ผลสำรวจความคิดเห็นของสถาบันการเงินหลายแห่งซึ่งจัดทำโดยสำนักงานกฎหมายระดับนานาชาติ นอร์ตัน โรส กรุ๊ป (Norton Rose Group) เผยว่า วิกฤตการเงินระดับโลกจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอุตสาหกรรมการเงินครั้งใหญ่ และหลายสถาบันการเงินจะประสบภาวะล้มละลาย
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 16-25 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน 195 ราย (ประกอบด้วยสถาบันการเงินและบริษัทใหญ่หลายแห่ง) เกี่ยวกับวิกฤตสินเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบัน
ผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า วิกฤตดังกล่าวจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ โดย 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าจะมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ล้มละลาย, 85% คาดว่าข้อกำหนดในการปล่อยกู้จะเข้มงวดกว่าเดิม, 91% เชื่อว่าจะเกิดการควบรวมกิจการมากขึ้น และ 38% คาดว่ารัฐบาลจะเทคโอเวอร์บริษัทที่ประสบปัญหามากขึ้น
ผู้ตอบแบบสอบถามหลายรายเปิดเผยว่า วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของภาคเอกชน โดยสถาบันการเงินหลายแห่งเพิ่มความระมัดระวังในการบริหารความเสี่ยง (จากผู้ตอบแบบสอบถาม 75%), การอนุมัติเงินกู้ (70%) และการตรวจสอบสถานะทางการเงิน (47%) นอกจากนั้นยังมีความกระตือรือร้นมากขึ้นในการรื้อฟื้นกิจการและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางธุรกิจมากขึ้น (35%) โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีความซับซ้อนสูงอย่างโครงสร้างเงินทุนและตราสารอนุพันธ์
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าแปลกใจว่ากว่า 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า สถาบันการเงินของพวกเขาไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการให้โบนัสกับพนักงานแม้จะประสบปัญหาก็ตาม
นายสตีเฟ่น พาริช หัวหน้าฝ่ายธนาคารโลก ของบริษัทนอร์ตัน โรส แอลแอลพี กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า
“วิกฤตสินเชื่อก้าวมาถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายอีกครั้ง จุดเริ่มต้นของปัญหาสภาพคล่องเกิดขึ้นจากการปรับลดมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดปล่อยกู้จำนองที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจนนำไปสู่ปัญหาภาคการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาก แม้ทั่วโลกจะทุ่มเทความพยายามจนสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือและปฏิรูปกลุ่มสถาบันการเงิน แต่หลายฝ่ายยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินเหล่านี้ว่าจะสามารถประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้หรือไม่”
ผู้ตอบแบบสอบถามหลายคน (47%) ยังมองเห็นถึงโอกาสการดำเนินธุรกิจในตลาดใหม่ๆหลายแห่ง โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (อินเดีย 36%, ตะวันออกกลาง 47% และจีน 33%) แต่ยังมีผู้ที่เห็นถึงโอกาสในยุโรปตะวันตก 31% และในอเมริกาเหนือ 23%
ทั้งนี้ 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อจะค่อยๆบรรเทาเบาบางลงในระยะเวลา 1-5 ปี ขณะที่ 17% เชื่อว่าสถาบันการเงินต้องใช้เวลากว่า 5 ปี หรืออาจต้องเผชิญปัญหาสินเชื่ออย่างถาวร
เจมส์ แบตสัน ประธานฝ่ายสถาบันการเงินของนอร์ตัน โรส แอลแอลพี แสดงความคิดเห็นว่า:
“นักเศรษฐศาสตร์บางท่านเชื่อว่า การขยายตัวในตลาดเกิดใหม่อาจช่วยชดเชยการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจชาติยุโรปได้ และนักลงทุนจากเอเชียและตะวันออกกลางต่างเริ่มใช้กลยุทธ์ในการซื้อสินทรัพย์จากบริษัทเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ว่านักลงทุนจะใช้วิธีใด ความเคลื่อนไหวในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้จะยังเป็นเรื่องที่ท้าทายและไม่สามารถคาดเดาได้เลย”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ฌอน ทูเมย์ หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์
โทร +44(0)20-7444-3740
อีเมล์ [email protected]
โทรศัพท์มือถือ +44(0)7921-604892
แหล่งข่าว: นอร์ตัน โรส กรุ๊ป