เอทิฮัดโชว์ผลงานสุดยอดครึ่งแรกของปี 2551

สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯสู่เมืองอาบูดาบีทุกวัน วันละ 2 เที่ยวบิน และอีก 45 จุดหมายปลายทางทั่วโลก ยินดีอีกครั้งกับการทำลายสถิติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 ด้วยการทำยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือคิดเป็นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

สายการบินฯคาดหวังที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำยอดผู้โดยสารจำนวนหกล้านคนให้ได้ภายในปลายปีนี้

จุดเด่นหลักของผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นว่าสายการบินฯที่มีศูนย์กลางการบิน ณ กรุงอาบูดาบีนี้ สามารถทำอัตราเฉลี่ยผู้โดยสารได้สูงถึง 2.8 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำยอดได้เกือบสองล้านคน

และขณะนี้ เอทิฮัดได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยวันที่วุ่นที่สุดในช่วงระยะเวลาสี่ปีของการดำเนินการ ในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2551 ด้วยการทำลายสถิติจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสูงถึง 19,709 คนทั่วทั้งเครือข่ายของสายการบินฯ โดยมีอัตราเฉลี่ยผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 85

สายการบินฯ ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง พิจารณาจากอัตราเฉลี่ยที่นั่งโดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 73 ของทั่วเครือข่าย ซึ่งครอบคลุมจุดหมายปลายทาง 45 แห่ง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2551

ในแต่ละปี จำนวนผู้โดยสารของสายการบินเอทิฮัดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9 เนื่องจากเอทิฮัดเน้นการขยายตารางบินไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และได้เพิ่มเครื่องบินอีกหลายลำสู่ฝูงบิน ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 37 ลำ เป็น 45 ลำ ภายในปลายปี 2551 นี้ และในครึ่งปีหลัง ทางสายการบินฯจะเพิ่มบริการเที่ยวบินจากกรุงอาบูดาบี สู่จุดหมายใหม่อีก 5 แห่ง

มร. เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของเอทิฮัดในช่วงหกเดือนแรกของปี 2551 นั้นโดดเด่นเป็นพิเศษ สวนทางกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งในภาคพื้นยุโรปและสหรัฐอเมริกา”

“อย่างไรก็ตาม มีสายการบินจำนวนมากต่างประสบกับภาวะปัญหาเหล่านี้ แต่เอทิฮัดยังมองไม่เห็นถึงสัญญาณการลดน้อยลงของความต้องการในตลาดและอัตราเฉลี่ยที่นั่งในเครื่องบิน ในความเป็นจริงแล้วยอดจองบัตรโดยสารของเรานั้นมีปริมาณมากกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยเฉพาะฤดูร้อนนี้ก็คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุด”

อัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอทิฮัดได้รับการรับรองด้วย สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาต้า ซึ่งกล่าวว่า อัตราการเติบโตของสายการบินในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา

จากข้อมูลของไออาต้า อัตราการเติบโตของการจราจรในภูมิภาคตะวันออกกลางขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง ความเฟื่องฟูทางด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในท่าอากาศยานและสายการบินต่างๆ

ในปีนี้ เอทิฮัดได้เปิดตัวจุดหมายปลายทางใหม่อีกหนึ่งเส้นทางไปเมื่อไม่นานมานี้ ในปี 2551 เที่ยวบินแรกไปสู่ปักกิ่งในเดือนมีนาคม และในเดือนสิงหาคมนี้ สายการบินฯ จะเริ่มบินไปสู่ โคชิโคด (กาลิกัท) และเชนไน (มาดราส) หลังจากได้รับคำอนุญาตในการประกอบการบินเมื่อต้นปีนี้

เอทิฮัดจะเป็นสายการบินแรกจากภูมิภาคตะวันออกลาง ที่จะบินสู่ประเทศเบลารุส ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการสู่เมืองมินสค์ เมืองหลวงของเบลารุส ในวันที่ 5 สิงหาคม ศกนี้

