เอชพีแนะนำซอฟต์แวร์โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการจัดการความเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหาการบริการทางธุรกิจอย่างอัตโนมัติ

เอชพีประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ Business Technology Optimization หรือ BTO และซอฟต์แวร์ในรูปแบบของการบริการ หรือ (Software-as-a-Service) ที่จะช่วยองค์กรด้านไอที ในการจัดการความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนแก้ปัญหาต่างๆ ด้านการบริการและแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ จึงช่วยลดความเสี่ยงของช่วงเวลาดาวน์ไทม์ที่ระบบไม่สามารถทำงานได้อย่างมหาศาล

ซอฟต์แวร์ BTO จะช่วยทำให้วงจรการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างเต็มที่ โดยนำขั้นตอนและการดำเนินการเปลี่ยนแปลง อาทิ การอัพเกรดแอพพลิเคชั่นและการดัดแปลงโครงสร้างพื้นฐานมาไว้รวมกัน ทั้งนี้ จำนวนของการเปลี่ยนแปลงทางด้านไอทีที่เกิดขึ้นต่อหนึ่งสัปดาห์อาจมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ

ความเสี่ยงหลักในด้านการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง มีสาเหตุมาจากการไม่สามารถระบุถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น หรือความซ้ำซ้อนในการเปลี่ยนแปลงในระหว่างกระบวนการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง และระหว่างการดำเนินการนั้น ซึ่งยังผลให้เกิดดาวน์ไทม์ทางธุรกิจ ด้วยโซลูชั่น HP Release Control หรือเดิมคือ HP Change Control Management ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพและถูกต้องยิ่งขึ้น สามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้มากขึ้น โดยช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นกิจกรรมการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้ในแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ เอชพียังได้แนะนำการผสานรวมครั้งใหม่ของเทคโนโลยีบริหารจัดการธุรกรรม และเทคโนโลยีการแยกพื้นที่ที่มีปัญหาออกจากระบบกลาง ซึ่งจะช่วยลูกค้าให้สามารถทราบถึงปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปัญหานั้นๆ จะส่งผลกระทบต่อการบริการทางธุรกิจต่างๆ โซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการแยกพื้นที่ที่มีปัญหา รวมทั้งขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการติดตามปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ระดับผู้ใช้งานปลายทางไปจนถึงส่วนประกอบของระบบ
โครงสร้างพื้นฐาน

เมื่อนำโซลูชั่น Business Service Management เหล่านี้มาผสานรวมกับโซลูชั่น Configuration Management System (CMS) ที่ทำงานบนมาตรฐาน IT Infrastructure Library (ITIL) V3 จะทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นข้อมูลเกี่ยวกับบริการทางธุรกิจจากมุมมองที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้สามารถบริหารจัดการวงจรการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาในด้านบริการทางธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าวนี้ได้รับการสาธิตประสิทธิภาพการใช้งานในงาน HP Software Universe ซึ่งเป็นงานพบปะลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจรายปีของเอชพีที่เน้นในด้านธุรกิจซอฟต์แวร์ของเอชพี

มส. ชีลลา บริดจ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย IT Global Compliance and Controls บริษัท Kellogg กล่าวว่า “การจัดการกับสารพันความเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับโครงการไอทีสำคัญนั้น จะไม่สามารถทำได้หากอาศัยกระบวนการจัดการการเปลี่ยนแปลงและโปรแกรม spreadsheet โดยใช้คนเป็นผู้จัดการควบคุม แต่โซลูชั่นแบบครบวงจรของเอชพี ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ HP Universal CMDB ทำให้เราประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการไอทีสำคัญได้ตามเวลาที่กำหนด และยังมีความพร้อมใช้งานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”

จากการสำรวจล่าสุดของ Economist Intelligence Unit (EIU) ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารด้านไอที จำนวน 1,125 คนทั่วโลก พบว่า หนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ปัญหาดาวน์ไทม์กว่าครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากจากการเปลี่ยนแปลงด้านไอที นอกจากนี้ผลการศึกษาของ EIU ยังได้เปิดเผยว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นว่าการวางระบบอัตโนมัติจะช่วยให้สามารถทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีได้ล่วงหน้าและเกิดความสอดคล้องสม่ำเสมอของการเปลี่ยนแปลงนั้น

บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ยังได้ระบุว่า “การจะมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพด้านความพร้อมใช้งานนั้นจำเป็นต้องควบคุมการเปลี่ยนแปลงให้ได้ และขณะเดียวกันต้องคงไว้ซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและคุณภาพของบริการในสภาพแวดล้อมด้านการผลิต ทั้งนี้องค์กรไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้หากไม่มีกระบวนการจัดการความเปลี่ยนแปลงด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพ กระบวนการปรับตั้งค่า และกระบวนการจัดการบริการในขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ที่บริการนั้นถูกนำออกมาใช้ (release management) (1)“

โซลูชั่นใหม่ที่จะช่วยให้การจัดการวงจรชีวิตของการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
ซอฟต์แวร์ HP Release Control ที่มาพร้อมกับการผสานรวมประสิทธิภาพต่างๆ ของพอร์ทโฟลิโอ HP Business Service Automation จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจอนุมัติการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังช่วยให้มองเห็นกิจกรรมการเปลี่ยนแปลงได้แบบเรียลไทม์ จึงช่วยให้สามารถระบุชัดถึงความขัดแย้งด้านการเปลี่ยนแปลงระหว่างช่วงการดำเนินการ ด้วยการเชื่อมโยงการจัดการกระบวนการเปลี่ยนแปลง (Change Process Management) ให้เข้ากับการดำเนินการตั้งแต่ที่บริการนั้นถูกนำออกมาใช้ (Release) ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะช่วยลดความขัดข้องด้านการให้บริการให้เหลือน้อยที่สุด และช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย

