เอชพีเผยโครงการวิจัยด้านการใช้พลังงานทดแทน

เอชพีเผยโครงการเกี่ยวกับพลังงานทดแทนเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงาน งานวิจัย และผลิตภัณฑ์ของเอชพี ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายใหม่ในการที่บริษัทจะเพิ่มการจัดซื้อพลังงานทดแทนจากทั่วโลกเป็นสองเท่า จากน้อยกว่าร้อยละ 4 ในปี พ.ศ. 2551 เป็นร้อยละ 8 ในปี พ.ศ. 2555

โครงการนี้ช่วยส่งเสริมเป้าหมายของเอชพีในการลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของเอชพีทั่วโลก ได้ในปริมาณที่ต่ำกว่าระดับที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ถึงร้อยละ 16 ภายในปี พ.ศ. 2553

ในการลดการก่อก๊าซคาร์บอนลงนั้น เอชพีเชื่อมั่นในการใช้ทรัพยากรที่มาจากพลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบ ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการลดการใช้พลังงาน รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีของเอชพีทั่วโลกซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ในปีพ.ศ. 2550 เอชพีได้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มการจัดซื้อพลังงานทดแทนขึ้นมากกว่าร้อยละ 350 และได้จัดซื้อพลังงานทดแทนและคาร์บอนเครดิตในประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็นจำนวน 61.4 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (kWh)

มร. จอห์น เฟรย์ ผู้บริหารอาวุโสด้านความยั่งยืนของเอชพี กล่าวว่า “เอชพีมีการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถเข้าใกล้การปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมของไอทีที่เอื้อต่อระบบนิเวศน์แบบยั่งยืนยิ่งขึ้น เราได้ให้การสนับสนุนโครงการด้านพลังงานทดแทน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้ประโยชน์จากการวิจัยในการแสดงความเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องความกังวลของลูกค้าในด้านค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้พลังงาน”

การใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
เมื่อเร็วๆ นี้ เอชพีได้ติดตั้งระบบแผงควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์แบบ 1.1 เมกะวัตต์ จำนวน 6,256 ชิ้น เข้ากับระบบการดำเนินงานของเอชพีในเมืองซาน ดิเอโก้ ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในการติดตั้งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตเมืองซาน ดิเอโก้ และคาดว่าจะช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายถึง 7.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเวลา 15 ปีข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็สามารถเสริมพลังการดำเนินงานของบริษัทขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ยิ่งไปกว่านั่น ระบบนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 60 ล้านปอนด์ ภายในช่วงเวลา 30 ปีข้างหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรือนถึง 3,800 หลัง หรือการลดการใช้รถยนต์มากกว่า 5,250 คันตลอดช่วงเวลาเดียวกัน

บริษัท SunPower ได้ติดตั้งระบบ และใช้บริการ GE Energy Financial Services โดยบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของ GE ซึ่งเป็นเจ้าของระบบที่อยู่ภายใต้ SunPower Access จะเป็นผู้ให้พลังงานไฟฟ้าภายใต้ข้อตกลงในการจัดซื้อพลังงาน

เอชพีได้ขยายประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังพนักงานของเอชพีในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน พนักงานของเอชพีที่ยังทำงานอยู่และเกษียณแล้วมากกว่า 600 คน ได้ขอให้มีการประเมินผลการติดตั้งระบบสำหรับบ้านเรือน และมีมากกว่า 60 คน ที่ได้รับการติดตั้งระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว หรือกำลังอยู่ภายใต้สัญญาเพื่อทำการติดตั้ง SunPower ภายในบ้าน

เอชพีได้รับเลือกให้มีส่วนร่วมในโปรแกรม Green Choice ของบริษัท Austin ในการผลิตพลังงานลมประมาณ 19.9 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จากกังหันลมในฟาร์มในรัฐเท็กซัสแถบตะวันตก เพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูลของเอชพี 2 ศูนย์ในบริษัท Austin ซึ่งใช้ในปริมาณใกล้เคียงร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานทั้งหมดต่อปี ยิ่งไปกว่านั้น การดำเนินงานในศูนย์ข้อมูลทั้งหมดมีระบบ Dynamic Smart Cooling (DSC) ของเอชพี ช่วยให้สามารถปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศ พัดลม ช่องระบายอากาศ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงาน

ระบบ DSC ของเอชพีช่วยประหยัดการใช้พลังงานภายในศูนย์ข้อมูลของเอชพีแบบเดิม คิดเป็นร้อยละ 20 – 40 โดยศูนย์ข้อมูลของเอชพีที่อยู่ภายในบริษัท Austin สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานได้ตามเป้าหมาย คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เนื่องมาจากการผสานเทคโนโลยี DSC ของเอชพี

