แคนนอน คว้าแชมป์ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น

แคนนอนประสบความสำเร็จเร็วเกินคาด สามารถครองอันดับหนึ่งตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นจากผลประกอบการไตรมาสที่สอง เร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ถึง 6 เดือน ทั้งนี้เพราะ กลยุทธ์ที่เน้นเรื่องการเปลี่ยนความยากในการจัดระบบเอกสารให้มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องง่ายๆ (Business Can be Simple) องค์กรต่างๆ ต้องการจัดระบบเอกสารที่มีประสิทธิภาพรับมือภาวะเศรษฐกิจ แคนนอนพร้อมรับมือ หวังครองแชมป์ต่อไป ไม่หวั่นไหวแม้ครึ่งปีหลังยังแข่งดุเดือด

ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น (Business Imaging Solution Group: BIS Group) บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “เป้าหมายยอดขายของกลุ่มในปี 2551 ตั้งเป้าไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ยอดขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เติบโตด้วยดี ผลประกอบการในไตรมาสที่สอง ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก โดยเฉพาะความสำเร็จของกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนที่มาเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดขายเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนที่เติบโตถึงร้อยละ 19 และ สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึงร้อยละ 25”

“สำหรับยอดขายกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารสีมัลติฟังก์ชั่น มีอัตราการเติบโตมากถึง ร้อยละ 68 และผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องพิมพ์สีหน้ากว้าง imagePROGRAF หรือ Large Format Printer เติบโตในอัตราร้อยละ 63 และซอฟต์แวร์การจัดการเอกสารเติบโตในอัตราร้อยละ 287”

ร้อยเอกสุนทร กล่าวต่อไปว่า “ความสำเร็จของแคนนอน ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น ในครั้งนี้เกิดจาก กลยุทธ์ Business Can be Simple ที่เน้นเรื่องการเปลี่ยนความยากในการจัดระบบเอกสารให้มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องง่ายๆ และเมื่อต้นปีได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดภายใต้แนวคิด Canon CEO หรือ Canon Excellent Operation คือโซลูชั่นที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับออฟฟิศแห่งวันพรุ่งนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถปรับแต่งเข้ากับแต่ละธุรกิจได้อย่างเหมาะสม แคมเปญการตลาดใหม่ครั้งนี้ เป็นแผนเชิงรุกที่สำคัญของแคนนอน ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น ที่เข้าถึงเจ้าของและผู้บริหารของธุรกิจทั้งในกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งต่างเริ่มให้ความสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการสร้างประสิทธิภาพ และเพิ่มประสิทธิผลการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการนำโซลูชั่นที่ครบวงจรในการทำงาน เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในขั้นตอนของการทำงานต่างๆ สำหรับธุรกิจในแต่ละประเภทนั่นเอง”

นอกจากนี้แคนนอนยังเน้นการทำการตลาดทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ด้วยวิธีการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ และช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือ ขายตรงกับลูกค้าที่มีอยู่เดิมและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัท โดยทีมพนักงานขายที่มีความรู้ความชำนาญคอยให้คำปรึกษากับลูกค้าในด้านต่างๆ และการทำกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่นออกงานแสดงสินค้า และการจัดงาน Canon Business Can be Simple และงาน FESPA World Expo Asia-pacific ในวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2551 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้พบกับนวัตกรรมการบริหารจัดการเอกสารที่เต็มประสิทธิภาพ ทันสมัย ในรูปแบบ Digital Document Management ด้วยโซลูชั่นต่างๆ ที่แคนนอนพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองระบบการจัดการของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

“สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของแคนนอน ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น ในไตรมาสสุดท้ายและปีต่อไปจะเน้นในเรื่องของการทำโปรโมชั่น เพื่อสนับสนุนการขาย แต่แคนนอนจะไม่ได้มุ่งเน้นแข่งขันด้านราคา จะมุ่งเน้นที่การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทำให้แคนนอนมีโซลูชั่นที่ครอบคลุมและ โดดเด่นกว่าคู่แข่งและที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการรุกในเรื่องการบริการหลังการขาย Canon CEO Care ที่มีทีมงานที่ตั้งใจพร้อมบริการหลังการขายและซ่อมบำรุง เมื่อเครื่องมีปัญหา มีบริการเครื่องสำรองภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี e-Maintenance คือบริการรูปแบบใหม่จากแคนนอนที่ทำหน้าที่เหมือนเลขาส่วนตัว สามารถแจ้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานเครื่องมัลติฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้ปริมาณหมึกทั้งที่มีอยู่ในเครื่องและสต็อก และข้อผิดพลาดของเครื่อง ทำให้บริการ ได้ทันท่วงที เพิ่มประสิทธภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน เป็นการจัดการงานออฟฟิศที่ทันสมัย สร้างความพึงพอใจอย่างยิ่ง” ร้อยเอกสุนทร กล่าวทิ้งท้าย

แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์)
แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 เป็นสาขาของบริษัทแคนนอน อิงค์ ญี่ปุ่น มีพนักงานกว่า 500 คน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านอุปกรณ์ภาพถ่ายและเครื่องใช้สำนักงานประกอบด้วยแผนกขายตรงและตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการ 160 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ แคนนอนมีความมุ่งมั่นในการค้นคว้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง จัดสรรงบประมาณ 10% ของรายได้รวมเพื่อการวิจัยและพัฒนาทุกปี อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีการจดสิทธิบัตรมากที่สุด 3 อันดับแรกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ แคนนอนยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ Fortune Global 500 และด้วยความยึดมั่นในหลักปรัชญา “เคียวเซ (Kyosei)” ที่หมายถึงการใช้ชีวิตและการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม แคนนอนจึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ใช้งานง่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชีวิตทั้งที่บ้านและที่ทำงาน (ข้อมูลเพิ่มเติม www.canon.co.th)