ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์…ชะลอตัวลงในช่วงน้ำมันขาลง

ก่อนปี 2551 ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์เป็นธุรกิจที่ไม่มีความโดดเด่นมากนัก โดยในอดีตเป็นธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการอยู่ในวงจำกัดเฉพาะกลุ่มรถแท็กซี่ และรถสามล้อเครื่อง แต่ความนิยมได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาก๊าซทั้ง LPG และ NGV มีราคาต่ำกว่าหลายเท่าตัว ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจึงเริ่มที่จะทยอยนำรถยนต์มาดัดแปลงเพื่อใช้ก๊าซทั้งก๊าซ LPG และก๊าซ NGV กันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศได้ขยับขึ้นไปสูงมากกว่าลิตรละ 40 บาท จึงสร้างแรงจูงใจอย่างมากแก่ผู้ใช้รถยนต์ให้นำรถยนต์มาติดตั้งระบบก๊าซกันอย่างแพร่หลาย อู่รถยนต์หลายแห่งต่างผันตัวเองมารับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ ทั้งที่อู่รถยนต์บางแห่งอาจไม่มีประสบการณ์ในการติดตั้ง หรืออาจติดตั้งโดยไม่ได้มาตรฐานก็ตาม ทว่าสถานการณ์ความคึกคักในธุรกิจคงอยู่ได้ไม่นานนัก โดยในช่วงปลายปี 2551 นี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศได้ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ของประชาชนลดลงมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการขาดรายได้ลงอย่างกะทันหัน ขณะที่อุปกรณ์การติดตั้งที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศจำนวนมากต้องคงค้างสต๊อกอยู่ในปริมาณมาก จนทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการไปเนื่องจากทนรับภาระต้นทุนค่าอุปกรณ์ที่สั่งซื้อมาจำนวนมากก่อนหน้านี้ไม่ไหว

ตั้งแต่ต้นปี’51 กระแสราคาน้ำมันขาขึ้น…ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ขยายตัวสูง
ตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงกลางปี 2551 ราคาน้ำมันสำเร็จรูปทั้งเบนซิน และดีเซลได้ขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นไปเกินกว่าลิตรละ 40 บาท ในเดือนกรกฎาคม 2551 ขณะที่ราคาก๊าซที่จำหน่ายภายในประเทศได้ถูกตรึงราคาไว้ โดยก๊าซ LPG จำหน่ายอยู่ที่ประมาณลิตรละ 11.5 บาท และก๊าซ NGV จำหน่ายที่กิโลกรัมละ 8.5 บาท ความต้องการติดตั้งระบบก๊าซเพื่อหลีกหนีปัญหาน้ำมันแพงจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ จำนวนสถานประกอบการรับติดตั้งระบบก๊าซได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากสถานประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งรับติดตั้งระบบก๊าซโดยเฉพาะ รวมไปถึงอู่ซ่อมรถยนต์รายเล็ก และรายใหญ่ที่ผันตัวเองมารับติดตั้งก๊าซต่างมีรถยนต์เข้าคิวรอรับการติดตั้งเป็นจำนวนมาก จนต้องจองคิวล่วงหน้านับสัปดาห์ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ในเขตกรุงเทพฯ มียอดการติดตั้งและจองคิวสูงถึงวันละ 4,000 – 5,000 คัน ด้วยความต้องการติดตั้งที่มีมากนี้ ได้ส่งผลให้ราคาค่าติดตั้งระบบก๊าซสูงขึ้นจากช่วงปกติถึง 3,000 – 10,000 บาท โดยการติดตั้งประมาณ 86 % จะเป็นการติดตั้งในระบบก๊าซ LPG และอีกประมาณ 14 % เป็นการติดตั้งระบบก๊าซ NGV ซึ่งในช่วงเวลาเพียงแค่สามเดือนคือ กรกฎาคม – กันยายน 2551 มีรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซทั้ง LPG และ NGV เพิ่มมากขึ้นจากช่วงเวลาในอดีตมาก โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 มีรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซ LPG เพิ่มมากขึ้นจากสิ้นเดือนมิถุนายนถึง 102.8% หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 263,239 คัน ขณะที่การติดตั้งระบบก๊าซ NGV ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนมิถุนายน 58 % หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 30,720 คัน

