เนสท์เล่ไอศกรีม ประกาศรีลอนช์แบรนด์ “เอ็กซ์ตรีม” ชูกลยุทธ์ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง”

จากภาพ: มร.เคน โดนัลด์สัน ผู้อำนวยการบริหาร ธุรกิจไอศกรีม(กลาง) พร้อมด้วย นางสาวมณฑา คงเครือพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ธุรกิจไอศกรีม (ซ้าย) และ นางสาววิรินดา อรดีดลเชษฐ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ เนสท์เล่ไอศกรีม “เอ็กซ์ตรีม” ร่วมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “ค้นหาจังหวะความอร่อยแบบเอ็กซ์ตรีมในตัวคุณ” พร้อมปรับโฉมภาพลักษณ์ใหม่เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม”

“เนสท์เล่ไอศกรีม” รีลอนช์แบรนด์ “เอ็กซ์ตรีม” หนึ่งในแบรนด์หลักสำคัญ ปรับโฉมภาพลักษณ์ใหม่เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ชูกลยุทธ์ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” เป็นหัวหอกในการเจาะตลาดสร้างแนวร่วมในกลุ่มวัยมันส์ เชื่อมโยงและสร้างความผูกพันผ่านไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเป้าหมายด้วยเสียง ดนตรี พร้อมทุ่มงบการตลาดเบื้องต้นกว่า 40 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “ค้นหาจังหวะความอร่อยแบบเอ็กซ์ตรีมในตัวคุณ” คาดเพิ่มยอดขายให้กับเนสท์เล่ไอศกรีมได้กว่า 50%

นางสาวมณฑา คงเครือพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ธุรกิจไอศกรีม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวถึงการบุกตลาดไอศกรีมกลุ่มวัยรุ่นวัยมันส์ ด้วยการรีลอนช์แบรนด์เอ็กซ์ตรีมในครั้งนี้ว่า “เนื่องจากเทรนด์ของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการ ความแปลกใหม่และมีไลฟ์สไตล์ที่ท้าทาย ไม่หยุดนิ่ง เนสท์เล่ไอศกรีมจึงได้วางตำแหน่งทางการตลาดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” หนึ่งในแบรนด์หลักสำหรับตลาดกลุ่มวัยรุ่น ด้วยการรีลอนช์แบรนด์ “เอ็กซ์ตรีม” ที่ได้รับการปรับโฉมเสริมภาพลักษณ์ใหม่ให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายให้มาก ที่สุด โดยการเชื่อมโยงและสร้างความผูกพันด้วยการดึงดนตรีมาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารในครั้งนี้ พร้อมนำ กลยุทธ์ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” เป็นหัวหอกในการบุกตลาดผ่านแคมเปญ “ค้นหาจังหวะความอร่อยแบบเอ็กซ์ตรีมในตัวคุณ” ซึ่งเราเชื่อว่าดนตรีสามารถระเบิดความสุขและความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดอย่าง ”เอ็กซ์ตรีม” ได้ พร้อมทุ่มงบการตลาดเบื้องต้นกว่า 40 ล้านบาทสำหรับการรีลอนช์แบรนด์ในครั้งนี้”

เนสท์เล่ไอศกรีมได้ปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ “เอ็กซ์ตรีม” ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยสร้างจุดเด่นของไอศกรีมเนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” ที่รสชาติ ด้วยซอสที่ชุ่มฉ่ำ เข้มข้น ในเนื้อไอศกรีม สร้างประสบการณ์ความอร่อยตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ตลอดจนท้อปปิ้งที่ถูกปากคนไทยชวนให้ลิ้มลอง โดยที่ยังคงคุณภาพของรสชาติหลัก คือ รสช็อกโกแลต, รสวานิลลา และรส สตอรเบอร์รี่ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคในด้านของความกลมกล่อมและเนียนนุ่มของเนื้อไอศกรีม พร้อมกันนี้ยังได้ปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้มีความทันสมัย สีสันสดใสสะดุดตา และสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ “ดนตรี” อีกด้วย

นางสาวมณฑา ยังได้กล่าวถึงรายละเอียดกิจกรรมทางการตลาดเต็มรูปแบบของแคมเปญ “ค้นหาจังหวะความอร่อยแบบเอ็กซ์ตรีมในตัวคุณ” ว่า “นอกเหนือจากการพัฒนาและปรับปรุงด้านรสชาติและบรรจุภัณฑ์แล้ว เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” ยังได้เตรียมโปรโมชั่นทางการตลาด เพื่อส่งเสริมแคมเปญในครั้งนี้ด้วยโปรโมชั่นใหม่ “พลิกใต้ฝา มีรางวัลทุกโคน” โดยรางวัลที่ 1 โทรศัพท์มือถือซัมซุงรุ่นใหม่ล่าสุด L700 ที่ให้ผู้บริโภคได้สนุกกับการฟังเพลงผ่านมือถือ เมื่อซื้อเนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” รสใดก็ได้จาก 5 รสชาติ ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2551 นอกจากนี้ การสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายจะใช้การจัดมินิคอนเสิร์ตเปิดตัวสินค้าทั่วทุกภาคร่วมกับวง Tattoo Colour วงดังขวัญใจวัยรุ่น ที่จะช่วยสร้างการจดจำตราสินค้าและเป็นตัวเชื่อมเนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” เข้าสู่ไลฟ์สไตล์สร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างแบรนด์เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” กับกลุ่มเป้าหมายของเรา ส่วนสื่อที่ใช้ ณ จุดขายนั้น เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” ได้มีการสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจด้วยการเปลี่ยนโฉมตู้ไอศกรีมให้กลาย เป็นตู้เพลงความอร่อย ส่วนกิจกรรมต่อเนื่องภายใต้แนวคิดไลฟ์สไตล์ด้านดนตรีนั้น จะผ่านการประกวดแต่ง จิงเกิ้ลเพลง “เอ็กซ์ตรีม” ในกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราในช่วงต้นปีหน้า”

“เนสท์เล่ไอศกรีมมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความสุขและสร้างประสบการณ์ความอร่อย ให้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายผู้ซึ่งมีจังหวะดนตรีในหัวใจทุกคนได้ร่วม “ค้นหาจังหวะความอร่อยแบบเอ็กซ์ตรีมในตัวคุณ” เราคาดหวังว่าผู้บริโภค ซึ่งรวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นวัยมันส์จะชื่นชอบกับบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ของเรา ตลอดจนอร่อยและเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมเนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” ในรูปแบบโคนทั้ง 5 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแลต, วานิลลา, สตอรเบอร์รี่, คุ้กกี้แอนด์ครีม และรสชาติน้องใหม่ “กาแฟเย็น” ที่ได้พัฒนาเพื่อผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ ส่วนด้านยอดขายนั้น เนสท์เล่ไอศกรีมคาดว่า การรีลอนช์แบรนด์เนสท์เล่ “เอ็กซ์ตรีม” ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับเนสท์เล่ไอศกรีมประมาณ 50%” นางสาวมณฑา กล่าวสรุป