นอกจากนี้ เอทิฮัดยังได้วางแผนที่จะบินไปสู่กรุงมอสโก และเมืองอัลมาตี้ของประเทศคาซัค ในเดือนธันวาคม 2551 และ เอทิฮัดจะเพิ่มตารางบินไปสู่ประเทศออสเตรเลียภายในปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยเพิ่มเที่ยวบินรายวันไปสู่กรุงซิดนีย์เป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และในเดือนเดียวกันเอทิฮัดจะเพิ่มเที่ยวบินสามวันต่อสัปดาห์ไปสู่ ลอนดอน (ฮีทโธรว์)

จำนวนรวมของที่นั่งของเอทิฮัดทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงหกเดือนแรกของปี 2551 และกับช่วงเดียวกันของปี 2550

เส้นทางบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเอทิฮัดประสบผลสำเร็จสูงมาก เห็นได้จากจำนวนที่นั่งโดยรวมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 81 ในทุกเที่ยวบินที่ให้บริการในภูมิภาค เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้โดยสารในชั้นประหยัด ซึ่งมีจำนวนอัตราเฉลี่ยผู้โดยสารถึงร้อยละ 83 นำโดยเส้นทางบินกรุงเทพฯ, ซิดนีย์, มะนิลา และ จาการ์ตา ซึ่งเส้นทางเหล่านี้มีอัตราผู้โดยสารถึงร้อยละ 85

สำหรับทวีปยุโรป เที่ยวบินที่บินสู่ บรัสเซล แมนเชสเตอร์ และปารีส ทั้งหมดมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ย ร้อยละ 85 ในชั้นประหยัด ในขณะที่อัตราผู้โดยสารไปสู่ลอนดอน (ฮีทโธรว์) และมิวนิค มีอัตราผู้โดยสารในชั้นธุรกิจเกินกว่าร้อยละ 75

เส้นทางในตะวันออกกลาง ประสบผลสำเร็จในช่วงไตรมาสนี้ ได้แก่ อัมมาน และดามัสกัส ที่มีอัตราเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 81 และ 77 ตามลำดับ ในทุกชั้นการบิน โดยเส้นทางทั้งสองมีผู้โดยสารต้องการเดินทางสูงในชั้นประหยัด ซึ่งมีอัตราจำนวนที่นั่งมากกว่าร้อยละ 80

ในขณะเดียวกัน ไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ ยังคงรักษาตำแหน่งเส้นทางยอดนิยมมากที่สุดของเอทิฮัดในเส้นทางอัฟริกา โดยมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 81

มร. โฮแกน กล่าวเสริมว่า “ทั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ที่เอทิฮัดได้รับจาก อาบูดาบี แอร์พอร์ต คัมปะนี (เอดีเอซี), อาบูดาบี แอร์พอร์ต เซอร์วิส และกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีส่วนทำให้เอทิฮัดสามารถขยายเครือข่ายการบินไปทั่วโลก และเส้นทางบินใหม่สู่ประเทศอินเดีย เบลารุส คาซัคสถาน และ รัสเซีย ภายในไม่กี่เดือนนี้”

นอกจากนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ อย่างสูงของแผนกจัดส่งสินค้า หรือเอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้

ภายในระยะเวลาที่ผ่านมา เอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้ สามารถขนส่งได้มากว่า 127,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2550 การขนส่งนี้คิดเป็นน้ำหนักรวมมากกว่า 100,000 ตัน

รวมทั้งเอทิฮัด ฮอลิเดย์ส ก็ประสบผลสำเร็จอย่างสูงในครึ่งปีแรกของ 2551 เช่นเดียวกัน ตามมาด้วยการเปิดตัวร้านค้าใหญ่สองแห่งคือ อัล วาร์ดา มอลล์ และ คาลิดิยาด มอลล์ ที่เมืองอาบูดาบี ซึ่งแผนกมีรายรับเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 140 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2550

เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด
สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสำนักงานใหญ่ ณ เมืองหลวงอาบูดาบี ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ 45 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihadairways.com