ปลายปี’ 51 หลากหลายปัจจัยรุมเร้า…ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าในช่วงต้นปีถึงกลางปี 2551 จะถือเป็นช่วงเวลาทองของผู้ประกอบการรับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ แต่สถานการณ์ในช่วงปลายปีกลับแปรเปลี่ยนไป จำนวนรถยนต์ที่มีความต้องการติดตั้งระบบก๊าซเริ่มลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยจากการสำรวจพบว่าปริมาณการติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ในเขตกรุงเทพฯ ลดลงมาอยู่ที่วันละ 200 – 300 คัน ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมที่มีปริมาณความต้องการติดตั้งสูงถึงวันละ 4,000 – 5,000 คัน ด้วยปริมาณการติดตั้งระบบก๊าซที่ลดลงทำให้บางอู่แทบจะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลย และค่าติดตั้งระบบก๊าซได้ปรับลดจากช่วงกลางปีมาก ทั้งนี้ ธุรกิจรับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ในช่วงปลายปีที่คลายความคึกคักลงสืบเนื่องมาจากปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศทั้งเบนซิน และดีเซล ได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากในวันที่ 7 ก.ค. 2551 ที่ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และแก๊สโซฮอล์ 95 อี10 มีราคาจำหน่ายสูงสุดอยู่ที่ลิตรละ 44.24 และ 39.19 บาท ตามลำดับ และได้ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในวันที่ 11 พ.ย. 2551 ราคาน้ำมันที่สำคัญทั้งสองประเภทได้ลดลงมาอยู่ที่ลิตรละ 22.84 และ 21.09 บาทตามลำดับ ซึ่งราคาน้ำมันได้ลดลงกว่า 50% นี้จึงถือเป็นเหตุผลสำคัญยิ่งที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ชะลอการนำรถยนต์ไปติดตั้งระบบก๊าซทั้งระบบก๊าซ LPG และ NGV ลง
ราคาก๊าซมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จากกระแสข่าวที่ในช่วงปลายปีนี้ราคาก๊าซ LPG ที่ใช้ในภาคขนส่งจะปรับสูงขึ้นตามแนวนโยบายของภาครัฐที่จะดำเนินการแบ่งแยกราคาก๊าซ LPG ออกเป็นสองตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่ราคาก๊าซ NGV ในปี 2552 ก็มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาทอีกด้วย การที่ราคาก๊าซทั้งสองประเภทมีแนวโน้มจะขยับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและราคาก๊าซลดต่ำลง ผู้ใช้รถยนต์จึงชะลอความสนใจที่จะติดตั้งระบบก๊าซออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านราคาอีกสักระยะหนึ่ง

จำนวนรถที่หันไปติดตั้งเริ่มอิ่มตัว และรถยนต์ใหม่ที่ติดตั้งก๊าซจากโรงงานเข้ามาแข่งขัน เนื่องจากในสิ้นเดือนกันยายน 2551 ที่ผ่านมามีรถยนต์ส่วนบุคคลที่หันไปติดตั้งระบบก๊าซ LPG และ NGV เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2551 ถึง 102% และ 58% ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นปริมาณรถยนต์ส่วนเพิ่มที่สูงมาก อีกทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่วางจำหน่ายนับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2551 ได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้สนใจซื้อรถยนต์ด้วยการติดตั้งระบบก๊าซไม่ว่าจะเป็นระบบ NGV หรือ LPG จากโรงงานโดยตรง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถยนต์ถึงมาตรฐานการติดตั้ง และยังคงให้ความคุ้มครองรถยนต์ตามสิทธิ์ของรถใหม่ทุกประการ จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ที่มีรถยนต์เก่าส่วนหนึ่งหันมาซื้อรถยนต์ใหม่ที่ติดตั้งระบบก๊าซจากโรงงานโดยตรงแทน ส่งผลให้การติดตั้งระบบก๊าซตามสถานบริการต่างๆ ลดจำนวนลง