เอชพีได้ควบรวมทั้ง 3 ศูนย์การดำเนินงานในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก การออกแบบของการดำเนินงานแบบใหม่ครอบคลุมการปรับสภาวะภายในอาคารให้ลดการใช้พลังงานลง โดยให้สอดคล้องกับระดับความร้อน ความเย็น และการใช้ไฟฟ้าอย่างเหมาะสม สำหรับผลที่ได้รับ เอชพีหวังว่าจะสามารถลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 70

สภาพแวดล้อมของไอทีที่เอื้อต่อระบบนิเวศน์แบบยั่งยืน
เอชพีใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแบบทดแทนได้และแบบใช้แล้วหมดไปในการบริหารจัดการ พลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล การใช้แหล่งพลังงานหลากหลายรูปแบบในการดำเนินธุรกิจจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบไมโครกริดของเอชพีสำหรับการส่งพลังงานและความเย็นภายในเทคโนโลยีของศูนย์ข้อมูล ซึ่งมั่นใจได้ถึงความมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการบริหารจัดการได้ และเป็นไปตามกฎหมายกำหนด ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ของข้อตกลงในเรื่องระดับของการบริการได้

ห้องปฏิบัติการของเอชพี คือแผนกวิจัยค้นคว้าหลักของบริษัทฯ ได้ริเริ่มการวิจัยซึ่งใช้ nanowire photonic ซึ่งมีความสามารถในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานจากแสงอาทิตย์ขึ้นกว่าร้อยละ 20 การพัฒนานี้ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถนำไปใช้กับแอพพลิเคชั่นที่อยู่ในพื้นที่นอกระบบ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการผลิตนั้นลดลงเป็นอย่างมาก เปรียบเทียบได้กับพลังงานที่ถูกใช้ในเครื่องคิดเลขขนาดพกพา หรืออุปกรณ์ชาร์จแบบพกพา

Nanowire photonics อาจจะถูกผสานเข้ากับวัสดุที่เป็นสื่อไฟฟ้าซึ่งได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ซึ่งเพิ่มทางเลือกในด้านราคาที่ต่ำ โดยในอนาคต nanowire photonics อาจช่วยทำให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในอุตสาหกรรมไอทีและภาคธุรกิจอื่นๆ

ในก้าวต่อไปเพื่อการลดการใช้พลังงานจำเป็นต้องดำเนินการในขั้นตอนของการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เอชพีวางแผนที่จะลดการใช้พลังงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและตระกูลโน๊ตบุ๊คที่มีเป็นจำนวนมาก ในปริมาณร้อยละ 25 เมื่อเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน เอชพีได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะใหม่ 2 รุ่น และหน้าจอใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ด้วยหน่วยประมวลผลที่ช่วยประหยัดพลังงาน และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่น HP Pavilion Verde Special Edition a6645f และ HP Pavilion Phoenix Special Edition a6655f ได้รับการรับประกันจาก ENERGY STAR? และผ่านข้อกำหนดที่เข้มงวดด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำหนดโดย U.S. Environmental Protection Agency และยังผ่านมาตรฐานสำหรับการลงทะเบียนระดับ Silver ของ the Electronic Products Environmental Assessment Tool (EPEAT?) ซึ่งเป็นหนึ่งในการจัดอันดับสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ เอชพีได้เปิดตัวหน้าจอรุ่น HP w2558hc Vivid Color ขนาด 25.5 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบมาให้สอดคล้องกับหลักสรีระศาสตร์ ซึ่งผ่านการรับประกันจาก ENERGY STAR? เช่นกัน พร้อมนำเสนอคุณสมบัติ Power Saver ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นพิเศษช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดพลังงานได้สูงถึงร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับเครื่องพีซีที่ปราศจากการควบคุมพลังงาน และมาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลทั้งหมด โดยมีส่วนประกอบที่ทำมาจากโฟมพลาสติกอยู่น้อยมาก

เอชพีและสิ่งแวดล้อม
เอชพีเป็นผู้นำทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลาหลายทศวรรษด้วยการผลักดันให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการอย่างแท้จริงผ่านการออกแบบที่ครบวงจรสำหรับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม เอชพีเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติให้แก่อุตสาหกรรมไอทีผ่านความมุ่งมั่นจริงจังที่มีมาอย่างยาวนานในการรักษาความรับผิดชอบต่อซัพพลายเซน ดำเนินธุรกิจโดยใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อโลก และนำเสนอทางเลือกในการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล นอกจากนี้ เอชพียังช่วยให้ลูกค้าสามารถทราบถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโปรแกรม HP Eco Solutions ที่จะช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าผลิตภัณฑ์และบริการใดถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/environment

ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมถึงบริการทางด้านไอที ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่สะดวกและง่ายดายสำหรับผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ เอชพีดำเนินการเข้าซื้อกิจการของอีดีเอสโดยเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE, Nasdaq: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com