นอกจากนี้ลูกค้าผู้ใช้งานยังสามารถใช้บริการ HP Consulting and Integration ที่จะช่วยทำให้การเปลี่ยนแปลงและการปรับตั้งค่าต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ รวมทั้งในด้านของสินทรัพย์การบริการ (service asset) และการจัดการบริการในขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ที่บริการนั้นถูกนำออกมาใช้ (release management) บริการดังกล่าวนี้จะใช้ประโยชน์สูงสุดจาก HP Service Management Reference Model ซึ่งใช้มาตรฐาน ITIL V3 และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากประสบการณ์การทำงานกับลูกค้ามานานกว่า 15 ปี

โซลูชั่นใหม่ในการแยกพื้นที่ปัญหาจากระบบส่วนกลางและแก้ปัญหาอย่างอัตโนมัติ
ด้วยประสิทธิภาพของ Business Availability Center 7.5 เอชพีนำเสนอประสิทธิภาพการจัดการธุรกรรมทางธุรกิจแบบครบครัน รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการแยกพื้นที่ปัญหาจากระบบส่วนกลาง เพื่อช่วยให้หน่วยงานไอทีสามารถปรับแนวทางการทำงานให้สอดรับกับการจัดลำดับความสำคัญทางธุรกิจต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ลูกค้าผู้ใช้งานยังสามารถจัดการและมั่นใจได้ถึงบริการที่มีคุณภาพตลอดเวลา ด้วยการเชื่อมต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานปลายทางเข้ากับประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย เพื่อให้การแก้ปัญหาทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและการบริหารจัดการเป็นไปในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น

โซลูชั่น Configuration Management System รุ่นแรกของวงการที่ทำงานด้วยมาตรฐาน ITIL V 3
ปัจจุบันแนวทางปฏิบัติแบบเดิมๆ ที่ช่วยให้มองเห็นถึงภาพรวมของวิธีการทำงานของไอทีเพื่อให้บริการด้านธุรกิจนั้นนับว่าไม่เพียงพอเสียแล้ว ฐานข้อมูลการจัดการด้านการปรับแต่งระบบเครือข่ายที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถรองรับความต้องการแบบเรียลไทม์ของสภาพแวดล้อมการใช้งานเทคโนโลยีอันซับซ้อนในปัจจุบันได้
จากการตระหนักถึงข้อจำกัดเหล่านี้ มาตรฐาน ITIL V3 ที่เอชพีได้ร่วมพัฒนาขึ้นจะช่วยมอบแนวทางรวม หรือแนวทางการแบ่งปันข้อมูล เพื่อให้เกิดระบบการจัดการด้านการปรับแต่งค่าอันครบครัน โซลูชั่น HP Configuration Management System ใหม่นี้ช่วยในการแยกย่อยและให้รายละเอียดของอุปสรรคด้านข้อมูลจากทุกฐานข้อมูลขององค์กร จึงทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่เหมาะสมแก่ผู้ใช้งานที่ต้องการ

มร.แดร์ริล ดิกเคนส์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด เอชพีซอฟต์แวร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “ความต้องการของลูกค้าในการเข้าใช้งานข้อมูลทางธุรกรรมและบริการตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้การปฏิบัติการต่างๆ ในด้านไอทีไม่สามารถแบกรับกับปัญหาความขัดข้องด้านการบริการซึ่งสร้างความเสียหายสูงต่อธุรกิจ และเกิดจากการจัดการความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ถูกวิธี เอชพีจึงมอบโซลูชั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานได้เห็นภาพรวมของการปฏิบัติการด้านความเปลี่ยนแปลงอย่างครบถ้วนเพื่อช่วยในการประเมินผลกระทบ รองรับการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ประสานความร่วมมือเพื่อจัดการกับความเปลี่ยนแปลง (change collaboration) ดำเนินการอย่างเป็นอัตโนมัติ และเริ่มนำบริการนั้นออกมาใช้”

ชุดผลิตภัณฑ์ HP BTO Software as a Service
ชุดผลิตภัณฑ์ HP Software as a Service มอบทางเลือกให้กับลูกค้าในการใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ HP BTO ได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ซอฟต์แวร์ในรูปแบบของบริการของเอชพี หรือ HP SaaS เป็นบริการที่ได้รับการจัดการซึ่งสามารถใช้งานผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของเอชพีผ่านการใช้วิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุด และการให้การสนับสนุนบริการอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกรกฏาคมนี้เอชพีจะเปิดตัวซอฟต์แวร์ HP Business Availability Center 7.5, Release Control 4.0 และ UCMDB 7.5 ผ่านทางซอฟต์แวร์ในรูปแบบของบริการ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ HP Business Technology Optimization สำหรับการปฏิบัติการ สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/go/itoperations และเอกสารข่าวสำหรับสื่อมวลชนออนไลน์ สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/go/lasvegasevents2008

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย สำหรับลูกค้าในทุกระดับ นับตั้งแต่ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยสายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมถึงด้านโซลูชั่นภาพและการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ บริการ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทด้านไอทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 เอชพีมีรายได้รวมนับจาก 4 ไตรมาสทั้งสิ้น 110.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com