DEMCO เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ชะลอตัว ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แจงเป็นช่วงรับรู้รายได้งานโยธาที่มาร์จินน้อยเป็นปกติ ขณะที่งานเสาโครงเหล็กชะลอตาม หลังเหตุการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบ ยอมรับเกาะติดแผนการลงทุนภาครัฐและเอกชนให้ชัดเจนก่อนประเมินภาพรวมธุรกิจใหม่ แต่มั่นใจรายได้ทั้งปีไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว เหตุรัฐเดินหน้าประมูลงานรอบใหม่ หลังจากปรับราคาประมูลตามต้นทุนงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น
นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 462.17 ล้านบาท ลดลง 61.86 ล้านบาทหรือ 11.80 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 524.03 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 25.70 ล้านบาท ลดลง 18.40 ล้านบาทหรือ 41.72 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 44.10 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,592.50 ล้านบาท ลดลง 264.46 ล้านบาทหรือ 14.24 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,856.96 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 174.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.96 ล้านบาทหรือ 36.91 % จากกำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปี 2550 ซึ่งอยู่ที่ 127.22 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ DEMCO ชี้แจงว่า สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 และงวด 9 เดือนชะลอตัวลงนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิกฤติการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริการวมทั้งยุโรปที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง แต่เกิดขึ้นเนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯอยู่ระหว่างการดำเนินงานด้านโยธาหรืองานก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานที่มีส่วนต่างอัตรากำไรขั้นต้นหรือมาร์จินค่อนข้างน้อย ขณะที่งานผลิตเสาโครงเหล็กก็ลดลงตามไปด้วย หลังจากหลายๆ พื้นที่ในประเทศไทยประสบภาวะน้ำท่วม ทำให้คู่ค้าลดจำนวนการรับมอบเสาโครงเหล็ก
“ในไตรมาสที่ 3 เราไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่เป็นเพราะปัจจัยทั้ง 2 ประการที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่า หากประเมินภาพรวมทั้งปีอาจจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ก็เชื่อว่าอัตราการเติบโตจะทรงๆ ตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว” กรรมการผู้จัดการ DEMCO กล่าว
ด้านนายไพฑูรย์ กำชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงินและบัญชี DEMCO กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทฯ กำลังพิจารณาความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อกำหนดทิศทางและประเมินภาพรวมธุรกิจใหม่อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการประมูลภาครัฐหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง หลังจากที่ต้นทุนวัสดุก่อสร้างมีราคาปรับสูงขึ้น ทำให้ภาครัฐต้องปรับราคาประมูลใหม่ ซึ่งหลังจากไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกของปี 2552 ภาครัฐจะเริ่มการประมูลใหม่ ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว DEMCO เชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้าประมูลและตุนงานในมือ (Backlog) ได้อีกครั้ง
“งานประมูลของภาครัฐที่รออยู่จนถึงไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า จะมีมูลค่ารวมประมาณ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญงานภาครัฐ ทำให้เชื่อว่า DEMCO จะสามารถประมูลงานบางส่วนได้ ถือว่าเรายังโชคดีที่ยังมีงานภาครัฐเข้ามาเรื่อยๆ อย่างน้อยก็จนถึงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนงานภาคเอกชน เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากว่า แผนการลงทุนของภาคเอกชนมีความชัดเจนจนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น ขณะที่ปีหน้าเราเชื่อว่าเอกชนคงจะปรับแผนการลงทุนใหม่ทั้งหมด ซึ่ง DEMCO จะต้องรอความชัดเจนในส่วนนี้ ก่อนที่จะประเมินแผนธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป” นายไพฑูรย์กล่าว
ส่วนปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงินและบัญชี DEMCO กล่าวว่า ไม่ได้ส่งผลบวกกับบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากต้นทุนน้ำมันมีผลกับ DEMCO ค่อนข้างน้อย ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาท แม้ว่าจะบริษัทฯ จะนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เนื่องจากได้ซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าไว้แล้ว