ธนาคารทหารไทยจับมือ บลจ.ไอเอ็นจี คลอดแคมเปญ TMB BUDDY B/E+LTF เดินหน้ากระตุ้นยอดกองทุน LTF ส่งท้ายปลายปี เผยลูกค้าลงทุนใน LTF คู่กับตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange – B/E) 3 เดือนของธนาคารทหารไทยในวงเงินที่เท่ากัน ประเภทละ 5 หมื่นบาทถึง 5 แสนบาท จะได้รับดอกเบี้ยตั๋วแลกเงินสูงถึง 5.50% ต่อปี ผู้บริหารแบงก์มั่นใจกระแสตอบรับแรง เหตุลูกค้าและนักลงทุนได้ประโยชน์เต็มที่ มั่นคงและมั่งคั่ง ทั้งจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี และผลตอบแทนจากการออมเงิน ลั่นพร้อมคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพนำเสนอลูกค้า หวังเพิ่มความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง
นายลือชา ศุกรเสพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ธนาคารทหารไทยได้ร่วมเป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มไอเอ็นจี ธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ของกลุ่มไอเอ็นจีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิตหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุน ซึ่งนับเป็นการสร้างความหลากหลายในการบริการด้านการเงินและการลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารได้ครบวงจรมากขึ้น
“ที่ผ่านมา ธนาคารได้ริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ ๆ และคัดสรรผลิตภัณฑ์การลงทุนอี่น ๆ ที่นอกจากจะมีคุณภาพแล้ว ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบันเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการออมและการลงทุนของลูกค้า ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าของธนาคารเป็นอย่างดี” นายลือชากล่าว
ล่าสุด ธนาคารทหารไทยได้ร่วมกับ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดตัวแคมเปญ TMB BUDDY B/E + LTF โดยนำเสนอการออมในรูปตั๋วแลกเงิน 3 เดือนที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากทั่วไป สำหรับลูกค้าเพื่อลงทุนคู่กับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของ บลจ.ไอเอ็นจี ในจำนวนที่เท่ากัน ขั้นต่ำประเภทละตั้งแต่ 50,000-500,000 บาท นอกจากผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุน LTF แล้ว ยังจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากตั๋ว B/E ของธนาคารทหารไทย สูงถึง 5.50% ต่อปี
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อย ธนาคารทหารไทย กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าด้วยศักยภาพของธนาคารและบลจ.ไอเอ็นจี จะทำให้ความร่วมมือทางธุรกิจหลังจากนี้สร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคาร และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและผู้ออมเงินได้เป็นอย่างดี โดยธนาคารยังคงยืนยันที่จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของธนาคารต่อไป
ด้านนายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี มีจำนวนทั้งสิ้น 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว, กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว, กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว
ทั้งนี้ แต่ละกองทุนต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น โดยกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว จะช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนในหุ้น ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว จะเน้นลงทุนในหุ้นคุณค่า หรือ Value Stock ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว จะเน้นการลงทุนหุ้นที่มีบรรษัทภิบาลดี และกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมขนาดใหญ่
“เราเชื่อว่าแคมเปญที่ร่วมกับธนาคารทหารไทย TMB BUDDY B/E + LTF จะช่วยกระตุ้นการลงทุนในกองทุน LTF ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนสนใจลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของการลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ขณะที่แคมเปญดังกล่าวนับได้ว่าแตกต่างและเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ เนื่องจากเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุนด้วยการออมเงินในตั๋ว B/E ของธนาคารทหารไทย ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงถึง 5.50% ต่อปีโดยเชื่อว่า จะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี” นายมาริษกล่าว
สำหรับผู้สนใจลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของบลจ.ไอเอ็นจี พร้อมการออมเงินตั๋ว B/E อายุ 3 เดือนของธนาคารทหารไทย สามารถลงทุนได้ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 30 ธันวาคม 2551 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ และ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2688-7777 ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน กด 2
นอกจากนี้ ผู้สนใจยังสามารถสอบถามข้อมูลของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ที่งาน SET in the City ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายนนี้ ณ พารากอนฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน