DRT บุกออสเตรเลียรับอานิสงค์เปิดเอฟทีเอ ชิมลางลูกค้าโครงการก่อนเล็ง 2 ปีตั้งตัวแทนขาย

“กระเบื้องหลังคาตราเพชร” เร่งขยายส่งออกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง เปิดเกมบุกประเทศออสเตรเลีย รับอานิสงค์เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบออสซี่ดอลลาร์ส่งผลดีโดยตรง พร้อมดันกระเบื้องเจียระไนและอุปกรณ์ประกอบกระเบื้องชิมลางตลาดผ่านการขายให้กับลูกค้าโครงการ ก่อนเล็งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าภายใน 1-2 ปีคาดหน้า ช่วยทำยอดขายส่งออกโต

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคาเจียระไน รุ่น อดามัส และรุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้เร่งขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อผลักดันเป้าหมายการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากยอดขายรวมในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2,800 ล้านบาท โดยได้ขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลีย ผ่านการขายลูกค้าโครงการที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย ที่รับเหมาทำโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในขนาดพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ มีความสนใจในสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ผลิตภายในประเทศไทย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของมาตรฐานสินค้าในระดับสากล และมีเอกลักษณ์ในเรื่องของดีไซน์ที่มีความโดดเด่น โดยทางลูกค้าได้เจรจาในการซื้อสินค้าของบริษัทฯ ในกลุ่มกระเบื้องหลังคาเจียระไน และอุปกรณ์ประกอบกระเบื้องหลังคา เป็นมูลค่าเบื้องต้นกว่า 1.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการตอบรับของลูกค้าดังกล่าว บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดการส่งออกกระเบื้องหลังคาตราเพชร โดยเตรียมนำกระเบื้องหลังคาเจียระไน ไปทดสอบคุณภาพสินค้าที่ประเทศออสเตรเลียภายในปีนี้ เพื่อรับรองมาตรฐานสินค้าให้ได้ ตามกฎระเบียบของทางประเทศออสเตรเลีย ที่ตั้งไว้ให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างไปจำหน่ายยังประเทศออสเตรเลีย
“ลูกค้าที่ซื้อสินค้าล็อตแรกจากเราไปนั้น ถูกใจในเรื่องของงานดีไซน์ของบริษัทฯ ที่สินค้ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น จึงมีการสั่งซื้อสินค้าบางส่วน แต่หากเราต้องการที่จะขยายตลาดกระเบื้องที่ออสเตรเลีย เราต้องได้รับใบอนุญาตรับรองคุณภาพสินค้า ซึ่งขณะนี้เราเตรียมนำสินค้าไปทดสอบเพื่อขอใบรับรอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปิดตลาดกระเบื้องหลังคาในประเทศออสเตรเลียได้ หลังจากนั้น เราจะขยายสินค้าไปสู่กลุ่มอื่นๆ ต่อไป” นายสาธิต กล่าว

รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาด DRT กล่าวด้วยว่า หากได้รับใบรับรองภายในปีนี้ บริษัทจะรุกตลาดส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลียอย่างจริงจัง เนื่องจากประเทศไทยกับประเทศออสเตรเลียข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกัน โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 0% ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษี ประกอบกับสกุลเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียในขณะนี้อยู่ในระดับ 30 บาทต่อ 1 เหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย มีแนวโน้มที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย จึงทำให้สินค้าที่นำเข้าจากไทยมีราคาถูกเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง ซึ่งจะเอื้อต่อความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศออสเตรเลียภายใน 1-2 ปีข้างหน้า พร้อมจะส่งกระเบื้องหลังคาเจียระไนรุ่น Simply Cut เข้าไปทำตลาดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสินค้าดีไซน์ใหม่ล่าสุด ขนาด 50x40x0.6 เซนติเมตร โดยเป็นกระเบื้องเรียบตัดมุมที่ให้ความรู้สึกอิสระ สามารถเข้าได้กับหลังคาทุกรูปแบบ เรียบง่าย แต่โดดเด่นมีสไตล์ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ตั้งเป้าว่า หากสามารถดำเนินตามแผนในการขยายตลาดในประเทศออสเตรเลียได้ตามที่วางไว้ คาดว่าจะทำยอดขายจากการส่งออกได้ 5% ภายในปีนี้ และตั้งเป้าว่าภายในปี 2553 จะสามารถผลักดันยอดขายจากการส่งออกในกลุ่มประเทศที่เปิดตลาดใหม่ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีและเมอริเชียส คิดเป็นสัดส่วน 20-30% ของยอดขายทั้งหมด
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ DRT นั้น รายได้หลักยังคงเป็นกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 65 % กระเบื้องคอนกรีต 10 % ไม้ฝา 15 % ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจียระไน 5% และอุปกรณ์ประกอบหลังคา 5%

บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร อดามัส เจียระไน และตราหลังคา มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน “ คุณภาพต้องมาก่อน ทุกขั้นตอนของสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำค่า ถึงลูกค้าพึงพอใจ”