ความกังวลด้านความปลอดภัย จากเหตุการณ์รถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซระเบิดทั้งในขณะใช้งาน หรือจอดทิ้งไว้ที่ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ อยู่เป็นระยะ ถือเป็นประเด็นสร้างความกังวลถึงความปลอดภัยที่มีอิทธิพลทำให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนหนึ่งยกเลิกความคิดที่จะติดตั้งระบบก๊าซ ขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ที่ได้นำรถยนต์ไปติดตั้งระบบก๊าซก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งอาจมีความลังเลที่จะนำรถยนต์ไปถอดการติดตั้งออก ประกอบกับราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลงมามากแล้ว ทั้งนี้ การถอดระบบก๊าซออกอาจจะเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้มากขึ้น เนื่องจากในอนาคตราคาน้ำมันอาจปรับตัวสูงขึ้น จนผู้ใช้รถอาจต้องนำรถไปติดตั้งระบบก๊าซใหม่อีกครั้ง อันจะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้มากขึ้น ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ที่ได้ติดตั้งระบบก๊าซไปก่อนหน้านี้ควรหมั่นตรวจเช็คระบบก๊าซ และสภาพเครื่องยนต์อยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น

สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเมืองขาดเสถียรภาพ เนื่องจากการติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงโดยรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปหากติดตั้งระบบก๊าซ LPG จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 – 35,000 บาท ขณะที่ระบบก๊าซ NGV จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 – 65,000 บาท ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยังคงปัญหาความขัดแย้ง จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนหนึ่งต้องการถือเงินสดไว้กับตัว และชะลอการติดตั้งระบบก๊าซออกไปก่อน

บทสรุป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
คาดว่าสถานการณ์ของธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์นับจากนี้ไปอีกประมาณ 12 เดือนน่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศที่มีแนวโน้มจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย จากการสิ้นสุดนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือนที่จะต้องกลับไปเก็บภาษีน้ำมันสำเร็จรูปประเภทที่มีการใช้สูงลิตรละ 2.47 – 3.88 บาทตามเดิม แต่ภาครัฐอาจนำเงินกองทุนน้ำมันเข้ามาชดเชยราคาส่วนที่จะปรับเพิ่มบ้าง จึงน่าจะทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศขยับสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาก๊าซที่จำหน่ายภายในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นจึงส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซยังคงอยู่ที่ประมาณลิตรละ 9 – 15 บาท ซึ่งอาจจะไม่สามารถจูงใจให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาติดตั้งระบบก๊าซได้มากเฉกเช่นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551 ที่ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซเพิ่มขึ้นสูงถึงลิตรละ 27 – 36 บาท อีกทั้งจำนวนรถยนต์ที่เข้ารับการติดตั้งระบบก๊าซในช่วงก่อนหน้านี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับความกังวลด้านความปลอดภัยจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ยังคงมีอยู่ ตลาดการติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์จึงเข้าสู่ช่วงเวลาที่ผู้ใช้บริการเป็นผู้มีอำนาจในตลาด ผู้ประกอบการรับติดตั้งระบบก๊าซที่จะสามารถอยู่รอดได้จะต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานในการติดตั้งที่สูง ซึ่งได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยในการติดตั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และจากผู้เคยใช้บริการ รวมไปถึงจะต้องมีบริการหลังการขายที่ดี และมีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจที่สูง

อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติของราคาน้ำมันที่มีความผันผวนสูง หากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศขยับขึ้นไปเกินกว่าลิตรละ 35 บาท ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่ราคาก๊าซยังคงขยับสูงขึ้นไม่มากนัก จนส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศและราคาก๊าซเพิ่มขึ้นมากกว่าลิตรละ 20 บาท ธุรกิจติดตั้งก๊าซในรถยนต์ก็อาจจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่งได้