงานเพื่อผลิตให้ทันกับความต้องการของตลาด โดยมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วทั้ง ๆ ที่ราคาของโครงหลังคาเพิ่มสูงขึ้นตามราคาของเหล็กในตลาดโลก ในอนาคตหากมีการหันมาใช้โครงหลังคาของ อีซี่ ทรัส เพิ่มมากขึ้น ตลาดโครงหลังคาเหล็กประเภทนี้จะมีตลาดที่มีขนาดใหญ่มากตลาดหนึ่งเลยทีเดียว” นายวาที กล่าว

นายวาที กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงหลังคารูปแบบดังกล่าวจะผลิตจากเหล็กกล้ากำลังสูง พร้อมเคลือบด้วยสารป้องกันสนิม โดยสามารถออกแบบให้เข้ากับบ้านได้ทุกรูปแบบ และมีขนาดที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากใช้การคำนวณโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้หลักมาตรฐานของงานสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม นอกจากนี้ยังสามารถร่นระยะเวลาของงานติดตั้งให้เร็วขึ้น และที่สำคัญโครงหลังคาดังกล่าวยังลดจำนวนของเสา และคานภายในบ้านทำให้มีพื้นที่ในการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคที่ได้สัมผัสกับคุณสมบัติดังกล่าวก็ให้การยอมรับมากขึ้น โดยในส่วนของบ้านที่รับสร้างโดยบริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด และบริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนมาใช้โครงหลังคาของ อีซี่ ทรัส ทั้งหมด ซึ่งในอนาคตคาดว่ากลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านก็จะเปลี่ยนรูปแบบมาใช้โครงหลังคาดังกล่าวด้วยเช่นกัน จากที่ปัจจุบันมีใช้กันอยู่ประมาณ 40-50% ขณะที่โครงการบ้านจัดสรรคงต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างการรับรู้และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีกระยะหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯได้เริ่มเข้าไปนำเสนอแล้วหลายโครงการ โดยเป้าหมายในการขายโครงหลังคาเหล็ก อีซี่ ทรัส ของบริษัทฯในครึ่งปีแรกของปี 2551 นี้ วางเป้าหมายการขายไว้ประมาณ 15 ล้านบาท